แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Wwwarjanjencom เมื่อ 2013-9-4 15:26
“เรื่อง รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และจะติด.....................”
1.การพูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อหรือพิมพ์ข้อความที่บิดเบือนจากหลักคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณจะได้รับ...................... เพราะถือว่าสิ่งที่คุณกระทำนั้นเป็นการผิดศีลอย่างไม่ต้องสงสัยค่ะ
2.หากมีผู้ใดมาบอกคุณว่าคุณไม่ต้องทำสังฆทานเพราะคุณได้ทำมามากมายแล้วนั้น ดิฉันขอบอกว่าเป็นคำพูดและ ความคิดที่ผิดจากหลักคำสั่งสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่นหนึ่งในพระชาติขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ เป็นชาติสุดท้ายท่านได้เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรได้สร้างทานบารมีจนเป็นผลสำเร็จมาแล้ว เพราะฉะนั้นทานบารมี เป็นทานที่กระทำเบื้องต้นเพื่อละความโลภ และเป็นการสละทรัพย์หรือลดละความตระหนี่ถี่เหนียวของตน จากประสบการณ์ของดิฉันหากท่านได้ไปกรวดน้ำโดยไม่มีบุญใดๆ ไปให้กับญาติหรือสัมภเวสี แทนที่คุณจะได้รับ บุญกลับทำให้เพวกเขาเหล่านั้นโกรธเพราะคุณยังไม่มี ต้นทุนทาน ต้นทุนศีล ต้นทุนภาวนาที่จะไปกรวดน้ำให้พวกเขาเลย เมื่อพวกเขามารอรับบุญแต่ไม่ได้บุญใดๆ พวกเขาก็จะสาปแช่งท่านก็เหมือนกับคนที่พบกับความผิดหวังในการมารอรับ การแจกทานเมื่อถึงตนแล้วของทานนั้นหมดจะเสียความรู้สึกมาก ดิฉันจึงขอให้หยุดความหลงผิดนี้เสียเถิด
3.การที่คุณจะเป็นผู้มีบุญบารมีหรือที่เรียกว่าเป็นผู้มีญาณทัศนะ ญาณหยั่งรู้ตัวใดๆ หรืออภิญญาญาณก็ตามโปรด พิจารณาไตรตรองด้วยเถิดเพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการทำพิธีการแปลกประหลาดแต่ประการใดเลย ไม่ว่าจะเป็น การดื่มน้ำอมฤต การเต้นลีลาศเคลื่อนไหว การชุบตัวในอ่างทองคำ การสักยันต์การเปิดอายตะนะ 6 และการเผาชื่อตนเอง ฯลฯ แต่การจะเข้าถึงซึ่งญาณตัวใดๆจะต้องเป็นการสะสมบุญบารมีมามากกว่าหนึ่งชาติขึ้นไป การสะสมนี้ก็หมายถึง การทำทานเพื่อผลักดันศีล การทำศีลเพื่อผลักดันวิปัสสนา และต้องขอบอกว่าต้องทำเป็นนิจอย่าทำชีวิตเหมือน ไวไว หรือ มาม่า สูตรสำเร็จ มิฉะนั้นชีวิตคุณจะตกเป็นเหยื่อของความโลภนี่เป็นแค่เพียงสิ่งเล็กน้อยที่ดิฉันต้องการที่จะบอกแก่ ทุกท่านเท่านั้นแต่มีสิ่งอื่นอีกมากมายที่ต้องการจะบอกโปรดติดตามในหนังสือเล่ม 3 ต่อไปนะค่ะ
4.การยึดติดในตัวตน เช่น คุณไปหาหมอดูหรืออาจารย์หลายท่าน เขามักจะบอกคุณว่า คุณมีองค์เพราะเขารู้ จริตของมนุษย์ว่าทุกคนอยากเด่น อยากดัง อยากเป็นที่ยอมรับอยากอยู่เหนือผู้คน แต่คุณก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจของ คุณเองว่า ชาตินี้คุณได้ทำดีหรือทำไม่ดีหรือทำผิดศีล ข้อใด เช่น คุณทำแท้งมา 4-5 ครั้ง ผิดศีลข้อกาเม ผิดลูกผิดเมียผู้อื่นมาเป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน ดื่มสุราอยู่เป็นนิจ แล้วจะมีเทพเทวาองค์ใดเล่ามาปกปัก รักษาคุณ หากเคยมีก็ย่อมเสื่อมไปเป็นธรรมดาเพราะกรรมอยู่เหนือกฏของเทวะ แม้แต่เทพเมื่อหมดบุญแล้วก็ยัง ต้องลงมาเกิดใหม่ เพราะ 100 วัน ของโลกมนุษย์ เท่ากับ 1 วันโลกสวรรค์ จากการที่ดิฉันตรวจกรรมผู้คนมากมาย ดิฉันก็ได้แนะนำแนวทางการปฏิบัติตนที่ถูกต้องเพื่อจะลดทอนวิบาก กรรมสำนึกในกรรมที่เขาเหล่านั้นทำมา แต่เขาเหล่านั้นกลับไม่สนใจและไม่ใส่ใจจนทำให้กรรมส่งผลตามที่ดิฉันบอกไป เช่น คุณจะพิการ คุณจะต้องผ่าตัดสมอง คุณจะป่วยถึงขั้นพูดไม่ได้ คุณจะมีสามีถึง 3 คน คุณจะตาบอด คุณจะไม่สมหวังในความรัก ฯลฯ ด้วยเหตุแห่งกรรมซึ่งคนส่วนมากมักจะจดจำแต่กรรมดี และทวงถามว่ากรรมดีนั้น เมื่อไหร่จะได้รับแต่ทุกคนได้ทบทวนกรรมชั่วที่ผ่านมาหรือไม่ โดยไม่คิดที่จะกลับไปสำนึกบาปกรรมที่คุณได้กระทำมา ในแต่ละวันน้อยคนนักที่จะคิดในเรื่องนี้ อย่ารอให้สายเกินไปจนกรรมส่งผลแล้วค่อยมาร้องขอให้ อ.เจน ช่วย ดิฉันขอบอกว่า แม้ดิฉันจะแยกร่างเป็น 10 ร่าง อย่างอวตาล ก็ไม่สามารถช่วยเหลือคุณได้เลย เพราะกฏแห่งกรรม อยู่เหนือกฏทั้งปวง และเป็นกฏที่ยุติธรรมที่สุดโกหกหลอกลวงไม่ได้ ดิฉันขอยกตัวอย่างหนึ่งเรื่องค่ะในสมัยพระพุทธกาล ชายผู้หนึ่งได้รับฟังคำทำนายจากหมอดูว่าต่อไปในอนาคต เขาจะต้องตายภายใต้ร่มเศวตฉัตรทำให้เขาเข้าใจผิดในคำทำนายว่าเขาจะได้เป็นกษัตริย์ในอนาคตจึงเฝ้าแต่รอคอย ว่าสักวันหนึ่งตนจะได้เป็นกษัตริย์ จึงไม่คิดจะทำบุญ ทาน ศีล ภาวนาใดๆ เลย จนต่อมาชายผู้นี้ได้เจ็บป่วยใกล้จะตาย และได้มีกัษัตรเสด็จประพาสผ่านมาพบเห็นชายผู้นี้ที่ใกล้หมดลมหายใจจึงเสด็จเข้ามาดู ซึ่งมหาดเล็กที่ติดตามมา รับใช้กษัตริย์ได้กางร่มเศวตฉัตรให้กับกษัตริย์ที่ยืนอยู่ต่อหน้าชายผู้หลงผิดที่กำลังจะสิ้นลมหายใจ และต่อมาชายผู้นี้ ก็ได้ตายลงภายใต้ร่มเศวตฉัตรของกัษัตริย์จริงๆ ตามคำทำนาย ธรรมมะเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนเราอย่ารอคำทำนายของผู้ใดทั้งสิ้น ว่าชีวิตเราจะเป็นอย่างไรจงเร่งเจริญภาวนา ถือศีล ทำทานให้เป็นนิจ อย่ารอเวลาให้เป็นอย่างชายผู้นี้ เพราะว่าสิ่งที่เขาทำนายในอนาคตว่าดีแต่หากคุณทำไม่ดี ในช่วงอายุก่อนที่จะถึงคำทำนาย คุณก็อาจจะโดนอุปฆาตกรรมตัดรอน หรือที่เรียกว่าตายก่อนกำหนด หรือตายก่อน ถึงฆาต นั่นเองค่ะ ที่กล่าวมานี้คุณจะกลับไปย้อนทำความดีไม่ทันแล้วค่ะ
5.ดิฉันต้องการทำความเข้าใจกับทุกท่านในเรื่องของเทพ หรือเทวดาทุกๆ ชั้นเวลาเราจะนึกถึงพวกท่าน ไม่ใช่การเชื่อมต่อบุญกับท่านด้วยการทำพิธีแปลกๆ อย่าคิดถึงเทพไปในทางว่าองค์ใดองค์หนึ่งใหญ่กว่า หรือว่าคุณ ไปขอพรเทพองค์ใดได้ผลมากกว่ากัน เพราะเทพไม่มีทางสอนให้คนยึดติดหรือมีความโลภ จึงอยากให้ท่านทั้งหลาย ระลึกถึงคุณงามความดีของเทพที่ได้กระทำต่อมวลมนุษย์โดยการมีหน้าที่ต่างๆ ของท่านในการนำให้คนกระทำ ความดีมากกว่าการขอพรจากท่าน ด้วยความโลภ หรือการติดสินบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดั่งคำว่า
สีเลนะ สุคะติง ยันติ ศีลนั้นจะเป็นเหตุให้ถึงความสุข
สีเลนะ โภคะ สัมปะทา ศีลนั้นจะเป็นเหตุให้ได้มาซึ่งโภคทรัพย์ สีเลนะ นิพพุติง ยันติ และศีลนั้นยังจะเป็นเหตุให้ได้ไปถึง นิพพาน คือความดับเย็นจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งปวง ตัสมา สีลัง วิโสธะเย ศีลจึงเป็นสิ่งที่วิเศษนัก ที่เธอทั้งหลาย พึงยึดถือเป็นหลัก ประจำชีวิต ประจำจิตใจ ปฏิบัติให้ได้ดังนี้แล
ทั้งนี้ทั้งนั้นขอบุญกุศลที่ได้ให้ธรรมมะเป็นธรรมทานนี้กลับไปสู่ทุกท่านที่ได้อ่านกระทู้นี้ด้วยเถิด และหวังว่ากระทู้นี้จะทำให้ทุกท่านเลิกหลงผิด เลิกยึดติดในตัวตน จงปล่อยวางจากอำนาจใดๆ ทั้งปวงที่เป็นอยู่แล้ว ทุกท่านจะเข้าถึงซึ่งแก่นของพระธรรมวินัยขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง
*** ดิฉัน อ.เจน ญาณทิพย์ คุณรุ้งตะวัน และทีมงาน ไม่ต้องการให้ท่านหลงในตัวตนของดิฉัน หรือศรัทธาในชื่อเสียงในความดังในความเป็น อ.เจน ญาณทิพย์ แต่ต้องการให้ทุกท่านศรัทธาในพระพุทธศาสนาศรัทธา
ในคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากท่านจะนึกถึงดิฉันก็ขอให้ท่านนึกถึงความดีที่ดิฉันได้นำ
พาผู้คนกระทำความดี เพื่อย่นย่อการเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในอนาคตอันใกล้นี้ค่ะ***
|