ร่วมแชร์ และ อนุโมทนาบุญ กับทริปพาคนไปปฏิบัติธรรมที่หุบกะพง 3วัน2คืน ชมรมวิปัสสน - ห้อง สำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณ อาจารย์เจน.com

อาจารย์เจน.com

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ดู: 8360|ตอบ: 39
พิมพ์หน้านี้ ก่อนหน้า ถัดไป

ร่วมแชร์ และ อนุโมทนาบุญ กับทริปพาคนไปปฏิบัติธรรมที่หุบกะพง 3วัน2คืน ชมรมวิปัสสน

[คัดลอกลิงก์]

111

กระทู้

280

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

เครดิต
24528




จี๊ดจ้าด....ขอมาเล่าเรื่องบ้างค้า...

ภาพความประทับใจที่ได้เห็นนี้ยังไม่เท่ากับเหตุการณ์ที่พวกเราได้ไปปฏิบัติจริงค่ะ เพราะพวกเราได้ทั้ง ความประทับใจ
ความอิ่มใจ ความสุขใจ อย่างหาที่เปรียบมิได้ ด้วยเหตุเป็นเช่นนี้ ทำบุญเลี้ยงพระพร้อมสังฆทาน กว่า 20 รูป นิมนต์
เจ้าอาวาสวัดวิมุตยาราม พร้อมคณะสงฆ์ ทั้งนี้ อ.เจน และคุณรุ้งตะวัน ได้ถวายปัจจัยเงินของผู้บริจาค โดยมีวัตถุประสงค์
สร้างลานเดินจงกลม เป็นเงิน 265,100.- บาท

ขออุทิศบุญแด่ทุกท่าน ดิฉันในฐานะคณะทีมงานและผู้ปฏิบัติทั้งหมด ก็ได้ระลึกถึงท่านผู้ที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ ผู้มีจิต
ศรัทธาในบุญ ที่ได้ร่วมบริจาคทรัพย์เป็นทาน สิ่งของ เครื่องใช้ และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดทั้งสิ้น ที่ทำให้เกิดการ
ปฏิบัติธรรม ณ สำนักปฏิบัติธรรมหุบกะพง ในครั้งนี้ ด้วยบุญใดกุศลใดที่ผู้ปฏิบัติทั้งหลายได้กระทำสำเร็จแล้ว พวก
ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศให้แก่ท่านผู้บริจาคทุกท่าน ด้วยบุญจากการปฏิบัติธรรม ถือศีล 8 สวดมนต์ และเจริญภาวนาค่ะ

การตรงต่อเวลานัดหมาย ผู้ปฏิบัติทุกท่านมากันตรงเวลาค่ะ อ.เจน และคณะทีมงานบางส่วนได้ออกเดินทางไปก่อน
เมื่อรถขับผ่านก็ได้เห็นถึงความตั้งใจ เวลา 5.30 น. คนมากันครบแล้วค่ะ เวลานัดหมายรถตู้ 6 คัน 6.00 น. แต่รถตู้มา
ช้ากว่าเวลาเล็กน้อย เพราะพวกเขาคิดเอาเองว่าคนส่วนมากมักจะมากันสายผิดเวลาเสมอไม่จำเป็นต้องตรงเวลา
แหมถ้าต่างคนต่างคิดกันอย่างนี้เขาจะมีเวลากำหนดกันทำไมค่ะ คนหนอคน...?. ทำให้ อ.เจน ต้องโทรติดตามรถมา
เพราะเกรงใจผู้คนที่ตั้งใจมากันแต่เช้าค่ะ

ความตั้งใจของผู้ปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติทุกท่านเมื่อมาถึงสำนักปฏิบัติฯ เมื่อทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ต่างก็ช่วยกันคนละ
ไม้คนละมือ ช่วยกันกางเต้นท์ ตั้งโต๊ะ ยกเก้าอี้ ปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาด ด้วยความรวดเร็วพร้อมปฏิบัติ และทุกคนก็
ช่วยกันอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน อ.เจน นำปฏิบัติแบบเข้มข้น ดังนั้น จึงทำให้เวลาพักผ่อนน้อย เวลาปฏิบัติมาก
แต่ทุกคนก็ตั้งใจปฏิบัติโดยไม่มีใครอู้เลยค่ะ ตั้งใจกันมาก

โดย อ.เจน นำปฏิบัติแบบเข้มข้น เริ่มจากการเดินจงกลม และนั่งสมาธิ ใช้เวลาแต่ละครั้งประมาณ 2 ชม. เราใช้เวลา

พักผ่อนน้อย ใช้เวลาปฏิบัติมาก แต่ทุกคนก็ตั้งใจปฏิบัติโดยไม่มีใครอู้เลยค่ะ ตั้งใจกันมาก แม้แต่ผู้สูงอายุก็ไม่ย่อท้อต่อ
การปฏิบัติ อ.เจน บอกว่า เวลาเรามีน้อยต้องปฏิบัติให้มากเพราะผู้บริจาคเขาตั้งใจเราต้องปฏิบัติอย่างตั้งใจค่ะ  และผล
ที่ได้ก็จะได้แก่ตัวของเราเองไม่ใช่ใครหรือผู้ใดทั้งนั้น เราอุตส่าห์ละจากหน้าที่การงานมาเพื่อถือศีลปฏิบัติธรรมแล้ว
ก็ต้องทำให้ดีที่สุดค่ะ

ผลที่ได้รับจากการปฏิบัติ
อ.เจน มีตาทิพย์หูทิพย์ จากการติดตาม อ.เจน มานาน ดิฉันจึงทราบดีว่า หากใครได้ปฏิบัติธรรมกับ อ.เจน เช่น

การทำบุญใด ๆ ก็ตาม เมื่อเวลาอุทิศบุญ หรือไป ณ สถานที่แห่งใด อ.เจน จะมีตาทิพย์หูทิพย์ คือ ตาทิพย์ จะเห็นภาพ
ย้อนอดีตไปได้ว่า สถานที่นี้ครั้งหนึ่งในอดีตมีความเป็นมาอย่างไร หรือเวลาอุทิศบุญ ต่างก็จะมีเหล่าเทพ เหล่าพรหม
สิ่งศักดิ์สิทธิ หรือแม้กระทั่งบรรดาญาติพี่น้องและเจ้ากรรมนายเวรของแต่ละท่านเขามารับบุญกันมากน้อยเพียงไร
แล้วมากันในลักษณะใดบ้าง เมื่อ อ.เจน เห็นเช่นนั้น ก็จะนำจบให้กับสิ่งที่เห็น หากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ก็จะสังเกตเห็นได้ว่า
บางครั้ง อ.เจน จะกล่าวนำจบสังฆทานให้กับอะไรบางอย่างที่ อ.เจน เห็นและสื่อรู้ได้ค่ะ เป็นสิ่งที่เหนือธรรมชาติ พวกเรา
ก็พูดตามเพราะไม่รู้ แต่ อ.เจน รู้ว่าสิ่งนั้นที่มาปรากฏเขาอยากได้บุญจากพวกเราค่ะ
ปฏิบัติธรรมกับ อ.เจน ผู้มีญาณทิพย์ดีอย่างไร

ดีตรงที่ว่า อ.เจน สามารถสอบวาระจิตของเราขณะปฏิบัติกรรมฐานได้ ว่าเราติดขัดสิ่งใดบ้าง ซึ่ง อ.เจน ก็จะเดินสำรวจตรวจตรา

และกระซิบบอกเป็นรายๆ ไป ครั้งนี้ ใครโดนทักทายบ้างเอ่ย ขณะนั่งสมาธิใครหนอที่โอน กระซิบว่ให้ทำอย่างไรจึงถูกต้อง
นั่นถือว่า ท่านเป็นผู้โชคดีแล้วค่ะ เพราะท่านผู้ปฏิบัติจะได้นำอารมณ์นั้นไปถือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องไม่ติดขัดและ
ทำให้พัฒนาขึ้น ๆ ไปค่ะ ผลที่ได้รับที่ได้มาปฏิบัติธรรม  ดิฉันขอเล่าเป็นเรื่อง ๆ เลยค่ะว่า รู้เห็นได้ด้วยตนเองอย่างไร

เรื่องที่ 1
น้องหนึ่ง (นามสมมุติ) ขณะเดินจงกลมมีอาการเหงื่อแตก ใบหน้าซีด อาการคล้ายจะเป็นลม ดิฉันสังเกตเห็นว่าถ้าจะไม่ดี

ก็จึงเดินเข้าไปถามว่าไหวหรือไม่ถ้าไม่ไหวให้นั่งลงอย่าฝืน แต่น้องหนึ่งมีความเพียรมากเขาพยายามต่อสู้กับอาการที่เกิดขึ้น
แต่ก็เดินบางหยุดพักบ้าง ท่าหยุดยืนของน้องหนึ่ง น้องเขายืนตัวโค้งงอไปข้างหน้า เหมือนคนหลังหักพับครึ่ง มือทั้งสองข้าง
จับอยู่ตามเอวของตน ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดทรมาน แล้วค่อยเริ่มเดินจงกลมเมื่ออาการคลายลงแล้ว
คนที่มาปฏิบัตินี้ อ.เจน ใส่ใจกับทุกคน แต่ด้วยถือศีล 8 และเป็นที่ธรณีสงฆ์ด้วยแล้ว อ.เจน ช่วยเหลือใครไม่ได้ค่ะ แต่หากว่า

บรรยายธรรม ก็ทำได้เพราะเพื่อเผยแพร่เป็นวิทยาทานแก่คนหมู่มาก แต่ก็ต้องขออนุญาตบุคคลเหล่าก่อน
ดังนั้น อ.เจน จึงขออนุญาตน้องคนนี้เพื่อเป็นธรรมมะสอนผู้คน เมื่อน้องอนุญาต อ.เจน : คุณมีอาการร้อนไปทั้งตัว

อยู่ที่ไหนก็ร้อนลุ่มไปหมด
น้องหนึ่ง : ค่ะ หนูรู้สึกร้อนอยู่ตลอดเวลา สุขภาพก็ไม่ดี เป็นมาตั้งแต่เกิดค่ะ
อ.เจน :  คุณมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เป็นสัมมาอาชีพของบิดามารดา และน้องเองก็ยังมีกรรมกับบิดามารดาอีกด้วยในชาตินี้
           ขอโทษคุณช่วยบอกให้ทราบด้วยว่าบิดามารดาทำอาชีพอะไร
น้องหนึ่ง : ค่ะ บิดามารดาของหนู มีอาชีพหล่อหลอมทองแดง หรือหล่อเป็นองค์พระนั่นแหละค่ะ
อ.เจน :ที่ต้องถามเพื่อให้ตอบให้ทุกท่านรับทราบว่า แร่ธาตุ รัตนะชาติ เป็นทรัพย์ของแผ่นดิน การนำทองแดงมาหล่อหลอม

อย่างนี้เป็นกรรมและกรรมนั้นก็จะมาตกถึงลูกหลาน กรรมเป็นเผ่าพันธุ์ตามที่พระพุทธองค์ท่านตรัสไว้แล้วค่ะ
อ.เจน พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนเป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์

มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย


สรุป เราทุกคนเป็นทายาทกรรม..พวกเรามีเผ่าพันธุ์คือ กรรม และกำเนิดเกิดมาก็เพราะ
กรรมหนีกรรมไปไหนไม่พ้น เพราะ กรรม เป็นญาติ พี่น้อง...เผ่าพันธุ์ของเรา
อ.เจน ได้แนะนำวิธีการผ่อนหนักให้เป็นเบาให้แก่น้องสาวคนนี้ไปค่ะ ต้องขออภัยด้วยที่ดิฉันไม่ได้แจ้งวิธีการโดย

ละเอียดก็เพราะว่า แต่ละคนนั้นวิธีการแก้ไขจะไม่เหมือนกันเป็นการเฉพาะเจาะจงของคนๆ นั้นค่ะ


เรื่องที่ 2
น้องสอง (นามสมมุติ) น้องคนนี้ เขาดีใจมากเพราะ น้องไม่เคยปฏิบัติเคร่งครัดอย่างนี้มาก่อน เมื่อเคร่งมากจึงเห็นภาพกรรม

ของตนเองในชาตินี้ น้องเล่าให้ฟังว่า ขณะที่นั่งสมาธิอยู่นั้นก็มีความรู้สึกปวดหัวเข่า ปวดขา และขาก็เริ่มแข็ง และชา
ไปในที่สุด เหมือนกับถูกสต๊าปเอาไว้ ก็รู้สึกแปลกใจ และก็ได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อนในวันรุ่นสมัย
ที่เป็นนักเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ตอนนั้น เป็นนักศึกษาต้องทกงานวิจัยส่งอาจารย์ ด้วยวิธีการนำน้ำยาฟอร์มารีน
(น้ำยาฉีดศพ) ใส่ในเข็มฉีดยา และนำมาฉีดที่ตามข้อพับขาของปู (ปูที่ยังไม่ตาย) เมื่อฉีดยาเข้าไปแล้วปูเหล่านั้นก็
หมดความรู้สึก ขาแข็ง และ ชา หลังจากนั้นก็จะทำการ จัดการหักขาของปูให้สวยงามตามที่ต้องการ น้องบอกว่า
ชิ้นงานจะสวย ของนั้นต้องสด ค่ะ งานจะออกมาสวย แต่ภาพที่น้องเห็นนี้มาตอกย้ำว่า ที่ขาแข็งและชาอยู่นี้เกิดจาก
ผลกรรมในชาตินี้ น้องจำได้ค่ะ และรู้สึกตื่นเต้นมากที่ไม่เคยพบเจอกับเหตุการณ์นี้มาก่อน โดยสามารถรับรู้กรรมใน
ชาตินี้ของตนเองด้วยบุญที่ทำครั้งนี้ น้องพูดว่า หนูเชื่อเรื่องกรรมแล้วว่าเวรกรรมมีจริง
เรื่องนี้ ดิฉันก็ได้ไปเล่าให้ อ.เจน รับฟัง อ.เจน พูดว่า การนั่งสมาธิด้วยวิธีที่ถูกต้องจะช่วยให้สามารถพัฒนาจิตของเราได้
พระธรรมคุณบทหนึ่งว่า ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ แปลว่า พระธรรมอันผู้บรรลุจะพึงรู้เฉพาะตัว, คำว่า ปัจจัตตัง ใน

ที่นี้หมายถึงว่า ความสุขที่เกิดจากการบรรลุธรรม เป็นความสุขที่ผู้บรรลุจะรู้กับใจของตัวเอง ต้องปฏิบัติเองจึงจะได้
รู้เองเห็นเอง โดยไม่ได้รับฟังจากการบอกเล่าของคนอื่นหรือให้คนอื่นปฏิบัติแทนตน.

เรื่องที่ 3
น้องสาม (นามสมมุติ) น้องคนนี้ เขาก็ได้รับฟังเรื่องของน้องสอง ก็พูดขึ้นมาว่า โอ้..เหมือนกับเราเลย เราก็เรียน

วิทยาศาสตร์ ทำการทดลองเหมือนกันเลย แต่เราจับแมลงต่างๆ มาสต๊าป จัดสวยส่งอาจารย์เหมือนกัน ดิฉันเลย
ถามไปว่า แล้วเรานั่งสมาธิเกิดอาการอะไรบ้างล่ะ น้องสามบอกว่า ก็ไม่ได้เห็นภาพอย่างน้องสองหรอกค่ะ แต่เกิด
อาการปวดขาทั้งสองข้างเป็นอย่างมากเหมือนกับมีคนเขามาหักขาของตนทรมานเกือบทนไม่ได้ ถ้าจะพูดถึง
เรื่องของกรรม ก็ไม่แปลกใจค่ะ เพราะว่า สมัยเป็นนักเรียน น้องสามจะจับแมลงต่าง ๆ มาจัดขา จัดปีก ในขณะที่
แมลงนั้น ๆ ยังมีลมหายใจ และให้มันตายไปทีละน้อย เพื่อผลงานที่ออกมาดี งานสด ศพสวย อาจารย์พึงพอใจ
ได้คะแนนเต็มก็จบแล้ว ค่ะ

เรื่องที่ 4
น้องสี่ (นามสมมุติ) อ.เจน ได้ถามว่าใครมีอะไรสงสัยเรื่องการปฏิบัติบ้าง แต่น้องคนนี้ขอถามเรื่องที่เกี่ยวกับโลก

วิญญาณ ที่น้องประสบมา ซึ่ง อ.เจน ได้เห็นกรรมของน้องสี่นี้ จึงต้องการขอเรื่องของน้องเพื่อเป็นธรรมทาน
มื่อน้องอนุญาต อ.เจน จึงพูดว่า ดิฉันเห็นกรรมของคุณ พูดได้หรือไม่ น้องสี่ กล่าวว่า พูดได้ค่ะ ดังนั้น อ.เจน
จึงพูดขึ้นว่า กรรมของน้องมีมากนัก ภาพที่เห็น คือ .......... ซึ่งน้องสี่ก็ยอมรับว่าจริง ดิฉันทำงานอยู่ในต่าง
ประเทศจริง และทำอาชีพเป็นธุรกิจ เช่นนี้จริง แต่ก็ต้องทำเพราะเป็นอาชีพ อ.เจน จึงแนะนำวิธีการอุทิศบุญ
ให้เป็นธรรมทานค่ะ

เรื่องที่ 5
คุณป้า แม้จะอายุมากแล้วประมาณ 60 กว่าปี รูปร่างค่อนข้างท้วม และขาไม่ค่อยดี คุณป้าจึงนั่งปฏิบัติสมาธิ

อยู่บนเก้าอี้ และที่สำคัญคุณป้าสามารถเดินจงกลมจนครบเวลา คุณป้าบอกว่า ไปปฏิบัติธรรม ถือศีล 8
มาหลายต่อหลายที่แล้ว แต่ที่นี่มีอาหารการกินพร้อม สถานที่สะอาด และการปฏิบัติไม่หย่อนยาน จึงทำให้
คุณป้าทำสมาธิได้ดีและสามารถเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดชีวิตที่ปฏิบัติธรรม คือ ได้เห็นคนสองหัว
ในร่างเดียวมายืนจ้องมองอยู่ และมองอยู่อย่างนั้นพักหนึ่ง โดยที่ไม่ได้หลับหรือคิดไปเองเป็นแน่ค่ะ

อ.เจน บอกว่า เป็นเจ้ากรรมนายเวรของคุณป้า ก็ให้บุญเขาไปค่ะ
บารมี คือ คุณความดีที่บำเพ็ญอย่างยิ่งยวด เพื่อบรรลุจุดหมายอันสูงยิ่ง
วิธีสร้างบุญบารมีในพระพุทธศาสนามีอยู่ ๓ ขั้นตอน คือการให้ทาน การถือศีล และการเจริญภาวนา ที่นิยมเรียกกันว่า

"ทาน ศีล ภาวนา" ซึ่งการให้ทานหรือการทำทานนั้น เป็นการสร้างบุญที่ต่ำที่สุด ได้บุญน้อยที่สุด ไม่ว่าจะทำมากอย่างไรก็ไม่มีทางที่
จะได้บุญมากไปกว่าการถือศีลไปได้ การถือศีลนั้นแม้จะมากอย่างไร ก็ไม่มีทางที่จะได้บุญมากเกินไปกว่าการเจริญภาวนาไปได้
ฉะนั้น การเจริญภาวนานั้น จึงเป็นการสร้างบุญบารมีที่สูงที่สุด ได้มากที่สุด ในทุกวันนี้เรารู้จักกันแต่การให้ทานอย่างเดียว
เช่นการทำบุญตักบาตร ทอดกฐินผ้าป่า สละทรัพย์สร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ส่วนการถือศีล แม้จะได้บุญมากกว่า
การทำทาน ก็ยังมีการทำกันเป็นส่วนน้อย เพื่อความเข้าใจอันดี จึงขอชี้แจงการสร้างบุญบารมี อย่างไรจึงจะเป็นการลงทุนน้อยที่สุด
แต่ได้บุญบารมีมากที่สุด ที่สำคัญที่สุด คือ อานิสงส์การเจริญภาวนา

บุคคลจะต้องได้รับการอบรมพัฒนาจิต เพื่อจึงจะอยู่ได้อย่างสงบสุข  พระผู้มีพระภาคทรงแนะวิธีอบรมจิตไว้อย่างไรบ้าง?

    พุทธดำรัสตอบ
     “... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญภาวนา (อบรมจิต) เสมอด้วยแผ่นดินเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยแผ่นดินอยู่

ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตได้
     ดูก่อนราหุล เปรียบเหมือนคนทั้งหลายทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง คูถบ้าง มูตรบ้าง น้ำลายบ้าง น้ำหนองบ้าง เลือกบ้าง

ลงที่แผ่นดิน แผ่นดินจะอึดอัด หรือระอา หรือเกลียดด้วยของนั้น ก็หาไม่ฉันใด เธอจงเจริญภาวนาเสมอด้วยแผ่นดินนั้น ฉันนั้นแล”

    “... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญภาวนาด้วยน้ำเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยน้ำอยู่ ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบ

ใจที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตได้... เปรียบเหมือนคนทั้งหลายล้างของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ลงในน้ำ... น้ำจะอึดอัด หรือระอา
หรือเกลียดด้วยของนั้น ก็หาไม่...”
     “... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญภาวนาด้วยลมเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยลมอยู่ ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบ

ใจที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตของเธอได้... เปรียบเหมือนลม ย่อมพัดต้องของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง... ลมจะอึดอัด หรือระอา
หรือเกลียดด้วยของนั้น ก็หาไม่...”

     “... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญภาวนาด้วยอากาศเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยอากาศอยู่ ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจ

และไม่ชอบใจที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตได้... เปรียบเหมือนอากาศไม่ตั้งอยู่ในที่ไหนๆ...”

     “... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญเมตตาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญเมตตาภาวนาอยู่ จักละพยาบาท (ความคิดจองล้าง) ได้

เธอจงเจริญกรุณาภาวนาเถิดเพราะเธอเมื่อเจริญกรุณาภาวนาอยู่ จักละวิหิงสา (ความคิดเบียดเบียน) ได้เธอจงเจริญมุทิตาภาวนาเถิด
เพราะเมื่อเธอเจริญมุทิตาภาวนาอยู่ จักละอรติ (ความอิจฉาตาร้อน) ได้ เธอจงเจริญอุเบกขาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญ
อุเบกขาภาวนาอยู่ จักละปฏิฆะ (ความขุ่นเคือง) ได้ เธอจงเจริญอสุภภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญอสุภภาวนาอยู่ จักละราคะ
(ความกำหนัดยินดี) ได้เธอจงเจริญอนิจจสัญญาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญอนิจจสัญญาภาวนาอยู่จักละอัสมิมานะ
(ความถือตัวว่าเป็นเรา) ได้”

วัดที่ดิฉันเรียกจนติดปากว่า “วัดไก่หิวๆๆๆ” ที่จริงแล้ว ชื่อ สำนักสงฆ์เขาโป่ง อยู่ใกล้กับสำนักปฏิบัติธรรมหุบกะพง ประมาณ 4 กม.

เห็นจะได้ วันที่สอง อ.เจน ได้นำพาเดินชมธรรมชาติด้วยการเดินธุดงค์ ไปที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ แต่ไม่ใครรู้ว่าที่นี่มีอะไร สยองเล็กน้อยถ้ารู้ความจริง คือเรื่องมีอยู่อย่างนี้ค่ะ ครั้งแรกที่มาอยู่ที่นี่ ซึ่งเรื่องวัด ไก่ หิวๆๆๆ ขอเล่าอย่างย่อ สำนักสงฆ์เขาโป่ง
เดิมเป็นวัดร้าง แต่ตอนนี้มีพระสงฆ์มาอยู่ 1 รูป เป็นเจ้าอาวาสดูแลสถานที่แห่งนี้ และทยอยมาอีก จนปัจจุบัน 7 รูป แล้วค่ะ

เพราะอะไรจึงเกือบมาเป็นวัดร้าง (อ.เจน เห็นในญาณวิถีว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นเมืองของยักษ์ค่ะ) เพราะเกิดอุบัติเหตุแก่พระสงฆ์ทั้งวัด
มีอยู่วันหนึ่งพระวัดนี้รับกิจนิมนต์ไปด้วยรถตู้ เมื่อรถตู้ขับเคลื่อนออกจากปากซอยวัดก็ชนเข้าอย่างจังกับรถบัสใหญ่ จนเป็นเหตุให้
พระสงฆ์ต้องเสียชีวิตทั้งคันรถค่ะ และวิญญาณท่านก็อยู่ในวัดแห่งนี้ เพราะที่ทราบก็คือทุกครั้งที่มาหุบกะพง คณะเราก็จะไปที่วัดนี้ทุกครั้ง
เพราะสงสารพระท่านอยู่อย่างลำบาก ก็ถวายอาหาร และสังฆทานท่านเป็นประจำ แต่ท่านก็ไม่รู้ว่า คนนี้คือ อ.เจน ค่ะ ขณะกรวดน้ำ
วิญญาณของพระทุกรูปต่างก็มารับบุญของพวกเราพร้อมกับเหล่าสัมภเวสีทั้งหลายตน เพราะ อ.เจน ได้เห็นในตาทิพย์นะค่ะ
ดิฉันไม่ได้เห็นเองค่ะ เพราะขณะที่เห็น อ.เจน ก็กล่าวนำพูดอุทิศนี้ ให้แก่....... ดิฉันจึงทราบ และเจ้าอาวาสท่านก็ได้นำพาพวกเรา
ชมบรรยากาศโดยรอบพร้อมกับแนะนำว่า สถานที่ที่เรายืนอยู่เดิมเป็นอะไร ตามรูปที่ท่านเห็นพวกเรานั่งสมาธิกันที่พื้นหญ้าที่อุดมเขียวขจี
น่านั่งเป็นที่สุด แต่หารู้ไม่ว่า ตรงนั้นเป็นในอดีตเป็น กองฟอน ที่เขาใช้เผาศพ และห่างออกไปอีก เป็นหลุมขนาดใหญ่ที่เขานำกระดูก
ของใครต่อใครไปฝังอยู่ในนั้น คิดดูสิค่ะ สัพพะวิญญาณเป็นจำนวนมากอาศัยอยู่ ณ สถานที่วัดนี้ยังไม่ไปผุดไปเกิดอีกหลายตน ค่ะ
และพวกเราก็นั่งสมาธิกันตรงนั้น

เมื่อถอนออกจากสมาธิมีพี่สาวคนหนึ่ง นั่งอยู่ติดกับดิฉัน ทำสีหน้าตกใจมาก ถามด้วยเสียงตื่นเต้นมากว่า คุณจี๊ดๆ ด้านหลังพี่ไม่มีใครนะ

แต่มีคนมากระตุกขากางเกงพี่ ดิฉันก็เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนแต่ที่อื่น และ อ.เจน ก็ได้เฉลยกับดิฉันมาแล้วว่ามันคืออะไร ก็คือ
วิญญาณสัมภเวสีเขาอยากได้บุญของเรา ดิฉันก็เลยบอกกับพี่เขาไปว่า พี่ก็อุทิศบุญให้เขาไปซิค่ะให้กับวิญญาณที่มากระตุกขากาง
พี่นั่นแหละ และดิฉันก็เดินไป พี่สาวคนนี้ ยังยืนตะลึงอยู่เลยค่ะนี่ขนาดเวลาประมาณ 5 โมงเย็นนะค่ะ ถ้าดึกกว่านี้มีหวัง เจอกันหลาย
เรื่องเล่าของเจ้าอาวาส มีหญิงคนหนึ่งชอบนำถ้วยชามมาถวายวัด มาที่วัดกี่ครั้งก็มาถวายถ้วยชาม จนท่านเจ้าอาวาสผิดสังเกตและ

อีกอย่างหนึ่งที่วัดนี้มีพระสงฆ์ 3 รูป ถ้วยชามเริ่มทยอยมาจนเป็น 2-3 เข่ง แล้ว เมื่อหญิงคนนี้มาที่วัดอีกพร้อมถ้วยชามจึงถามไปว่า
โยม ทำไมถวายแต่ถ้วยชามอาตมาต้องถามเพราะถ้วยชามเป็นจำนวนมากใช้ประโยชน์เพียงพระ 3 รูป ผู้หญิงคนนั้น จึงได้พูดขึ้นมาว่า
หลวงพ่อจะเชื่อดิฉันมั้ยเจ้าค่ะ ถ้าดิฉันเล่า แล้วหญิงคนนั้นก็เล่าว่า ดิฉันตายไปแล้วฟื้น เล่าให้ใครฟังบางคนก็เชื่อบางคนก็ไม่เชื่อ
มีคนพาดิฉันไประหว่างทางหิวเหลือเกิน และเห็นว่ามีคนเขากินข้าวปลาอาหารก็นึกอยากกิน จะไปขอเขากินเขาบอกไม่ใช่ของเจ้า
และก็ชี้ไปที่ที่หนึ่งแล้วบอกว่านั่นของๆเจ้า อาหารของฉันกองอยู่กับพื้นไม่มีถ้วยชามจัดวางเหมือนคนอื่น ต้องเอามือไปหยิบกินด้วยความหิว
และดิฉันก็ฟื้นขึ้นมา จำได้จึงถวายแต่ถ้วยชามนี่แหละค่ะ เจ้าอาวาสจึงเทศน์ให้โยมหญิงคนนั้นฟังว่า อะไรก็แล้วแต่ให้มันพอดีพอควร
อะไรที่มันมากเกินไปมันก็ไม่ใช่นะโยม พระพุทธเจ้าท่านยังต้องเดินสายกลาง จบ...


ที่วัดนี้ มีไก่หิวๆๆๆ

เพราะว่าบรรดาไก่แจ้ทั้งหลาย ตอนแรกเขาเอามาปล่อยไม่กี่ตัวต่อมามันแพระพันธุ์จนถึง 300-400 ตัน และวัดก็อยู่ห่างไกลจากผู้คน

อาหารไก่ อาหารพระลำบากพอกันและยังมีสุนัขอีกหลายตัว อ.เจน โยมและพวกเราก็สงสาร อ.เจน คุณรุ้ง แม่ตี้ จึงซื้ออาหารไก่
เป็นกระสอบมาถวายท่านอยู่ได้อีกนานเชียวค่ะ วันที่เราไปนั้นพระท่านขังไก่ไว้ในคอกใหญ่ เราจึงไม่เห็นกันค่ะ
ป้ายเชิญชวนของวัด เป็นอย่างนี้ ค่ะ “ไก่หิวๆๆๆ ข้าวก้นบาตรไม่พอ ค่าอาหารไม่พอ พวกหนูเป็นไก้แก้บน และขยายพันธุ์มากมาย

พวกหนูมีจำนวนมากๆๆๆจริง.....!! พระสงฆ์....จะทำไงดี......? ...ขอให้ผู้ใจบุญช่วยด้วย” ค่ะที่วัดนี้ห่างไกลความเจริญมากนานๆครั้ง
จะมีผู้ใจบุญผ่านมา ค่ะ ท่านเจ้าอาวาสวัดไก่หิวๆๆ ท่านบอกกล่าวแก่ทุกคนในวันนั้นว่า อาตมาออกบวชตั้งแต่หนุ่มไม่คิดขอสึกอีก
และได้ตั้งใจไว้ว่า จะไม่รับกิจนิมนต์ออกไปข้างนอกสำนักสงฆ์แห่งนี้ เพราะอาตมาตั้งใจปฏิบัติก็ไม่ต้องการออกไปพบกับทางโลก
ทุกวันอาตมาจะขึ้นไปบนเขาอยู่ที่นั่น และบางครั้งอยู่ข้างบนนั้นหลายเดือน แต่แล้วก็มีเหตุจำเป็นทำให้เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ฯ
ต้องออกมาจากสำนักสงฆ์ฯ ของท่านจนได้และเป็นครั้งแรกด้วยค่ะ ก็เพราะว่าท่านเจ้าอาวาสวัดวิมุติท่านแจ้งไว้ตั้งแต่วันแรกว่า
จะมาทำการสึกให้กับพวกเรา แต่เมื่อถึงวันสึกออกจากบวช พวกเรารอกันการเดินทางของเจ้าอาวาสจนเกือบบ่าย 2 โมง ท่านเจ้า
อาวาสท่านไม่มีโทรศัพท์ เพราะท่านเป็นพระเคร่งปฏิบัติค่ะ จึงติดต่อท่านไม่ได้ อ.เจน ก็เกรงว่าคณะเราจะกลับค่ำมืด กว่าจะถึงกรุงเทพฯ
รถต้องติดอย่างแน่นอนวันอาทิตย์ด้วย

ขณะนั้น อ.เจน เห็นในญาณวิถีของ อ.เจน ว่า หลวงพ่อวัดไก่หิวๆๆ จะเป็นผู้มาสึกให้กับพวกเราที่นี่ อ.เจน พูดว่า หรือว่าจิตคิดไปเอง

ส่วนคุณรุ้ง ก็บอกว่า ทำไมหนูถึงคิดว่าเจ้าอาวาสวัดไก่หิวๆๆ มาที่นี่นะ และก็เป็นอย่างนั้นจริงด้วยเมื่อเห็นว่าเวลาล่วงเลยไปมาก
คุณเป็ก จึงได้ขออนุญาต อ.เจน นิมนต์เจ้าอาวาสวัดไก่ๆๆ มาเป็นผู้สึกให้ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าท่านจะมาเพราะท่านได้ลั่นวาจาไว้ และ
คุณเป็ก ก็มาด้วยความภาคภูมิใจ โดยแอบกระซิบว่า พี่จี๊ด ผมไปนิมนต์ท่าน ท่านบอกว่า ไม่เคยรับกิจนิมนต์ไปที่แห่งใดตามที่พูด
โดยเห็นว่า เป็นโยมผู้นำ (หมายถึง อ.เจน) เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามหลักพระพุทธศาสนาอาตมา ก็ยินดี..
และแล้วท่านเจ้าอาวาสวิวิมุติท่านก็มาค่ะ ท่านไปสอนกรรมฐานพระสงฆ์ และรถติดมากค่ะ ซึ่งท่านก็ได้เทศน์เรื่องการปฏิบัติธรรม

ของพวกเราว่ามีอานิสงส์ดีอย่างไรค่ะ

เรื่อง สยองขวัญ
ขณะที่ อ.เจน เล่าเรื่องของน้องคนหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุโดยรถยนต์ วิญญาณเขาติดอยู่ในรถ ติดอย่างไรหรือ ก็คือ จิตดวงสุดท้ายของ

เธอตกหล่นอยู่ในรถจึงทำวิญยาณของเธอไม่สามารถออกจากรถนั้นได้ แม้แต่ที่บ้านน้องก็ได้ทำพิธีการอัญเชิญวิญาณของน้องออก
มาแล้ว แต่ก็น่ะนะ คนเชิญไม่สามารถสื่อสารและเห็นวิญญาณได้ จึงไม่ทราบว่า น้องก็ยังติดอยู่ แต่ อ.เจน สามารถมาสื่อสารได้ อ.เจน
อธิบายว่า วิญญาณน้องมารับบุญที่ญาตส่งให้ได้แต่ก็กลับไปอยู่ที่เดิมคือรถคันนี้  เรื่องนี้ขออุบเอาไว้ก่อนเพราะ อ.เจน จะนำไปเป็น
เรื่องเล่าให้ละเอียดในหนังสือเล่มต่อไป อันนี้กล่าวโดยย่อ ๆ ค่ะ

ขณะที่ อ.เจน กำลังเล่าเรื่องของนี้ให้ผู้ปฏิบัติเป็นธรรมทาน ตอนนั้นเวลาประมาณ 13.30 น. แสงแดดข้างนอกยังมี ภายในตึกก็

เปิดไปทั่วสว่างไสว แต่แล้วอยู่ๆ ขณะที่ล่าอยู่ ไฟก็ดับพรึบ...ทุกคนแหงนมองไฟกันเป็นตาเดียว อ.เจน พูดเพียงคำเดียวสั้น ๆ ว่า
น้องเขามาด้วยค่ะ อ.เจน บอกว่ายุ่งละซีพูดถึงเขาเขารู้ค่ะ พอสิ้นเสียง อ.เจน ไฟก็เหิดขึ้นมาอย่างเดิมอีกครั้งค่ะ  บรื้อ...ๆๆๆ  
ประสบการณ์นี้ผู้ปฏิบัติอยู่ในเหตุการณ์ทุกคน ค่ะ

อ.เจน บอกว่า เจ้าที่ เป็นคุณตา กับคุณยาย ใจดี  ระหว่างที่ปฏิบัติเสร็จแล้วทำการกรวดน้ำ อ.เจน ก็บอกให้อุทิศบุญให้กับท่านทั้งสอง
ด้วยและที่ลืมไม่ได้ผู้บริจาคทรัพย์และบริจาคสิ่งของให้ชมรมค่ะ

นอกจากนี้ เหล่าเทวดาทั้งหลายต่างมาอนุโมทนาบุญกับคณะหลายรอบค่ะ อ.เจน ฝากบอกมาค่ะ

จบแล้วค่ะ ที่จริงมีอีกแต่แค่นี้ดีกว่าเดี๋ยวคนอ่านเบื่อค่ะ อนุโมทนาบุญด้วยกันค่ะ









โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

111

กระทู้

280

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

เครดิต
24528
คัดลอกลิงก์
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2013-8-27 14:23:53 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้









































โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

111

กระทู้

280

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

เครดิต
24528
คัดลอกลิงก์
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2013-8-27 14:33:11 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้










โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

111

กระทู้

280

โพสต์

2หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

เครดิต
24528
คัดลอกลิงก์
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2013-8-27 14:47:13 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้



















โพสต์นี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติม

คุณจำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ ก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาลงทะเบียน

x

260

กระทู้

2456

โพสต์

7185

เครดิต

สมาชิก.

Rank: 7Rank: 7Rank: 7

เครดิต
7185
อนุโมทนาสาธุครับ
ปฏิปุจฉาวินีตา ปาริสา โน อุกกาจิตวินีตา
ศรัทธา ศีล วิริยะ สติ สุตตะ พหูสูต จาคะ หิริ โอตตัปปะ สมาธิ ปัญญา

อัพเกรด  60.67%

1

กระทู้

20

โพสต์

141

เครดิต

Junior

Rank: 2

เครดิต
141
ขออนุโมธนาสาธุกับผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่าน   
และขออนุโมธนาบุญกับผู็บริจาคให้กับชมรมวิปัสนา  ทุกๆท่าน
และดิฉันก็จะร่วมบริจาคเพื่อให้รุ่นต่อ ต่อไปได้มาปฏิบัติธรรมกัน

อัพเกรด  99.33%

3

กระทู้

112

โพสต์

498

เครดิต

Senior

Rank: 3Rank: 3

เครดิต
498
อนุโมทนาด้วยครับ

กรรมชั่วไม่อยากก่อเพิ่ม อยากเติมแต่กรรมดี

อัพเกรด  22.4%

64

กระทู้

369

โพสต์

1508

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
1508
8#
โพสต์เมื่อ 2013-9-11 16:10:11 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ

อัพเกรด  42.51%

85

กระทู้

898

โพสต์

2413

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
2413
9#
โพสต์เมื่อ 2013-9-11 16:37:14 | แสดงเฉพาะโพสต์ของสมาชิกนี้
ขออนุโมทนาบุญกับ อ.เจน ทีมงาน ผู้บริจาคปัจจัยและสิ่งของ และผู้ร่วมปฏิบัติธรรมทุกท่านอีกครั้งหนึ่งนะคะ สาธุ สาธุค่ะ

อัพเกรด  67.73%

0

กระทู้

747

โพสต์

3548

เครดิต

Master

Rank: 4

เครดิต
3548
อนุโมทนาสาธุค่ะ

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

รายชื่อผู้กระทำผิด|อุปกรณ์เคลื่อนที่|Archiver|อาจารย์เจน.com

GMT+7, 2024-5-11 15:33 , Processed in 0.139696 second(s), 21 queries .

Copy right © 2013 อาจารย์เจน.com.

Web Design By modifydiscuz.com

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้