สวัสดีจ้า จี๊ดจ๊าดมาแล้ววันนี้จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับผู้นำบุญโดยอาจารย์เจน ญาณทิพย์ ที่ได้นำพาผู้คนที่ฝักใฝ่ในบุญทุกท่านร่วมทำบุญกับคณะเสบียงสวรรค์ ทริปบุญลี้ลับ ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 8 - 10 กรกฎาคม 2565 พวกเรากลับมาแล้วนะคะมาถึงบ้านช่องของทุกคนแล้ว ซึ่งมีบางคนก็มาพูดว่าจะกลับบ้านแล้วเหรอไม่อยากกลับเล้ยยยแหมเวลาความสุขนี้ช่างรวดเร็วจัง โถ ๆ กลับมาเถอะค่ะ กลับมาตั้งหลักกันใหม่ กลับมาทำงานแล้วก็เก็บเงินไปทำบุญด้วยกันต่อค่ะซึ่งบุญทุกบุญที่ได้ตั้งใจไว้นั้น ได้สำเร็จตามที่ปรารถนาเรียบร้อยแล้วค่ะ ตามเจตนาของบุญที่ตั้งใจแล้วนะคะซึ่ง 8 สถานที่ที่ไปนั้นมีอะไรบ้างดังนี้ค่ะ คณะเสบียงสวรรค์ ลี้ลับ 14 ออกเดินทางจากกรุงเทพ ฯ ตั้งแต่เวลาประมาณ4 โมงเย็น ของวันที่8 กรกฎาคม 2565 ซึ่งเดินทางโดยรถตู้ 16คัน เป็นริ้วขบวนรถตู้ที่สวยงามเป็นระเบียบมากที่สุด เพราะทีมรถตู้เค้าก็มีมาตรฐานมีทีมงานที่ดีเพื่องานบุญของอาจารย์เค้า ไม่ให้มีบกพร่องเลยค่ะ ตลอดเส้นทางก็จะมีพักบ้างอะไรบ้างเพราะคนขับก็ต้องพัก คนนั่งก็ต้องเมื่อย แหมมันเมื่อยขบกันจริง ๆแต่เป้าหมายข้างหน้าทำให้ทุกคนมีแต่รอยยิ้มทักทายกันที่หน้าห้องน้ำของปั๊มน้ำมันนั่นเองค่ะเพราะทุกคนลุ้นกันว่าจะไปทำบุญกันที่จังหวัดไหนและที่วัดไหนกันน้า พวกเราทุกคนก็พากันสะบัดแขนสะบัดขากันตามประสานั่งรถนานๆ จี๊ดยืนอยู่แถวนั้นขยับแขนขาเหมือนกัน ก็พอดีพี่คนหนึ่งมาถามว่านี่จังหวัดอะไรแล้วคะ จี๊ดก็งงกึกอยู่พักหนึ่งแล้วหันไปถามคนข้าง ๆ ว่า พี่คะพี่ได้อ่านป้ายข้างทางกันมั่งมั้ยคะที่นี่ที่ไหนกันแล้วคะ ก็มันมืดมาก งัวเงียง่วงน้อนง่วงนอน คือตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะค่ะขอโทษนะคะ จึงมีพี่อีกคนหนึ่งได้ยินหันมาพูดขึ้นว่า อ๋อถึงนครพนมแล้ว ว่า งั้นอ้าวถึงแล้ว และนี่คงเป็นปั๊มสุดท้ายสินะ สถานที่ที่1 เช้าวันที่ 9 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณตี 5 มีแต่ความมืดแต่ขบวนรถตู้ 16 คัน ก็ขับเคลื่อนเข้ามาในวัดเสียแล้วที่วัดนี้เป็นวัดแรกที่ทุกคนจะได้ทำบุญกันทุกคนลงจากรถด้วยความตื่นเต้นเป็นการเข้าวัดทำบุญที่ไม่เห็นแสงสว่างเลยค่ะพวกเราเดินทางมากันถึงถิ่นอีสานกันแล้วค่ะ วัดแรกนี้ฟ้ายังไม่สาง ยังมืดอยู่ค่ะอาจารย์ก็ได้แจ้งให้คณะเดินทางทั้งหมดไปที่ศาลาเพื่ออาจารย์จะได้นำสวดมนต์ทำวัตรเช้าและนั่งสมาธิ ระหว่างรอพระสงฆ์ท่านไปบิณฑบาตรค่ะ และมอบหมายให้คุณรุ้งเป็นหัวหน้าชุดก็พากันไป5 คน ใครทำหน้าที่อะไรทำไปค่ะ อาหารคาวอาหารหวานที่ซื้อมาจากกรุงเทพฯ บรรจุลังมาอย่างดีเป็นอาหารชั้นเลิศที่อาจารย์หาซื้อมา และคัดสรรมาเป็นพิเศษเพื่อถวายพระสงฆ์ที่วัดนี้ค่ะซึ่งบางท่านก็มีคำถามมากมายว่าก็อยากจะซื้อของเลิศเหมือนกันนำมาร่วมบุญด้วยไม่ได้เชียวหรือซึ่งเรื่องนี้จี๊ดก็ต้องขออธิบายให้รับทราบกันนิดนึงค่ะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องไขข้อข้องใจ ประการที่ 1 เพื่อความสะดวกในการเดินทางเพราะภายในรถตู้ที่นั่งกันตู้ละ8 คนนั้นจะมีสัมภาระกระเป๋าเดินทางของผู้เดินทาง ประการที่ 2ภายในรถตู้ที่มีสัมภาระกระเป๋านั้น ในบางคันก็จะมีข้าวของสังฆทานที่คณะเสบียงสวรรค์ซื้อมาเพื่อถวายในแต่ละวัดก็มาอยู่ด้วยประการที่ 3 การถวายอาหารที่วัดต้องมีภาชนะจำพวก ถาดใส่อาหารชาม ช้อน ทัพพี ซึ่งทางคณะ ฯ ได้จัดเตรียมไปพอดีกับอาหารคาวหวานและผลไม้จึงไม่มีเตรียมไว้ให้ท่านใด และทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็ต้องขนกันไปด้วยนี่สินะแต่พวกเราก็สามารถจัดการกันได้จนสำเร็จค่ะ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากทุกท่านไม่ต้องนำภัตตาหารไปด้วยตนเองแต่อาจารย์ได้นำเงินส่วนหนึ่งไปดำเนินการให้แล้ว โดยอาจารย์ก็ได้อธิษฐานจิตนำออกมาส่วนหนึ่งที่ได้รับบริจาคเป็นกองทุนและตามกำลังศรัทธาของทุกท่านนั้นปันส่วนออกมาซื้อข้าวปลาอาหาร เพื่อทุกท่านจะได้ส่วนบุญส่วนกุศลในเรื่องของการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ในครั้งนี้ค่ะ อยากรู้กันมั้ยคะว่าเรามีอาหารอะไรนำไปถวายพระสงฆ์ ซึ่งเราก็มี ปลาสลิดอบกรอบ หมูอบ หมูฝอยปลาแซลมอนทอด น้ำพริกหลายชนิดหลายอย่าง ผักสลัด น้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่ข้าวเหนียวมะม่วง ผลไม้ต่าง ๆ ฝรั่ง สาลี่ แอ๊ปเปิ้ล องุ่น และอินทผาลัม และอื่น ๆอีกค่ะ สิ่งของเหล่านี้ต้องนำมาจัดวางให้สวยงาม ผลไม้ก็ต้องปอกหั่นให้สวยงามทุกอย่างต้องจัดวางใส่ถาดและซีลให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันเชื้อโรคในอากาศและเพื่อถวายสิ่งของที่ปราณีตแด่พระสงฆ์ ในระหว่างที่อาจารย์นำพาคนสวดมนต์นั้น ทางทีมอาหารก็ต้องทำเวลาให้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนดเพื่อพระสงฆ์ท่านกลับจากบิณฑบาตรก็จะได้นำถวายทันที สิ่งที่ได้เล่ามานี้ เพื่อให้ทุกท่านได้ภูมิใจและปีติใจที่ทุกท่านผู้ร่วมบุญได้ถวายของเลิศด้วยเงินของทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกันมา ท่านเป็นผู้ได้รับอานิสงส์บุญนี้ทั้งหมดค่ะ โรงครัวกับศาลาอยู่ห่างไกลกันพอสมควร การลำเลียงสิ่งของขึ้นไปบนศาลาก็ต้องระวังพื้นที่เป็นก้อนหินที่มีลักษณะพื้นหินขรุขระและลื่นพอสมควรค่ะซึ่งก็มีพวกชาวบ้านก็เตือนให้พวกเราระวังด้วย เพราะว่า กฐินที่แล้ว ผู้นำบุญเดินที่ลานหินนั้นลื่นล้มหัวแตกเย็บไป5 เข็ม อืม ๆ ค่ะรับทราบแล้วเราก็หันมาเตือนกันเองเพราะพวกเราก็ต้องรีบและต้องขนถาดอาหารขึ้นไปศาลาด้วยเหมือนกันค่ะ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว อาจารย์ก็เป็นตัวแทนของทุกท่านได้นำถาดอาหารต่างๆ ถวายแด่พระสงฆ์ พร้อมทั้งข้าวของสังฆทานรวมทั้งถวายปัจจัยทำนุบำรุงวัดและพระสงฆ์ เป็นเงิน สี่หมื่นกว่าบาท หลวงพ่อท่านเทศน์ว่าท่านไม่เคยเจอคณะทำบุญแบบนี้ ซึ่งหมายความว่า ถวายภัตตาหารก็ทำถวายกันอย่างดีอย่างเลิศและทุกคนที่มาถึงวัดก็ไม่ได้พูดคุยกันเซ็งแซ่ แต่ทุกคนก็มาสวดมนต์และนั่งสมาธิ ซึ่งอย่าว่าแต่พระสงฆ์ท่านประทับใจพวกเราเลยค่ะแม้แต่ตัวจี๊ดเองก็ยังประทับใจด้วยทุกครั้งค่ะ ทุกคนเชื่อกันในเรื่องของบุญแห่งการทำของที่เลิศถวายพระสงฆ์หรือให้สิ่งของที่เลิศของดีให้กับญาติพี่น้องและเพื่อนมั้ยเอ่ยด้วยอานิสงส์แห่งบุญนี้เราก็จะได้รับสิ่งของที่เป็นเลิศที่เป็นของดีพิเศษกว่าผู้อื่นไม่เชื่อก็ลองดูได้เลยจริง ๆ นะคะ บางครั้งไม่ต้องรอถึงชาติหน้า ในชาตินี้ก็สามารถเห็นได้ค่ะอาจารย์มักจะพูดเสมอและชี้ให้ดูอย่างนี้ค่ะ เช่น ถวายอาหารแด่พระสงฆ์ที่เป็นของเลิศนา ๆ ชนิดและหลังจากวันนั้นสักพักหนึ่งก็จะเป็นว่ามีคนนำอาหารมาให้รับประทานเป็นเหมือนกับที่ได้ทำบุญถวายพระทุกอย่างและดีกว่าเสียอีกหรือมีอยู่ครั้งหนึ่งอาจารย์ซื้อแชมพูสระผมสมุนไพรให้จี๊ดเพราะใจอยากให้แต่ไม่นานก็มีคนจากต่างประเทศส่งแชมพูอย่างดีแพงมากส่งมาให้ค่ะอาจารย์บอกนี่คือบุญที่เราได้กลับคืนมาโดยที่เราก็ไม่ได้อยากจะได้ หรือจะหวังว่าจะได้แต่ในการทำบุญด้วยความตั้งใจเพียงแต่ใจต้องการที่จะให้และถวายสิ่งของที่ดีมีค่าโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนอะไรเพียงเท่านี้เอง อานิสงส์บุญก็เกิดกับท่านแล้วค่ะ ประทับใจมากค่ะเพียงวัดแรกวัดเดียวในทริปนี้จี๊ดก็ปีติสุขใจมากที่สุดแล้วค่ะ และหวังว่า ทุกท่านที่ได้ดูไลฟ์สดและท่านที่เดินทางมาด้วยตนเองก็คงอิ่มสุขอิ่มใจในบุญที่ทำนี้ด้วยจริงๆ นะคะ สถานที่ที่2 คณะเสบียงสวรรค์ได้เดินทางไปยังวัดที่อาจารย์บอกว่าในอนาคตภายภาคหน้าวัดแห่งนี้จะเป็นสถานที่ ๆ ผู้คนมาทำบุญกันมาก เนื่องจากกำลังสร้างเจดีย์ดอกบัวที่จะเป็นสถานที่ ๆ ผู้คนมาวัดทำบุญเพราะจะเป็นสาธารณะกุศลที่มีประโยชน์ที่จะมีพระภิกษุสงฆ์สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ฆราวาสทั้งชายและหญิง ต่างพากันมาสวดมนต์ ไหว้พระ และปฏิบัติธรรมศึกษาพระธรรม และจี๊ดก็ดีใจมากค่ะที่อาจารย์นำพาผู้คนมาทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างเจดีย์ดอกบัวที่ต้องใช้เงินมากและพวกเราทั้งหลายได้มีส่วนช่วยกันถือเป็นต้นบุญก็ว่าได้เพราะกำลังจะสร้างค่ะ ซึ่งอาจารย์ได้นำสิ่งของสังฆทานเป็นจำนวนมากที่เป็นของใช้จำเป็นของพระสงฆ์ได้ลำเลียงกันเข้ามาและอาจารย์ได้นำต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทอง 2 ต้น นำมาติดธนบัตรใบละ 1,000 บาท เป็นภาพความประทับใจนะคะที่ธนบัตรสีเทาอ่อนปลิวไสวอยู่บนต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทอง เป็นความงดงามที่อาจารย์ตั้งใจที่จะได้มีต้นไม้สวรรค์ที่เป็นต้นโพธิ์เงินต้นโพธิ์ทองไปอยู่บนวิมานของทุกท่านค่ะซึ่งทั้งหมดนี้มีทั้งของที่เป็นเงินบริจาคของทุกท่านและเป็นของผู้ร่วมบุญที่นำมาถวายในครั้งนี้ด้วยค่ะและที่น่าภูมิใจมากที่พวกเราทั้งหลายได้ร่วมบุญกันมา และต่อยอดบุญกันที่วัดนับรวมได้ปัจจัยเงินมากเชียวค่ะ สี่แสนกว่าบาท จี๊ดก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยความปีติใจมากค่ะที่ทุกท่านได้ร่วมบุญกันมามากพอ ที่จะเป็นต้นบุญให้ทางวัดได้สามารถดำเนินการต่อไปและในวันข้างหน้าก็จะได้มีผู้คนที่เข้าวัดทำบุญได้เห็นและร่วมบุญกันอีกต่อไปสาธุค่ะ หลังจากนั้นอาจารย์ได้เดินไปที่เจดีย์ดอกบัวทั้งที่เท้ายังเจ็บอยู่มากแต่ต้องไปเพราะได้พูดเอาไว้ว่าจะเวียนทักษิณาที่เจดีย์ดอกบัวตามที่ได้ตั้งใจไว้แต่เนื่องจากเวลาที่กระชั้นชิดและต้องเดินทางไปต่อค่ะจี๊ดเข้าใจค่ะเรามีงานบุญอีกมากที่ต้องไปให้ทันเวลา โดยอาจารย์จึงได้เป็นตัวแทนของทุกท่านไปด้วยตนเองแต่ก็ไม่ลืมที่จะอธิษฐานจิตให้กับทุกท่านที่ไม่ได้เดินทางไปหรือท่านที่อยู่ในรถตู้เพราะบางท่านก็ไม่ทราบว่าอาจารย์ไปที่เจดีย์ดอกบัวนะคะ ในตอนนนั้นอาจารย์เดินทักษิณาทั้งที่เท้าเจ็บถึง3 รอบ ในขณะที่มีบรรยากาศที่ร้อนเพราะแดดเริ่มมาบ้างแล้วและที่พื้นก็เป็นดินที่ชื้นแฉะขอบอกว่าเดินลำบากมาก ๆ แสงแดดก็ร้อนอบอ้าวเป็นที่สุด ขนาดตัวจี๊ดงี้ เดินเหงื่อตกกันเลยเชียวค่ะซึ่งทุกท่านก็คงได้ชมในไลฟ์สดไปแล้วนะคะ ก่อนที่จะเดินทางกลับออกมาก็มีพระสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งท่านก็มายืนยิ้มปีติใจอยู่ที่ประตูทางเข้าออก และท่านก็อนุโมทนาบุญกับอาจารย์ด้วยค่ะซึ่งที่ประตูนี้มีลักษณะเป็นตะแกรงเหล็กโปร่ง ๆ มีป้ายเขียนไว้“เปิดแล้วปิดด้วยระวังกวางออก” ตลอดเส้นทางระหว่างศาลาที่เราทอดไปถึงเจดีย์ดอกบัวนั้นทั้งชื้นและลื่นมั๊กมากเพราะมีฝนตกลงมาในตอนเช้าก่อนที่คณะเสบียงสวรรค์จะมาถึงวัด และเจ้าหน้าที่วัดก็บอกว่าฝนตกทุกวันพอมาวันนี้คณะเสบียงสวรรค์มาฝนหยุดตกเมื่อเช้านี้เอง ทางวัดก็ดีใจกันมากที่ฝนหยุดตกค่ะและจากการสังเกตได้เห็นว่าที่พื้นนั้นมีรอยคราบตะไคร่น้ำสีเขียวอยู่ทั่วบริเวณพื้นซีเมนต์เหมือนกับว่าพื้นที่บริเวณนี้มีฝนตกอยู่ตลอดเวลาประกอบกับทางวัดปลูกต้นไม้นานาพรรณไว้มากเหมือนกับว่าวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในป่าเล็ก ๆ นอกจากนี้ที่วัดแห่งนี้มีทั้งนกยูงเป็นจำนวนมากมีหมูป่า มีกวาง พวกสัตว์ทั้งหมดนี้อยู่ในสวนพฤกษชาตินี้ซึ่งมีผลไม้พวกกล้วยมะละกอ วางกองเอาไว้บนโต๊ะเล็ก ๆ มีป้ายเขียนบอกว่า “อาหารกวาง” เจ้าหน้าที่วัดได้เดินมาอธิบายว่ามีกวางและมีสัตว์อื่นอีกเยอะครับ แต่วันนี้มีคนเยอะและฝนตกด้วยทำให้พวกสัตว์ทั้งหลายหลบซ่อนตัวอยู่ครับจี๊ดก็ยิ้ม ๆ กับเขาไปค่ะ เพราะวันที่มาเซอร์เวย์ที่วัดนี้ได้พบเจอ หมูป่า นกยูง ไก่ป่าแต่ไม่เจอกวางเท่านั้นเอง แต่เจ้าหน้าที่อยากจะบอกว่ามีสัตว์เยอะเชียวที่พวกเราไม่ได้เห็นค่ะ ด้วยบุญที่ทำสำเร็จแล้วนี้เป็นความประทับใจทั้งคณะเสบียงสวรรค์กับผู้ร่วมบุญรวมทั้งพระสงฆ์และชาวบ้านถิ่นนี้ ต่างก็ปลื้มปีติใจมากที่ทางคณะเสบียงสวรรค์เดินทางมาจากกรุงเทพฯ มาเยือนวัดที่ชาวบ้านทุกคนได้เข้ามาทำบุญสร้างกุศลได้เกิดการพัฒนา ได้ร่วมสร้างเจดีย์ดอกบัวให้สำเร็จได้สักวันหนึ่งค่ะ
สถานที่ที่ 3
คณะเดินทางมาถึงโรงแรมที่พักยังไม่เย็นมากทุกคนยังไม่ได้อาบน้ำตลอดทั้งคืนที่เดินทางมาและตลอดทั้งวันของวันใหม่ก็ได้ทำบุญกันทั้งวันนะคะ ซึ่งเป็นคณะทัวร์บุญที่ทุกคนเสียสละตนจริงๆ ค่ะ ทุกคนทำบุญกันอย่างสุด ๆ ไปเลยค่ะ จี๊ดก็อนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้ร่วมบุญด้วยค่ะเมื่อถึงที่พักโรงแรมทุกคนก็ได้อาบน้ำกันอย่างสะใจและแต่งตัวใหม่เพื่อจะไปทำบุญต่อเพราะยังไม่หมดวันนะคะคุณได้ไปต่อค่ะ ตามที่นัดหมายทุกคนก็มารวมตัวกันตามเวลาที่กำหนดที่ด้านหน้าโรงแรมที่พักค่ะอาจารย์ได้ตั้งเป็นขบวนพร้อมเดินทางไปวัด พวกเราทำบุญโดยทางเท้ากันค่ะ พวกเราจะเดินเป็นขบวนแห่ไปวัดด้วยกันค่ะโดยผู้นำบุญอาจารย์เจน และพี่รุ้งใส่ผ้าถุง ในการนี้อาจารย์เจน และคุณรุ้งจะเป็นหัวขบวนโดยการขับรถจักรยานไฟฟ้าค่ะ นั่นเป็นเพราะว่า อาจารย์ยังไม่สามารถที่จะเดินได้ไกลมาก สาเหตุมาจากข้อเท้าที่แพลงยังไม่หายค่ะะดังนั้น จึงเป็นขบวนแห่ไปวัดทำบุญที่แปลกกว่าใค โดยมีผู้ร่วมขบวนติดตามเดินไปด้วยกันทั้งคณะเกือบร้อยชีวิตค่ะซึ่งจี๊ดชอบนะคะ มันแปลกมากค่ะ การที่พวกเราทำบุญกันแบบมีคนใส่ชุดผ้าถุง และขับรถจักรยานไฟฟ้าไปวัดกันนั้นธรรมดาซะที่ไหนกันคะ ขบวนบุญของเราต่างก็ตีฆ้อง ร้องป่าว ตลอดเส้นทางจี๊ดขอบอกว่าสนุกมาก ๆ ค่ะ การเดินทางไปทำบุญกับวัดที่ใกล้โรงแรมที่พักนี้ก็เพื่อเป็นการผ่อนคลายกับบรรยากาศตลอดเส้นทางและประกอบกับคนขับรถตู้ขับรถให้กับคณะตลอดทั้งคืนและทั้งวันพวกเขาก็เหน็ดเหนื่อยต้องพักร่าง ต้องพักผ่อน ทีนี้เมื่อยังพอมีเวลาอาจารย์ก็เลยจัดให้ค่ะ จัดให้ทำบุญต่อค่ะ ก่อนที่จะถึงวัดที่ 3อาจารย์ได้นำพาทุกคนไปกราบพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่ประดิษฐานอยู่ริมฝั่งโขงโดยอาจารย์ได้นำกล่าวคำบูชาคุณพระพุทธ คุณพระธรรม และ คุณพระสงฆ์ และอุทิศบุญที่ทำมาตลอดทั้งวันให้กับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้โดยทุกคนในที่นั้นก็มีบายศรีอันเล็ก ๆ อยู่ในมือซึ่งเป็นบายศรีที่อาจารย์ได้สั่งซื้อมาจากชาวบ้านที่มีฝีมือทำบายศรีแบบนี้นำมามอบให้ทุกคนเพื่อนำมากราบสักการะบูชาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ยังสถานที่นี้ค่ะจี๊ดเชื่อเหลือเกินค่ะว่า ทุกคนที่เดินทางมาด้วยกันและทุกคนที่ได้รับชมภาพความประทับใจนี้แล้วก็คงต้องปลื้มปีติใจและมีความประทับใจไปด้วยกันนะคะ ดังนี้ขอให้ทุกท่านได้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันค่ะ มาถึงวัดที่ 3 นี้ อาจารย์ก็ได้นำทุกท่านทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างและบูรณะวัตถุทานและเสนาสนะต่างๆ ซึ่งได้เรี่ยไรเงินใส่ซองสีน้ำตาลไม่ได้นับยอดเงิน แต่ถ้าเป็นซองสีน้ำตาลแล้วล่ะก็คือภายในซองนั้นมีปัจจัยเงินจำนวนมากพอสมควรเชียวค่ะ เพราะด้วยเวลาก็ค่ำมืดแล้วแต่อาจารย์ก็ไม่หยุดค่ะเพราะเราต้องไปต่อไปทำบุญต่อค่ะ โดยอาจารย์เล่าไว้แต่ต้นแล้วว่า วัดนี้เดิมเป็นวัดร้างสมัยโบราณและได้สร้างบูรณะขึ้นมาใหม่ค่ะความประทับใจในยามเย็นนี้มีแสงพระอาทิตย์กำลังจะตกสะท้อนโบสถ์วิหารสวยงามยิ่งนักค่ะประกอบกับเป็นสถานที่ ๆ มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วยแล้ว จี๊ดเห็นว่าทุกคนในขณะนั้นปีติสุขใจมากค่ะทุกคนมีความสุขอยู่กับบุญกุศลที่ได้ทำมาแล้วตลอดทั้งวันรวมทั้งที่วัดนี้ด้วยค่ะ สถานที่ที่ 4 ที่วัดนี้มีความพิเศษที่เป็นวัดที่เก่าแก่มีความโบราณของสถานที่ๆ คนรุ่นเราและรุ่นหลังต้องรักษาไว้ เพราะวัดวาอารามต่าง ๆที่ตั้งอยู่ริมน้ำโขงนี้ อาจารย์บอกว่า วัดมีความสำคัญเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนแต่ผู้คนส่วนมากมักจะไม่เข้าใจและไปกราบไหว้วัดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง วัดที่มีคนเข้าวัดเยอะๆ แต่วัดก็คือวัด ที่เป็นศูนย์รวมแห่งพระพุทธศาสนาและวัดที่อาจารย์นำพาไป หารู้ไม่ว่ามีความเก่าแก่แต่ครั้งโบราณมีความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่และพระพุทธรูปที่คนสมัยโบราณตั้งใจให้เป็นศูนย์รวมแห่งพระพุทธศาสนาแล้วค่ะการเข้าวัดทำบุญเราก็จะเกิดความร่มเย็นเป็นสุข สุขกายสบายใจ สวดมนต์ นั่งสมาธิฟังเทศน์ ฟังธรรม ทำบุญเป็นที่สุดแล้วของคนที่มีธรรมมะในใจค่ะ ซึ่งในวันนั้นอาจารย์ได้นำพาทุกคนถวายบายศรีเพื่อกราบไหว้สักการะบูชาพระพุทธรูปที่เป็นพระประธานในโบสถ์ซึ่งอาจารย์เล่าว่าท่านเป็นพระพุทธรูปสมัยโบราณ และเพื่อเป็นสิริมงคลกับหมู่คณะของเราค่ะ
สถานที่ที่ 5
ไปค่ะ พวกเราเดินทางไปต่อที่วัดที่ 4 นี้ เป็นการเดินทางต่อเนื่องจากวัดที่ 3 ค่ะ อยู่ใกล้ ๆ กัน เมื่อมาถึงวัดนี้ เมื่อแรกเห็นก็ได้แต่คิดในใจว่า โอ้โหสวยงามมากค่ะ เบื้องหน้าทางวัดได้จัดเก้าอี้นั่งมีผ้าสีขาวคลุมให้เป็นอย่างดี สวยงามสะอาดตาเสียจริงค่ะและมองไปที่ด้านขวามือก็เป็นเจดีย์ที่บรรจุพระธาตุที่มีความสำคัญ ซึ่งอาจารย์ได้รู้ในญาณวิถีว่าภายในบรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุค่ะโดยพระสงฆ์ท่านได้มอบหมายให้พระสงฆ์หลายรูปไปช่วยกันห่มพระธาตุและอาจารย์ได้ขออนุญาตส่งตัวแทนของอาจารย์เจนที่เป็นฆราวาสผู้ชาย2 คน ไปร่วมห่มผ้าพระธาตุด้วยค่ะ ในตอนนั้นจี๊ดรู้สึกปลื้มใจมากที่ได้มาร่วมห่มพระธาตุที่วัดนี้ท่ามกลางบรรยากาศที่มืดค่ำกับแสงไฟที่สาดส่องมาที่โบสถ์และเจดีย์พระธาตุงดงามมาก จนทำให้คณะที่เดินทางมาด้วยกันต่างก็บอกขนลุกและตื้นตันใจมากค่ะด้วยบุญกุศลที่ทุกท่านได้ร่วมปัจจัยบริจาคมานั้นทริปนี้ จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ
สำหรับผ้าที่ห่มพระธาตุนี้มีความยาวมาก 25 เมตรตกแต่งด้วยดิ้นขอบสีทองทั้งสองด้านเมื่อนำไปห่มที่เจดีย์พระธาตุแล้วเป็นสีทองอร่ามงดงามจริงๆ ค่ะ โดยที่วัดนี้เป็นวัดหลวงมีความเก่าแก่โบราณ เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็มาอนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยค่ะ
สถานที่ที่ 6
ตอนที่เดินตามอาจารย์เข้าไปภายในโบสถ์แห่งนี้จี๊ดรู้สึกเหมือนถูกสะกดด้วยความขลังของพระพุทธรูปที่มีความงดงามและมีความขลังอยู่ในองค์ท่านที่อาจารย์เรียกนามท่านว่า พระเจ้าองค์ตื้อและยิ่งขนลุกเข้าไปอีกเมื่ออาจารย์พูดว่า มีเทวดามาเฝ้าดูแลเยอะมากแต่ก็ได้จ้องมองพระองค์ท่านตลอดเวลาในตอนนั้น และยิ่งมารู้ในภายหลังอีกว่า อาจารย์ได้เห็นในตาทิพย์ว่าท่านมองลงมายังคณะบุญของเรา ก็ยิ่งรู้สึกดีใจมากขึ้นไปอีกค่ะ
อาจารย์ได้นำทุกท่านทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างบูรณะวัตถุทานและเสนาสนะต่างๆ และได้ถวายสังฆทาน ตามลำดับไปด้วยค่ะ ซึ่งท่านเจ้าอาวาสท่านก็ปีติใจนะคะ ที่มีผู้คนมาทำบุญกันเต็มโบสถ์ล้นหลามเชียวค่ะซึ่งท่านก็ได้เล่าความเป็นมาของวัดและอนุโมทนาบุญกับคณะบุญของเราก่อนที่จะกราบลาท่านไปต่อค่ะ
สถานที่ที่ 7
ที่เบื้องหน้านั้นเป็นการจัดงานที่ยิ่งใหญ่บูชาพญานาคโดยที่อาจารย์และคณะก็ไม่รู้มาก่อนว่าคณะทำบุญของเราจะมางานช้างงานสำคัญประจำปีที่ทุกทั่วสารทิศต่างพากันมากราบไหว้บูชารูปปั้นพญานาคที่ทุกคนนับถือค่ะและในวันนั้นมีตลาดร้านค้าตั้งเต็มอยู่มากมายหลายร้าน มีผู้คนที่เดินสวนกันไปมาเหมือนคลื่นมนุษย์ค่ะแต่พวกเรานั้นมีจุดหมายปลายทางที่รูปปั้นพญานาค ดังนั้นอาจารย์จึงนัดหมายให้ทุกคนไปพบกันที่นั่น แต่ทุกคนก็ต้องเดินฝ่าฝูงคนเข้าไปถึงจุดหมายแต่ก็นะ อะไรก็เอาไม่อยู่ระหว่างทางทุกคนก็ชมนั่นชมนี่ มันน่ากินไปหมดทั้ง ๆที่กินกันมาตลอดทั้งวัน มันก็ดูน่ากินไปเสียหมดแต่ภารกิจของเรายังไม่จบต้องเดินไปข้างหน้าค่ะ เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อไม่เชื่อที่สุดค่ะเพราะว่า คณะเสบียงสวรรค์เดินทางมาในวันนี้ก็ไม่ได้รู้เลยว่าที่นี่เขามีงานประจำปีบูชาพญานาคองค์ใหญ่ที่ริมฝั่งโขงนี้ค่ะและตลอดเส้นทางเดินนั้นมีผู้คนเดินเบียดเสียดกันมากมายเดินสวนกันไปมาขวักไขว่ที่ถนนคนเดินยามค่ำคืนนี้เค้ามีการขายสินค้ามากมาย ทั้งเสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม น่ากิ้นน่ากินที่สุดค่ะ นอกจากนี้ก็มีนางรำสวยๆ แต่งตัวสวยงดงาม มีหลายชุดหลายคณะนับร้อยคนเดินสวนกันไปมาเมื่อพวกเราเดินฝ่าไปก็ถูกกลืนเข้าไปกับฝูงคนมองกันไม่ออกว่าพวกเราไปไหนกัน แต่ก็ต้องไปจุดนัดพบนั่นแหละจี๊ดกับน้องดาเดินไปด้วยชุดไทยเพราะได้รับมอบหมายจากอาจารย์ให้ไปรำถวายคิดดูเถอะค่ะ จี๊ดที่แก่ ๆ นี่ กับน้องดา เดินไปด้วยกันก็มีคนพื้นเมืองท้องถิ่นนั้นเดินลิ่วๆ เข้ามาถามว่า อีนางเอ้ย เจ้าใส่ชุดนี้ล่ะเจ้าจะไปรำกันที่ใด เราทั้งสองมองหน้ากันและตอบพร้อมกันว่าที่ข้างหน้านั่นแน่ะค่ะ แล้วก็อายตัวเอง เร่งฝีเท้าเดินต่อไป ก็ยังบ่นกันอยู่ว่าโชคดีแล้วที่ตอนนี้มืดค่ำมากแล้ว ไม่เป็นไรแต่เดี๋ยวคนจะได้ชมของแปลกคือนางรำแก่มารำถวายพญานาคขำ ๆ กันไปค่ะ เพราะตลอดเส้นทางเดิน มีแต่สาวสวยแต่งชุดรำงดงามมาก แหมสะเทือนใจนะเจ้าคะ เมื่อมาถึงสถานที่นัดพบแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไม่มีมุมใดแล้วที่ดีที่สุดพวกเราทั้งหมดมาหยุดอยู่พื้นที่ว่างเหลืออยู่เพียงที่เดียวที่ฐานรูปปั้นพญานาคแต่ข้อดีก็คือ มีบายศรีสวย ๆ ที่ผู้คนนำมาถวายจำนวนมากตั้งเรียงรายกลายเป็นพร้อบเป็นฉากกางกั้นให้มีความสวยงามและความขลังในพิธีการนี้โดยอาจารย์ได้บอกกล่าวแก่ท่านพญานาคว่า จะมีการรำถวาย แปลกมากที่การร่ายรำนี้เครื่องเสียงของทุกสถานที่ต่างก็หยุดกึกไม่มีเสียงงานใดๆ ที่ดังอื้ออึงเหมือนตอนแรกที่ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวเซ็งแซ่ไปหมดเหมือนโลกหยุดหมุนชั่วขณะ เมื่อการร่ายรำเสร็จสิ้นลงแล้วอาจารย์ก็ได้อัญเชิญพานบายศรี 1 คู่ เพื่อบูชาถวายพญานาค หลังจากนั้นอาจารย์ก็ได้บอกกล่าวอีกครั้งและในครั้งนี้ท่านพญานาคก็แปลงกายเป็นชายรูปงามใส่ชุดสีทองมายิ้มยินดีและอนุโมทนาบุญกับบุญที่ทุกท่านที่ได้อุทิศให้ท่านไปด้วยค่ะและที่น่าตื่นเต้นที่อาจารย์พูดขึ้นมาว่าท่านมาแล้วขอพรท่านเร็วแต่อย่าขอในทางโลภนะคะ โอย จี๊ดรีบเลยค่ะขอให้นั่งสมาธิให้ดีให้เกิดปัญญา เพราะตอนนี้ไม่ค่อยมีปัญญาซะเท่าไหร่ค่ะ ขอพูดได้เลยว่างานนี้ประทับใจสุด ๆ ไปเลยค่ะ หลังจากนั้นอาจารย์ได้นำลูกแก้วอธิษฐานมอบให้กับทุกคนที่มาอยู่ในที่นั้นค่ะ สถานที่ที่ 8
เช้าวันที่ 10 กรกฎาคม 2565 ทุกท่านรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่พักและออกเดินทางไปยังวัดแห่งนี้ เพื่อทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมบูรณะกุฏิสงฆ์และร่วมเทปูน 5คิว กุฏิสงฆ์ ซึ่งได้ยอดเงินรวมที่มีทั้งเงินทอดผ้าป่า ค่าปูนซีแพคเงินเรี่ยไรชำระหนี้สงฆ์เป็นค่าน้ำค่าไฟวัด รวมกันแล้วน่าจะประมาณ 200,000 กว่าบาทค่ะ จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ
โดยอาจารย์ตั้งใจถวายภัตตาหารเพลด้วยการถวายเลี้ยงเพลด้วยโต๊ะจีน2โต๊ะ แด่พระสงฆ์ หลังจากนั้นก็ได้เลี้ยงคณะผู้เดินทางไปด้วยกันซึ่งจี๊ดเชื่อว่าต้องถูกปากกันบ้างนะคะ ด้วยความตั้งใจของอาจารย์โดยแท้ค่ะนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้อาจารย์ตกรถเท้าบวมข้อเท้าแพลงเพราะว่ากำลังหาร้านวัสดุก่อสร้างซื้อถังปูนเปลปูนไปพร้อมกับการหาโต๊ะจีนว่าร้านไหนจะดีมีคุณภาพพอที่จะนำมาจัดเลี้ยงให้ทุกท่านนี่แหละค่ะ อาหารอร่อยมั้ยคะสำหรับเมนูอาหาร 9อย่าง และมาทำให้น้ำลายไหลกันไปอีกครั้ง โดยมี 1.ออเดิร์ฟ 4 อย่าง (ขนมจีบ, กระเพาะปลาผัดแห้ง,เม็ดมะม่วง, ไส้กรอก) 2.กระเพาะปลาน้ำแดงเห็ดหอมเนื้อปู3.ขาหมูหมั่นโถ 4.กุ้งทอดสลัด 5.ผัดเห็ดเป๋าฮื้อน้ำแดง 6.ปลากระพงนึ่งมะนาว 7.ข้าวผัดปูทรงเครื่อง 8.เป็ดตุ๋นมะนาวดอง 9.ลิ้นจี่ลอยแก้ว ในระหว่างที่ทุกคนกำลังอิ่มสุขอร่อยจังอยู่นั้น อาจารย์ก็รีบไปเปลี่ยนชุดเทปูนแล้วไม่ได้กินอิ่มอร่อยเหมือนผู้อื่นเพราะเป็นผู้นำบุญจะมารอช้าไม่ได้ต้องกลับบ้านกันแล้ว มิเช่นนั้นจะกลับเช้าเป็นแน่ค่ะและก็เกือบเช้าอย่างที่คิดแต่ทุกท่านก็สู้บุญไม่ถอยจี๊ดเชื่อว่ามีหลายท่านไปนอนต่อ อีกหลายท่านหยุดงานไม่ได้แล้วจ้าซึ่งจี๊ดต้องขออนุโมทนาบุญกับทุกคนที่สุดเลยค่ะ สำหรับความประทับใจนี้ไม่ต้องถามนะคะทุกสถานที่เลยก็ว่าได้เพราะในแต่ละสถานที่ก็มีความหลากหลายแตกต่างกันไปค่ะสำเร็จลงแล้วนะจ๊ะ การเทปูน 5 คิว พร้อมนี้ได้นำเปลปูน พลั่ว จอบ ถังขนปูนนับร้อยใบถวายวัดทั้งหมดไม่เอาคืนกลับเพราะเป็นเงินของทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกันมาและไปซื้อทั้งนี้ เพื่อทางวัดจะได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อไปค่ะ สถานที่ที่ 9 ที่วัดแห่งนี้มีความสวยงามมากมีสนามหญ้าสีเขียว ที่ฝั่งตรงข้ามเป็นแม่น้ำโขงมีเขื่อนกั้นและมีโคมไฟพญาหงษ์สุดลูกหูลูกตางดงามจริง ๆจี๊ดได้ไปถ่ายรูปเล่นกันงามค่ะ วิวนะคะ อาจารย์ได้นำคณะเสบียงสวรรค์ทุกคนไปกราบไหว้เจดีย์พระธาตุและเวียนทักษิณาสวดมนต์ตลอดเส้นทางเดินเป็นภาพความประทับใจมาก ๆ ค่ะ จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกันมาในทริปลี้ลับ14ระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม2565 ที่ผ่านมา นี้ค่ะ ด้วยบุญกุศลที่ทุกท่านได้ทำสำเร็จแล้วนี้คงเป็นความภาคภูมิใจตราตรึงใจเป็นความประทับใจไปตราบเท่านานหวนคิดทีไรสุขใจทุกทีค่ะ
จี๊ดจ๊าด
|