ภาพแห่งความสำเร็จ ร่วมอนุโมทนาบุญ ทริปเสบียงสวรรค์ 82 ถนนบุญ พรชัยมงคล

จี๊ดจ๊าด

                  จี๊ดจ๊าดมาแล้วสวัสดีค่ะ ก่อนอื่นจี๊ดต้องขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์ผู้นำบุญและทุกท่านผู้ร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีกับคณะเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 82 (โครงการเคลือบสนิม ครั้งที่ 23) วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน 2563 นี้ ซึ่งจี๊ดประทับใจเป็นที่สุดตั้งแต่ยังไม่เรริ่มออกเดินทางเชียวค่ะ เหมือนฟ้าเป็นใจจี๊ดก็ดีใจมั้กมากค่ะ เพราะว่าช่วงนั้นมีข่าวประกาศเตือนภัย พายุโซนร้อน ชื่อว่า โนอึล ความแรงระดับ 3 ช่วงระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2563 แล้วก็เป็นวันเดินทางของคณะเสบียงสวรรค์ของเราเสียด้วยค่ะ

ก่อนออกเดินทางอาจารย์ทั้งสองก็ได้ไหว้พระสวดมนต์และบอกกล่าวต่อครูบาอาจารย์ พระอริยะสงฆ์ที่นับถือ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อปกป้องคุ้มครองขบวนรถบัสที่เดินทางทั้ง 10 บัส และรถขนของ คือที่เรียกว่ารถที่ไปกับคณะเสบียงสวรรค์ทั้งหมดทุกภาคส่วนจะไม่มีอันตรายและเปิดทางสะดวก ซึ่งจี๊ดเชื่อในครูบาร์อาจารย์ที่ทำความดีความดีนั้นย่อมมาปรากฏให้เห็นเป็นบุญตาทุกครั้งไปค่ะ เช่น แดดร่ม ไม่มีฟ้าฝน และอื่น ๆ อีกมากมายที่ไม่อยากจะบรรยายเพราะต้องรู้เองเห็นเองซึ่งทุกท่านผู้ร่วมบุญก็ได้เห็นเองด้วยเหมือนกันจี๊ดเชื่อค่ะ

สถานที่แรก ที่วัดค่ะ ตามที่อาจารย์เจนได้เล่าเรื่องความประทับใจให้กับทุกท่านได้รับรู้ว่าอาจารย์มีความประทับใจอะไรบ้าง ส่วนจี๊ดนั้นอยู่ในส่วนของผู้ติดตามทำบุญก็เหมือนกับทุกท่านนั่นแหละค่ะประทับจิตประทับใจมากที่สุดค่ะ ที่ได้เห็นชาวบ้านหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสโดยเฉพาะทีมเต้นแอร์โรบิควัย 50-60 ปีขึ้นไปแต่ทุกท่านนั้นมีความสุขและยินดีที่จะมอบความสุขให้กับคณะเสบียงสวรรค์ด้วยการแสดงเต้นแอร์โรบิคชุดไทย 2 ชุดการแสดง ซึ่งเจ้าอาวาสท่านแจ้งว่าทุกคนล้วนเป็นเจ้าของกิจการต่าง ๆ แต่ต้องการมาต้อนรับคณะเสบียงสวรรค์ของอาจารย์เจนค่ะ ทีนี้อาจารย์เล่าให้ฟังตอนกลับบ้านแล้วว่า ตอนนั้นอาจารย์ปวดปัสสาวะสุด ๆ ต้องอดทนและทนจนถึงพิธีการทอดผ้าป่าเสร็จสิ้นโดยไม่ได้เข้าห้องน้ำเลยค่ะ โห...อาจารย์อดทนมากค่ะ

การทอดผ้าป่าบูรณะพระพุทธรูป และเทปูนซีแพคที่พื้นเส้นทางเข้าออกรวมทั้งพื้นบริเวณโดยรอบของพื้นที่วัดนั้นสุดสุดแห่งมหาบุญกุศลเลยค่ะ อาจารย์พูดให้จี๊ดฟังว่า สิ่งที่ทุกท่านได้ทำบุญอย่างนี้จะหาทำที่ไหนได้นอกจากมาทำบุญกับคณะเสบียงสวรรค์ที่อาจารย์เจนเป็นผู้นำบุญจริงมั้ยค่ะ ส่วนตัวจี๊ดเองนะคะติดตามอาจารย์ทั้งสองทำบุญมาหลายปีจะขอบอกว่าทุกงานบุญกุศลที่  เป็นมหาบุญกุศลที่หาทำได้ยากมากค่ะ ก็ที่พูดมาทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ก็เพราะดีใจที่ได้เงินเข้าวัดตั้ง 6 แสนกว่าบาทไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ แต่ประทับใจมากที่สุดในบุญกุศลเพียงวัดเดียวก็มีบุญมากมายเชียวค่ะนอกจากนี้ก็ได้มีการมอบทุนอาหารกลางวันให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่มีเด็กเล็กวัย 5-6 ขวบ จำนวน 54 คน โดยคุณครูของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมารับมอบ จำนวน 4 หมื่นกว่าบาท แบบทำอะไรไม่ถูกเพราะความดีใจของคุณครู พร้อมนี้มีขนมเด็กและตุ๊กตาอีกตั้งมากมายซึ่งเด็ก ๆ ก็ดีใจค่ะ

จี๊ดดีใจมากที่ทุกท่านได้ร่วมด้วยช่วยกันจนทำให้บุญนั้นพลันสำเร็จมีทรัพย์มากก็สละทรัพย์มากมีทรัพย์น้อยก็สละทรัพย์น้อยตามกำลังที่เราจะสามารถทำได้ค่ะ คืออาจารย์พูดให้จี๊ดฟังเสมอค่ะว่า คนที่มีกำลังทรัพย์มากตระหนี่ถี่เหนียวแล้วครั้นเมื่อเราตายไปก็เอาทรัพย์นั้นติดตัวไปไม่ได้ แต่คนฉลาดเรื่องบุญกุศลก็จะรู้ว่าบุญเท่านั้นที่เราเอาไปได้อย่างแน่นอนค่ะ ซึ่งการทำบุญทอดผ้าป่าคณะเสบียงสวรรค์ทุกครั้งที่ผ่านมาทุกท่านยอมสละทรัพย์โดยไม่เสียดายอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

เรื่องที่อยากเล่า มีลุงคนหนึ่งอดอยากยากแค้นหาเช้ากินค่ำถ้าวันไหนป่วยก็ไม่มีเงินกินใช้รับจ้างไปวัน ๆ ตู้เย็นก็ไม่มีจะแช่ของกินลำบากมาก ซึ่งอาจารย์ได้พูดให้จี๊ดดูเอาไว้เป็นตัวอย่างว่า ลุงคนนี้เมื่อในอดีตชาติเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวยมากมีกินมีใช้ไม่อดอยากแม้ว่าอาจารย์สงสารจะซื้อของฝากให้ลุงแกพอเห็นหน้าลุงก็ลืมทุกทีไปค่ะ จี๊ดก็อดสงสัยถามอาจารย์เสียไม่ได้ว่าทำไมชาติที่แล้วร่ำรวยชาตินี้ไม่ติดความร่ำรวยมาบ้างเลยหรือค่ะ อาจารย์จึงพูดว่า ลุงแกร่ำรวยแต่ไม่ทำบุญเป็นตระหนี่ถี่เหนียวจึงไม่มีบุญกุศลติดตามมาเลยค่ะ เรื่องนี้จึงเป็นวิทยาทานให้กับทุกท่านเป็นอย่างดีนะค่ะ

เรื่องมหัศจรรย์ แม่ตี้คุณแม่ของอาจารย์เจนท่านเป็นคนชอบทำบุญใส่บาตรทุกวันไม่เคยขาด ยกเว้นหากวันใดรู้สึกไม่สบายตื่นเช้าไม่ไหวก็จะงดเว้นการใส่บาตร ประกอบกับวันว่างก็จะนั่งสมาธิ จึงทำให้แม่ตี้มักจะเห็นสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็นค่ะ แต่แม่ตี้เป็นคนที่ฉลาดมากเพราะเมื่อเห็นสิ่งใดก็เก็บไว้ก่อนเมื่ออาจารย์ว่างก็จะสอบถามอาจารย์ทันทีและคำตอบก็ถูกต้องตรงกันกับที่อาจารย์เห็นด้วยทุกครั้งค่ะ และครั้งนี้ก็เช่นกัน แม่ตี้เล่าว่า ตอนที่อาจารย์เจนยกพานผ้าไตรจีวรเพื่อให้ทุกท่านอนุโมทนาสาธุก่อนนำถวายพระทอดผ้าป่าให้แก่พระสงฆ์นั้น แม่ตี้ได้เห็นปลายเท้าพระพุทธรูปตั้งแต่ปลายเท้านิ้วโป้งจนถึงครึ่งเท้าเป็นสีทอง โอ้โหจี๊ดตื่นเต้นมากค่ะ แม่ตี้เล่าว่าในตอนนั้นแม่ตี้คิดว่า พระพุทธรูปองค์นี้ท่านต้องศักดิ์สิทธิ์แล้วอาจารย์เจนจะพาไปดูมั้ยเพราะแม่ไม่ได้เห็นค่ะ ซึ่งอาจารย์ได้ไปกราบไหว้องค์ท่านจริง ๆค่ะ แต่แม่ตี้ไม่ได้ไปด้วยค่ะ เพราะว่าต้องทำเวลาที่จะต้องเดินทางไปยังอีกสถานที่หนึ่ง ดังนั้น อาจารย์จึงเป็นตัวแทนของทุกท่านไปกราบไหว้พระพุทธพรชัยมงคลมุนีที่บนเนินเขาโดยถ่ายไลน์สดให้ทุกท่านได้ติดตามดูและอนุโมทนาบุญค่ะ

จี๊ดก็ถามอาจารย์ค่ะ แล้วบรรดาญาติพี่น้องและเจ้ากรรมนายเวรของผู้ร่วมบุญได้มารับบุญหรือไม่ค่ะ อาจารย์บอกว่าพวกเขาได้รับค่ะ แต่การรับบุญที่แตกต่างสถานที่กันตามภพภูมิที่เขาอยู่ค่ะ เพราะบุญทอดผ้าป่านี้เป็นมหากุศลที่ใหญ่มากค่ะ

โรงทานของอาจารย์เจนก็ไม่เคยขาด มีข้าวกล่อง น้ำส้มอร่อย เฉาก๊วย น้ำดื่มต่าง ๆ ทุกท่านก็อิ่มกันมากจี๊ดรู้ แต่โรงทานของชาวบ้านที่เขาตั้งใจนำมาเลี้ยงก็อร่อยแบบบ้าน ๆ นะค่ะ จี๊ดอิ่มมากค่ะ มีทั้งข้าวแกง ส้มตำ น้ำพริก ขนมหวานหลายชนิด และไอติมอร่อยมากด้วยค่ะ ชาวบ้านเค้าดีใจและตั้งใจต้อนรับคณะเสบียงสวรรค์มากค่ะ

การเทปูนพื้นถนนทางเข้าวัดที่เป็นปฐมฤกษ์ จำนวน 4 คิว เผลอแป๊ปเดียวก็เสร็จแล้วยังไม่ทันไรเลย อ้าว เสร็จแล้ว นี่เป็นเพราะทุกท่านมาร่วมบุญกันบ่อยจนรู้แล้วและทุกท่านก็ได้ทำงานกันเป็นทีมและมีระเบียบมากค่ะ ในครั้งแรกตอนที่ลงจากรถทุกคนมองหน้ากันว่า เอ วันนี้จะได้เทปูนกันมั้ยนี่ แต่จี๊ดเชื่อว่า สบายมากเพราะเทพเทวาจะเปิดทางสะดวกให้กับอาจารย์ผู้นำบุญเพราะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง และก็จริงอย่างนั้นด้วยตอนที่เทปูนอากาศดีร่มเย็นไม่มีฝนไม่มีแสงแดดและมีลมพันเย็นสบายทำให้ทุกคนที่ช่วยกันเทปูนไม่เหน็ดเหนื่อยค่ะ เรื่องฝนฟ้าที่จะตกนั้นจี๊ดก็เห็นบางคนวิตกกังวลว่าฝนตกปรอย ๆ อย่างนี้จะเทปูนได้ไงเนี้ย และแล้วก็สำเร็จเห็นมั้ยค่ะคนทำบุญคนที่ตั้งใจทำบุญและทำความดีนั้นอุปสรรคย่อมไม่มีเห็นกันชัด ๆ สาธุค่ะ

อาจารย์บอกว่าที่วัดนี้มีเทวดาเยอะ และพระพิรุณ พระพราย ท่านก็เสด็จมาอนุโมทนาบุญกับคณะเสบียงสวรรค์ก็อย่างที่จี๊ดพูดเสมอว่าการทำบุญโดยคณะบุญที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เป็นบุญที่สะเทือนเลื่อนลั่นไป 3 โลก สวรรค์ นรก และมนุษย์ค่ะ

อาจารย์เจนได้เห็นภาพในอดีตว่า สถานที่วัดแห่งนี้ในอดีตสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช พวกทหาร พ่อค้าวานิช และข้าทาสบริวารต่าง ๆ ได้เดินทางมาที่พักเหนื่อยที่วัดแห่งนี้ค่ะ พักไม่นานเป็นการพักชั่วคราวค่ะ ดังนั้น คณะเสบียงสวรรค์ก็เคยเป็นพวกเขาเหล่านั้นมาในอดีตเกิดภพพชาติใหม่ก็จำกันไม่ได้ค่ะ อย่างที่อาจารย์พูดเสมอว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญค่ะ และต่อมาวัดนี้ก็กลายเป็นวัดร้างเป็นป่ารกชัน จนกระทั่งเจ้าอาวาสท่านมาพบเห็นว่าเป็นวัดร้างมีแต่ซากวัตถุวัดเดิมที่ถูกทับถมกันมานานก็ได้มาบูรณะสร้างมาเรื่อย ๆ จนเป็นวัด ส่วนตัวของเจ้าอาวาสเองท่านก็ไม่รู้ว่าวัดนี้อยู่ในยุคสมัยใด แต่อาจารย์รู้ดีเพราะท่านมีญาณทิพย์หยั่งรู้ได้ค่ะ ท่านเล่าว่า ท่านได้สอนปฏิบัติธรรมกำหนด พุทธ โธ ให้กับชาวบ้านจนปัจจุบันนี้มีชาวบ้านประมาณ 30 คน เข้าวัดมาถือศีล 8 ที่วัดทุกวันพระค่ะ ดังนั้น ทุกท่านที่ได้มาช่วยกันเทพื้นปูนซีแพคถนนทางเข้าออกและพื้นทั่วบริเวณวัดเพื่อเป็นทางเดินรถและทางเดินของคนอย่างนี้ทุกท่านจะได้รับอานิสงส์บุญมากจริง ๆ ค่ะ

ประทับใจของฝากจากชาวบ้านค่ะ มีถั่วต้ม คนละถุง น้ำพริกคนละกระปุก และข้าวเกรียบ เป็นต้น ได้นำมาแจกให้กับผู้ร่วมบุญขากลับบ้านด้วยค่ะ ส่วนเรื่องถั่วต้มน่าจะเป็นวันที่อาจารย์เจนต้องการจะรับประทานถั่วต้ม แต่จี๊ดไปซื้อถั่วดิบมาหนึ่งถุงกิโลกรัม ระหว่างที่คุยกับกรรมการวัดอยู่นั้นก็บ่นเรื่องถั่วที่ซื้อมาดิบไม่รู้จะไปต้มที่ไหนหนึ่งในกรรมการวัดเป็นผู้หญิงได้ยินค่ะ จึงรับอาสาไปต้มถั่วให้แล้วได้นำไปส่งที่ร้านอาหารที่อาจารย์เจนรับประทานอาหารมื้อกลางวันตอน 6 โมงเย็น จี๊ดจึงเข้าใจได้ว่าชาวบ้านเขาใส่ใจว่าอาจารย์เจนของเราชอบอะไรก็ต้องการมอบให้และยังนำมามอบให้กับทุกท่านผู้ร่วมบุญอีกด้วยค่ะ

สถานที่สอง คณะเสบียงสวรรค์เดินทางออกจากวัดเพื่อไปต่อไม่รอแล้วค่ะ เพราะต้องรีบไปถึงสถานที่นี้ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดินไม่งั้นไม่ได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติที่อาจารย์เรียกว่า บ้านชายเขาสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยค่ะ สวยมั้ยค่ะทุกท่าน สดชื่นมั้ยค่ะกับธรรมชาติที่สวยงามเขียวขจีเต็มไปด้วยต้นไม้ใบเขียว มีภูเขาโอบล้อมพวกเรา มีท้องฟ้าสีฟ้ากับก้อนเมฆสีขาวเป็นปุยนุ่น แหมก็สวยสะขนาดนี้อาจารย์เจนก็ต้องการที่จะนำพาทุกท่านมาชื่นชมกับสถานที่แห่งนี้ด้วยเพื่อควาสุขหลังจากอิ่มสุขบุญกันมาแล้วค่ะ และตอนที่มาเซอร์เวย์อาจารย์เจนได้มาเหยียบยังสถานที่นี้และได้ ได้เห็นภาพในอดีตเคยมีคนที่เรียกว่า มนุษย์โบราณดึกดำบรรพ์ ซึ่งมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง มีส่วนสูงประมาณ 2 เมตร ผิวสีคล้ำ ผู้ชายผมสั้นประบ่า ผู้หญิงผมยาว ไม่ใส่เสื้อ นุ่งห่มด้วยใบไม้แห้ง มือถืออาวุธที่ทำขึ้นเองพวกเขาเหล่านั้นจะมาประกอบพิธีรับพลังจากแสงพระอาทิตย์คือบูชาพระอาทิตย์นั่นเอง แบบว่า จะขอพรขอสิ่งดีดีอะไรก็จะมาที่จุดนี้ค่ะ อาจารย์เจนจึงนำพาทุกท่านมารับพลังมาเบิกรับทรัพย์ที่อาจารย์เรียกว่า จุดรับทรัพย์ค่ะ ซึ่งไม่มีในประวัติศาสตร์นะคะอาจารย์เจนได้เห็นภาพในอดีตด้วยญาณวิถีของอาจารย์เจนเองค่ะ

กิจกรรมสนุกเล็ก ๆ ที่อาจารย์เจนจัดขึ้นเพื่อให้ทุกท่านมีความสุขด้วยการเต้นเพลง เมาคลีล่าสัตว์ โดยทีมงานได้สวมชุดสัตว์ หมีขาว หมีน้ำตาล และกระรอก เนื้อเพลงก็มีอยู่ว่า “ เมาคลีล่าสัตว์ เมาคลีล่าสัตว์ ฆ่าแชร์คาน ฆ่าแชร์คานถลกหนังมันออกมาให้หมด ถลกหนังมันออกมาให้หมด มันฆ่าวัว มันฆ่าควาย !! ”  ประทับใจค่ะที่ได้เห็นทุกท่านมีความสุขพวกเราก็มีความสุข อาจารย์เจนเองก็มีความสุขไปกับทุกท่านด้วยค่ะ

สถานที่สาม  ห่มผ้าพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่หน้าถ้ำ เนื่องจากอาจารย์เจนได้เห็นว่า พระพุทธรูปท่านศักดิ์สิทธิ์และมีเทวดารักษาองค์ท่านด้วย แต่ผ้าห่มพระหลุดลุ่ยเชียวค่ะ จึงได้สั่งการให้จี๊ดตัดเย็บผ้าห่มพระ ซึ่งก็เป็นปัจจัยเงินที่ทุกท่านได้ร่วมบุญเป็นกองทุนหรือตามกำลังศรัทธาที่ได้โอนปัจจัยเงินกันมานั้นเองและได้จัดสรรมาซื้อผ้าห่มพระทุกท่านก็ได้มีส่วนร่วมในบุญนี้ด้วยค่ะ ในการนี้ต้องเล่าให้ฟังซักหน่อยค่ะเพราะมีน้องคนหนึ่งมาพูดว่า อยากจะร่วมบุญผ้าห่มพระด้วยค่ะ จี๊ดก็บอกน้องไปว่าน้องได้ร่วมปัจจัยโอนเงินมาหรือไม่ค่ะ น้องบอกได้ร่วมมาแล้วค่ะ ก็นั่นแหละค่ะเงินของท่านได้ร่วมมาแล้วค่ะ แม้ผ้าห่มพระสักผืนเดียวอาจารย์เจนก็ได้จัดสรรเงินเพื่อให้ทุกท่านได้รับบุญกุศลถ้วนหน้ากันค่ะไม่ต้องกังวลนะคะ และอาจารย์เจนนำชมถ้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้และกล่าวว่า ในอดีตเป็นสถานที่ฤาษีดาบส นั่งสมาธิบำเพ็ญเพียรค่ะ

ในแต่ละแห่งแต่ละสถานที่ที่อาจารย์เจนนำไปทำบุญนั้น แม้มีเวลาเพียงวันเดียวก็ทำบุญกันเต็มพิกันอิ่มใจสุขบุญกันมากจริง ๆ ค่ะ แล้วพบกันใหม่ในงานบุญกฐิน “มหากฐินสมปรารถนา” ในวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2563 ซึ่งเป็นมหาบุญใหญ่หนึ่งปีมีครั้งเดียวค่ะ ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่าบุญกฐินของอาจารย์เจนทุกท่านจะได้รับบุญอย่างเต็มร้อยเพราะเป็นบุญกฐินที่ทำอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ค่ะ

ทั้งนี้ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมกันสร้างบุญกุศลจนเป็นบุญที่สำเร็จแล้วทุกประการ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

จี๊ดจ๊าด