แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รุ้งตะวัน เมื่อ 2019-9-12 21:14
สวัสดีค่ะจี๊ดจ๊าดมาเล่าค่ะ เรื่องที่ อาจารย์เจน ญาณทิพย์ แจ้งเชิญชวนท่านที่มีจิตศรัทธาในบุญกุศลให้มาร่วมบุญกับคณะบุญเสบียงสวรรค์ครั้งที่ 73 โครงการเคลือบสนิม ครั้งที่ 17 ตอน ระดมพล บูรณะวัด ในวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562 ซึ่งในการนี้อาจารย์ได้เดินทางไปเซอร์เวย์หาวัด เพื่อจะได้นำพาท่านที่มีจิตศรัทธาสร้างบุญบารมีได้ร่วมบุญกันค่ะ เนื่องจากระยะทางไปทำบุญในครั้งนี้ค่อนข้างไกลค่ะ อาจารย์จึงได้กำหนดให้ทำบุญ จำนวน 1 วัด ซึ่งเป็นการทำบุญที่มากไปด้วยคุณภาพของบุญกุศลที่เต็มเปี่ยม และเพื่อเป็นการได้สะสมเสบียงบุญให้เพิ่มทวีคูณไม่มีที่สุด และไม่มีประมาณค่ะ
วันที่เดินทางไปเซอร์เวย์ นั้นจี๊ดก็อดที่จะสงสารอาจารย์กับคุณรุ้งเสียไม่ได้เชียวค่ะ เพราะอาจารย์ทั้งสองไม่สบายจากอากาศที่แปรปรวน อดหลับอดนอนเพราะไม่ได้พักผ่อน และต้องตรากตรำจากการที่ต้องเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด แต่อาจารย์ทั้งสองก็ยังต้องทำงานบุญต่อไปค่ะอาจารย์พูดเสมอว่า ถ้าอาจารย์ไม่นำพาผู้คนไปทำบุญก็จะมีอีกหลายคนที่ไปทำบุญที่ผิดทางและหลงทาง เพราะบางคนก็ไม่รู้ว่าจะทำบุญอย่างไรถึงจะถูกต้องและไม่รู้ว่าที่ถูกต้องเขาทำกันอย่างไรค่ะ และมีหลายคนที่ต้องเสียเงินเสียทองไปมากกว่าที่จะทำบุญสร้างวิหารทานอย่างคณะบุญเสบียงสวรรค์เสียอีกค่ะดังนั้น อาจารย์จะหยุดงานบุญไม่ได้แม้สักเดือนเดียวค่ะ ซึ่งจี๊ดเข้าใจมากที่สุดค่ะ เพราะจี๊ดได้ติดตามช่วยงานบุญอาจารย์มาโดยตลอดจึงเห็นใจและเข้าใจในความตั้งใจของอาจารย์ค่ะ อาจารย์เคยพูดกับจี๊ดว่า ชีวิตคนเรานั้นจะตายวันใดเราก็ไม่รู้ ดังนั้น พวกเราทุกคนต้องไม่ใช้ชีวิตด้วยความประมาทและการไปทำบุญของคณะบุญเสบียงสวรรค์ของเรานั้นเพียงเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งคณะบุญของเรานั้นไม่ได้ทำบุญมากเลยค่ะซึ่งคนเรานั้นยังต้องกินข้าวทุกวัน วันละ 3 เวลา แต่เราทำบุญกันเดือนละครั้งค่ะ จี๊ดเห็นว่าพวกเราทำบุญกันน้อยมากนะคะ ดังนั้นเมื่อจะทำบุญสร้างกุศลทั้งทีก็ต้องจัดเต็มจัดหนักอย่างที่อาจารย์ได้นำพาทุกท่านไปสร้างบุญที่เรียกได้ว่าเป็นมหาบุญกุศลกันเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งมีหลายคนที่จี๊ดได้เห็นว่า พวกเขาเหล่านั้นได้แคล้วคลาดจากอันตรายและแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ได้ด้วยบุญค่ะ หากไม่มีบุญคอยเป็นกำลังเสริมช่วยเหลือ และเป็นเกราะคุ้มกันแล้วก็อาจจะสายเกินไปและช่วยอะไรไม่ได้หรือช่วยไม่ทันค่ะ ซึ่งบางครั้งปัญหาต่าง ๆ ก็คลี่คลายไปด้วยบุญกุศลค่ะ และบุญสามารถช่วยเหลือครอบคลุมไปถึงลูกหลานและคนที่เรารักก็เพราะด้วยบุญกุศลที่เราทำไปแล้วเพียงแต่เราไม่ได้สังเกตเห็นเองค่ะดังนั้น บุญเท่านั้นที่เราเอาไปได้และบุญเท่านั้นที่ช่วยเราได้ค่ะ
ในวันนั้นคณะเดินทางเซอร์เวย์ได้ออกเดินทางสายกว่าทุกครั้งค่ะ กว่าจะถึงอำเภอและจังหวัดเป้าหมายก็เกือบเย็นค่ะ เพราะตั้งแต่ออกเดินทางจากกรุงเทพฯตลอดเส้นทางรถติดหนักมากค่ะ หลังจากรถติดแล้วก็ไม่มีรถสักคันที่ขับผ่านไปมา ซึ่งคงเหลือแต่รถของอาจารย์เพียงคันเดียวเท่านั้นที่ขับอยู่บนเส้นทางสายเปลี่ยวนี้ค่ะ และขอบอกเลยค่ะว่า มันเปล่าเปลี่ยวมากค่ะ เมื่อมองไปที่สองข้างทางไม่มีแม้แต่บ้านคนสักหลังค่ะ ตลอดเส้นทางสองข้างทางมีเพียงทิวแถวของต้นยางพารา ยาวตลอดแนวสักพักก็จะพบกับต้นมันสำปะหลัง และต้นไม้อื่น ๆ ในช่วงนี้เป็นช่วงฝนฟ้าตกกระหน่ำจึงทำให้มองออกไปมีแต่ความสดชื่น และชื้นแฉะโดยมีต้นไม่สีเขียวขจีเต็มไปหมดค่ะ ดังนั้น ถนนแคบ ๆ กับพวกต้นไม้เหล่านั้นทำให้พวกเราต่างก็พูดคุยกันว่า เออหนอคนที่เขาจะเดินทางมาทำบุญกับคณะบุญเสบียงสวรรค์เขาคงถามกันนะว่าโอ้โห อาจารย์ไปหาวัดนี้ได้ยังไง ใครบอกมา และมากันได้ยังไง เออ เราก็ไม่รู้เหมือนกันสินะจี๊ดเชื่อว่ามีหลายคนมักคิดอย่างนี้แทบทุกทริปค่ะ ซึ่งไม่มีใครตอบได้ค่ะ แม้แต่จี๊ดเองก็มาด้วยกันกับอาจารย์ก็ยังงงงวยเองเลยค่ะ และในครั้งนี้จี๊ดก็ได้สอบถามอาจารย์ว่า อาจารย์ค่ะทำไมเราถึงมาที่อำเภอนี้เล่าค่ะอาจารย์พูดว่า รู้ได้จากญาณวิถีว่าต้องเป็นอำเภอนี้ ซึ่งจี๊ดก็ดีใจนะค่ะที่อาจารย์รู้ได้ในญาณวิถีซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้จี๊ดมั่นใจได้ว่า วันนี้เราต้องได้วัดที่จะได้นำพาผู้คนมาทำบุญเป็นแน่ค่ะแต่ทุกสิ่งอย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดนะคะเพราะในบางครั้งก็ต้องผ่านบททดสอบจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าตัวผู้นำจะมีความพยายามและมุ่งมั่นในการหาวัดเพื่อนำพาผู้คนไปทำบุญสร้างกุศลได้หรือไม่ค่ะ
เย็นแล้วต้องหาที่พักก่อนที่ตะวันจะตกดิน เพราะว่าหากมืดค่ำก็จะหาที่พักลำบากและไม่สะดวกค่ะ จากที่จี๊ดเล่าให้ฟังนั่นแหละค่ะเพราะสองข้างทางมีแต่ต้นไม้สวนเกษตรอย่างนี้ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องตั้งหลักใหม่ในวันพรุ่งนี้จะดีกว่าค่ะ และการที่พวกเราผู้หญิงทั้งนั้นจะเข้าพบกับพระสงฆ์ในยามวิกาลก็ไม่เหมาะสมค่ะ เช้าวันใหม่ทุกคนตื่นกันแต่เช้าโดยคณะฯได้เดินทางไปยังวัดต่าง ๆ เพื่อสำรวจวัดที่มีความจำเป็นที่ต้องการปัจจัยก่อสร้างในส่วนที่ขาดโดยอาจารย์ใช้ญาณวิถีดูถึงความสำคัญจำเป็นและความเหมาะสมสำหรับวัดที่ขาดปัจจัยบูรณะปฏิสังขรณ์วัตถุทานต่างๆ และวัดนั้นต้องมีพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่นอกรีดศาสนาพุทธ และวัดนั้นต้องเห็นถึงความสำคัญในเรื่องพระพุทธศาสนาค่ะ ซึ่งผู้ร่วมบุญอย่างพวกเราทั้งหลายจะได้บุญอย่างเต็มกำลังในการช่วยกันขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาทุกครั้งที่ทุกท่านได้ไปร่วมบุญกันค่ะ
คณะเดินทางก็ได้เข้าวัดนั้นออกวัดนี้ค่ะเดินทางไปหลายวัดมากค่ะ แต่สุดท้ายท้ายที่สุดไม่น่าเชื่อว่าเป็นวัดที่อยู่บริเวณใกล้กับที่พักแรมเมื่อคืนนี้มากค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะเขาได้กำหนดเอาไว้แล้ว เพียงแต่ดูเหมือนมีเส้นผมบังภูเขาหรือเป็นการทดสอบจิตหัวหน้าผู้นำบุญว่าจะย่อท้อหรือไม่ที่จะนำพาคนไปทำบุญค่ะจี๊ดคิดว่าอย่างนั้นนะค่ะ โถจะเป็นไปได้อย่างไรเราขับรถวนเวียนไปมาแต่กลับต้องมายังสถานที่เดิมดูสิค่ะ
จี๊ดขอบอกได้เลยว่า อาจารย์มีความเชื่อมั่นลูกศิษย์ อย่างเราก็เชื่อมั่นอาจารย์อีกทีหนึ่งเมื่อมาพบกับวัดแห่งนี้ ทุกคนดีใจมากโดยเฉพาะอาจารย์ที่ได้เห็นศาลาการเปรียญที่ยังสร้างไม่เสร็จ นี่เป็นบุญที่พวกเราต้องมาช่วยกันแล้วค่ะคือดีใจกันทุกคนที่เห็นและสักพักหนึ่งก็ปรากฏว่า มีคนนั่งเล่นหมากรุกอยู่ 2 คนตะโกนบอกว่า ถ้าจะมาพบพระไม่มีนะ เพราะพระท่านไปกิจนิมนต์กันทั้งวัด โห เมื่อได้ยินอย่างนั้นพวกเราเดินคอตกกลับรถเลยค่ะ ส่วนอาจารย์ก็ยังยืนยันว่าต้องเป็นวัดนี้เรามีบุญสัมพันธ์วัดนี้ จี๊ดก็คิดในใจว่าก็ต้องการให้เป็นวัดนี้ แต่จะได้ยังไงที่วัดนี้ไม่มีพระและพวกเราต้องไปหาวัดอื่นแล้ว ใจก็เสียดายที่ไม่ได้พบกับพระที่วัดนี้แต่ทันใดนั้น ระหว่างที่เดินขึ้นรถเพียงแค่จะเปิดประตูรถเท่านั้น ปรากฏว่ามีรถปิ๊กอัพขับเข้ามาจอดและแล้วก็มีพระสงฆ์เดินลงมาจากรถคันนั้น โอไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อเป็นไปตามที่อาจารย์พูดไว้เลยค่ะว่าต้องเป็นวัดนี้ ซึ่งในหมู่พระสงฆ์นั้นก็ได้มีพระรูปหนึ่ง ท่านสอบถามว่า มีธุระอะไร แล้วท่านก็ชี้มือให้ไปคุยกันบนศาลาค่ะ โดยมีพวกเราเดินตามท่านไปค่ะ
เมื่อขึ้นไปบนศาลา อาจารย์ก็ได้สอบถามท่านเจ้าอาวาสไปว่าได้เห็นว่า ศาลาการเปรียญยังสร้างไม่เสร็จ แต่มีการเริ่มมุงหลังคาแล้ว และศาลาหลังนั้นใหญ่มากกว่าศาลาที่พวกเรานั่งกันอยู่นี้ ซึ่งท่านเจ้าอาวาส ได้เล่าว่าศาลาการเปรียญที่พวกเรานั่งกันอยู่นี้มีขนาดเล็ก ซึ่งในวันเทศกาลงานบุญสำคัญ ไม่สามารถรองรับญาติโยมที่มีเป็นจำนวนมากที่ได้มาทำบุญที่วัด โดยส่วนมากชาวบ้านจะเข้าวัดทำบุญกันบนศาลาหลังนี้ ซึ่งสถานที่ไม่เพียงพอค่ะ ซึ่งอาจารย์ก็เล่าให้ฟังไปแล้วว่าที่วัดแห่งนี้มีอดีตเจ้าอาวาสที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทำให้ชาวบ้านบริเวณนั้นมักจะเข้าวัดทำบุญที่วัดแห่งนี้การที่วัดมีพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้สั่งสอนให้ผู้คนมีดวงตาเห็นธรรมไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ประพฤติตนผิดศีลธรรม จนทำให้ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธาผู้คนเหล่านั้นก็จะมุ่งมั่นที่จะทำบุญสร้างบุญกันที่วัดนั้นค่ะ
ทอดผ้าป่าฯสร้างศาลาการเปรียญ อาจารย์ได้แจ้งว่าจะนำผู้คนมาเป็นจำนวนมากมาทอดผ้าป่าฯร่วมสร้างศาลาการเปรียญที่ยังขาดปัจจัยตามกำลังศรัทธาค่ะ ซึ่งศาลาการเปรียญหลังนี้มี 2 ชั้น ที่ด้านล่างใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของผู้ถือศีล ที่ชั้นบนใช้ทำบุญในกิจกรรมวันสำคัญในพระพุทธศาสนาโดยใช้ในส่วนของพระสงฆ์และฆาราวาสค่ะ ในการร่วมบุญด้วยกันในครั้งนี้มีอานิสงส์บุญสูงมากค่ะ
อานิสงส์บุญสร้างศาลาฯ อาจารย์พูดเสมอว่า การร่วมสร้างศาลาการเปรียญนี้มีอานิสงส์บุญมากค่ะไม่ว่าจะเกิดภพชาติใดก็จะเป็นผู้ที่ทำงานใหญ่สำเร็จได้โดยง่าย ไม่มีอปุสรรคอื่นใด จะมีแต่สิ่งดีดีเข้ามาในชีวิตมีอำนาจ มีบารมี และมีบริวารที่ดี จะมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข ไม่ร้อนกายไม่ร้อนใจ เปรียบเสมือนกับหลังคาที่คอยคุ้มแดดคุ้มฟ้าฝนให้แก่ผู้ปฏิบัติธรรม และจะไม่มีคนปองร้าย จะปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง และจะไม่ขาดปัจจัย 4 มีคนนับหน้าถือตาหน้าที่การงาน หรือกิจการงานจะเจริญรุ่งเรืองค่ะ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ชื่อ หลวงพ่อเพชร ประดิษฐานอยู่ที่วัดแห่งนี้ ผู้คนจึงมาทำบุญไม่ขาดสายค่ะ แต่ถึงแม้ว่าชาวบ้านเข้าวัดทำบุญกันไม่ขาดสายแต่ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำไม่ได้มีกำลังทรัพย์ดังนั้น การสร้างศาลาจึงต้องใช้เวลาในการก่อสร้างนานประมาณ 8 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากและทางวัดก็ไม่มีงบประมาณในการก่อสร้างค่ะ ดังนั้น ทางวัดจึงต้องรอคอยเงินปัจจัยจากการทอดกฐินประจำปี หรือการทอดผ้าป่าฯค่ะ
ทาสีกำแพงโบสถ์และซุ้มเสมาแปดซุ้ม จากการเดินสำรวจโดยรอบวัด จึงได้เห็นกำแพงโบสถ์ด้านนอก ด้านใน และซุ้มใบเสมาแปดซุ้ม มีสีดำจากเชื้อราที่เกิดความชื้นรวมทั้งสีเก่าหลุดลอก ไม่มีความสวยงาม ทำให้อาจารย์มีความต้องการที่จะนำพาทุกคนไปทาสีให้กำแพงและซุ้มเสมาให้สวยงามและเพื่อให้คนที่มาทำบุญที่วัดได้เห็นความสวยงาม และเข้าวัดทำบุญด้วยความศรัทธาให้กับวัดค่ะ
ระดมกำลังพล คณะบุญของเราต้องการกำลังรวมพล และระดมกำลังของทุกคนช่วยกันค่ะ ถ้าพวกเราเดินทางไปทำกิจกรรมกันน้อยรายแล้วไซร้ มีหรือกำแพงวัด หรือซุ้มเสมาแปดซุ้มจะสำเร็จ แต่หากทุกท่านรวมพลังกันกว่า 500 คนเหมือนกับที่ทุกท่านได้ร่วมด้วยช่วยกันนั้นงานบุญของเราก็จะสำเร็จค่ะ
การขอรับบริจาคปัจจัยที่สำคัญมากก็คือการนำปัจจัยที่ได้รับบริจาคไปซื้อสีน้ำ (จำนวนหลายสี) และ สีน้ำมัน (สีทอง) ซึ่งอาจารย์จะหาซื้อสีที่มีคุณภาพดี โดยสีที่นำมาทานั้นจะติดทนนานค่ะ อานิสงส์บุญของการทาสี การทาสีให้กับวัดเพื่อให้มีความสวยงามนี้ไม่ว่าจะเกิดภพชาติใดจะมีผิวพรรณที่สวยงามจะเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคม ผู้คนรักใคร่นับถือหากไปเกิดเป็นเทวดาก็จะเป็นเทวดาที่มีแสงบุญสว่างมากกว่าใครค่ะ
ต้นตะเคียนทอง ที่วัดนี้มีต้นตะเคียนทองต้นใหญ่มากค่ะ สังเกตเห็นได้ถึงความเฮี้ยนของเจ้าแม่ หรือไรก็ว่าไปนะค่ะเพราะที่บริเวณใกล้กับต้นตะเคียนทองนั้น มีศาลเพียงตาและมีชุดไทยแขวนเรียงรายกันตรึมค่ะ ยังไม่พอ ที่ตามต้นตะเคียนมีแป้งสีขาวแตะแต้มไปทั่วค่ะ จี๊ดก็อยากที่จะรู้มากที่สุดก็กระซิบกับอาจารย์ว่าอาจารย์สื่อเลยค่ะ สื่อเลยค่ะ สักพักอาจารย์ก็ใช้มือแตะไปที่ต้นตะเคียนค่ะ ทันใดนั้นผู้ที่มาสื่อสารกับอาจารย์กลับไม่ใช่เจ้าแม่ตะเคียนทอง แต่เป็นชีปะขาว ท่านมาบอกว่า ท่านเป็นชีปะขาวปฏิบัติธรรมอยู่ที่ต้นตะเคียนนี้ ที่นี่ไม่มีเจ้าแม่อะไรและอย่ามาขูดขอเลขอะไรเลย ดูสิค่ะ แม้แต่ชีปะขาวก็มาเตือน แต่ไม่มีผู้ใดรับรู้ได้นอกจากอาจารย์ค่ะ ซึ่งอาจารย์ก็ดูด้วยญาณวิถีว่า ที่ต้นไม้นี้มีเทวดารักษาอยู่ ท่านปฏิบัติธรรมด้วยค่ะดังนั้น ที่วัดแห่งนี้ถ้าเจ้าอาวาสหรือพระสงฆ์ปฏิบัติไม่ดีก็อยู่ที่วัดนี้ไม่ได้ค่ะ ซึ่งอาจารย์บอกว่า ต้นตะเคียนทองนี้อายุ 100 กว่าปีค่ะ แม้แต่เทวดาท่านยังต้องการบุญ ชีปะขาวยังต้องนั่งสมาธิเพื่อสร้างบุญแล้วพวกเราทั้งหลายก็อย่าหยุดสร้างบุญกุศลด้วยนะค่ะ จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ ในการนี้ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมบริจาคปัจจัยร่วมบุญกันมากๆ นะคะ และขอเชิญเดินทางไปร่วมบุญด้วยสองมือของทุกท่านในการทาสีสร้างบุญด้วยกันค่ะ
จากที่อาจารย์รู้ได้จากญาณวิถีที่วัดแห่งนี้ในครั้งประวัติศาสตร์พระเจ้าตากสินท่านได้เดินทัพมาพักทัพที่แห่งนี้ค่ะ เจ้าอาวาสท่านก็ไม่รู้จะทำอย่างไรท่านจึงได้เรียกเจ้าหน้าที่วัดให้มาช่วยคุยเรื่องการงานที่จะต้องดำเนินการในงานบุญในวันที่29 กันยายน 2562 เจ้าหน้าที่วัดก็ดีใจบอกว่าเป็นบุญของวัดที่จะมีคนมาทำบุญตั้งมากมายไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยจึงตื่นเต้นกันมากมีชาวบ้านอีกคนได้ยินว่าคณะจะมากัน 5 คน อีกคนบอกไม่ใช่ 500 คน ซึ่งในเรื่องนี้อาจารย์ฝากแจ้งมาด้วยว่าในเดือนนี้ขอให้ไปร่วมบุญกันมากๆ ซึ่งได้รับทราบมาว่า เดือนนี้มีหลายท่านจะงดเว้นไม่ทำบุญในเดือนกันยายน โดยจะไปทำบุญงานกฐินในเดือนตุลาคม ซึ่งอย่านะค่ะ เสียดายมากค่ะ พวกเราไม่ควรงดเว้นการสร้างบุญกุศลแม้แต่เดือนเดียวนะค่ะเพราะหนึ่งเดือนมีครั้งเดียวไม่ได้ทำบุญที่มากนะคะ อาจารย์เคยเล่าว่าเราเดินนำหน้าเจ้ากรรมเดินตามหลัง ถ้าเราหยุดเดินเจ้ากรรมก็ตามทัน บางครั้งแก้ไขไม่ทัน แต่การที่เราเดินต่อไปเรื่อย ๆ เรายังพอมีเวลาที่จะเจรจาหรือผ่อนกรรมหนักให้เบาลงได้ค่ะ ดังนั้นอย่าหยุดทำบุญนะค่ะ กิจกรรมบุญ - ทอดผ้าป่าสามัคคี ร่วมสร้างศาลาการเปรียญเป็นปูนสองชั้น
- ทาสีกำแพงโบสถ์ทั้งด้านนอกและด้านใน และซุ้มใบเสมาทั้งแปดซุ้ม
- กราบสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปคู่วัดนี้มาเป็นร้อยปี
การร่วมบุญ • กองทุนละ 2,000 บาท • ตามกำลังศรัทธา จี๊ดจึงขอเป็นตัวแทนอาจารย์เจน เพื่อเชิญชวนทุกท่านไปร่วมบุญกับคณะบุญเสบียงสวรรค์ครั้งที่ 73 โครงการเคลือบสนิม ครั้งที่ 17 ตอน ระดมพล บูรณะวัด ในวันอาทิตย์ที่29 กันยายน 2562 เพื่อจะได้ไปร่วมบุญกันให้บุญนั้นพลันสำเร็จทุกประการค่ะ จึงขออนุโมทนาบุญกับทุกมา ณ โอกาสนี้ค่ะ
จี๊ดจ๊าด
|