งานบุญกฐินมาอีกแล้วค่ะจี๊ดยังตื่นเต้นกับกฐินปีที่แล้วอยู่เลยค่ะ นี่ก็เผลอแป๊ปเดียวหนึ่งปีแล้ว เมื่อปีที่แล้วทุกท่านที่ได้มาร่วมงานบุญกฐินครั้งนั้นคงจำกันได้นะค่ะเพราะเป็นงานบุญกฐินที่ยิ่งใหญ่ในทริปบุญเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 39 ชื่อตอน “มหากฐิน นครบุญ” จี๊ดจำได้ว่า ที่วัดนั้นยากจนมาก ความประสงค์ของทางวัดต้องการเปลี่ยนพื้นไม้กระดานที่ชำรุดใหม่ และบูรณะศาลาบางส่วนเท่านั้น เพราะศาลากุฏิที่สร้างด้วยไม้พื้นยกสูงมีใต้ถุนเป็นพื้นดิน ศาลาฯ มีอายุกว่า 100 ปี เก่าชำรุดทรุดโทรมมากแทบใช้การไม่ได้แต่พระสงฆ์ก็ยังใช้เป็นที่พักนอนเพราะมีห้องเล็ก ๆ บนศาลาค่ะ ดังนั้น การที่พระสงฆ์จะเดินไปมาบนศาลานี้ต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก มิฉะนั้นจะต้องตกลงไปใต้ถุนศาลาอย่างแน่นอนค่ะ แต่คณะบุญของเราสามารถมาเป็นผู้ที่เติมเต็มให้กับทางวัด ซึ่งทำให้พวกชาวบ้านเห็นคณะเดินทางของเราที่เดินทางไปร่วมบุญกันในวันนั้นเปรียบเหมือนกับเทวดานางฟ้ามาโปรดก็ไม่ปานค่ะ เพราะจำนวนผู้คนที่เดินเข้าไปภายในวัดนับ 1,000 คน สร้างความตื่นเต้นให้กับชาวบ้านมากค่ะ โดยชาวบ้านพูดว่า ไม่เคยพบไม่เคยเจอคณะบุญใดจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ค่ะ และเมื่อ อ.เจน ประกาศยอดเงินกฐินต่อหน้าประจักษ์พยาน คณะบุญฯ คณะสงฆ์ และชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านปลื้มใจดีใจและทำให้ชาวบ้านยิ้มไม่หุบค่ะ ซึ่งรวมยอดเงินบุญกฐิน เป็นเงิน 1,286,790.- บาท นี่ยังไม่รวมค่าซื้อบริวารกฐินและสังฆทาน 300,000.- กว่าบาท และเงินติดกัณฑ์เทศน์อีก 32,989.- บาท จึงเป็นเงินรวมทั้งสิ้นเกือบ 2 ล้านบาทเชียวค่ะ
หลังจากนั้น ทางวัดได้สร้างศาลาขึ้นใหม่ทดแทนศาลาไม้หลังเก่าค่ะ เนื่องจากเงินทอดกฐินของคณะบุญเสบียงสวรรค์มีมากพอที่จะสร้างศาลาใหม่ได้ทั้งหลัง ดังนั้น ทางวัดจึงได้ดำเนินการสร้างศาลาหลังใหม่เป็นปูนผสมไม้จนแล้วเสร็จ และได้ทำการจัดงานบุญยกช่อฟ้า โดยเชิญ อ.เจน ญาณทิพย์ ไปร่วมเป็นประธานในพิธี ร่วมยกช่อฟ้า ซึ่งทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วมบริจาคเงินทอดกฐินใน ปี 2559 โดยทางวัดให้ชื่อศาลาหลังนี้ว่า “ศาลานครบุญ” น่าชื่นใจนะค่ะด้วยเงินของทุกท่านที่ได้ร่วมบริจาคกันมา สามารถรวมพลังปัจจัยช่วยกันสร้างศาลาให้กับวัดใหม่ทั้งหลัง กว้างขวางใหญ่โตกว่าเก่า ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าด้วยค่ะ น่าตื่นตันใจมากนะค่ะ จากศาลาไม้ทรุดโทรมใช้การแทบไม่ได้แปรเปลี่ยนเป็นศาลาหลังใหม่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า และใช้ประโยชน์ในงานบุญงานกุศลในศาลานี้ได้นานับประการค่ะ อาทิเช่น สวดมนต์ นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม และเพื่อให้ชาวบ้านได้ทำบุญต่าง ๆ ค่ะ จากที่กล่าวให้ฟังนั้นจี๊ดรู้สึกตื่นเต้นดีใจไปกับทุกท่านด้วยค่ะ และถือว่าเป็นการสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดค่ะ และทุกครั้งที่มีพระสงฆ์ หรือชาวบ้านขึ้นศาลาทำบุญ ท่านผู้บริจาคก็จะได้บุญนั้นด้วยทุกครั้งไป ไม่ว่าท่านจะละจากโลกนี้ไปแล้วด้วยบุญนี้ก็จะติดตามทุกชาติไปค่ะ
สำหรับกฐิน ปี 2560 นี้ จี๊ดขอบอกว่า ไม่ธรรมดาและจะดีกว่าดียิ่งขึ้นไปค่ะ เพราะงานบุญทอดกฐินของ อ.เจน ได้ใช้ญาณทิพย์พิจารณาดู มีเทพเทวา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาช่วยบอกกล่าวด้วย ธรรมดาซะที่ไหนเล่าค่ะ
การเดินทางไปเซอร์เวย์เพื่อไปหาวัดทอดกฐินครั้งนี้ คณะเดินทางไปกันในวันที่ฝนตกตลอดทั้งวัน ไม่ง่ายเลยค่ะที่จะฝ่าสายฝนไปหาวัดทอดกฐินที่มีข้อจำกัดหลายประการค่ะ เพราะแต่ละวัดที่เดินทางไปนั้นมีแต่วัดที่คนเขาจองเป็นเจ้าภาพทอดกฐินกันไปแล้วค่ะ นี่ขนาด อ.เจน ไปเซอร์เวย์ล่วงหน้าแล้วนะค่ะ เพราะการหาวัดที่มีความพร้อมและสมบูรณ์แบบ เหมาะสมที่จะทำการทอดกฐินต้องมีความสมบูรณ์แบบในองค์กฐิน มิเช่นนั้นจะเป็นกฐินเดาะ หมายถึง กฐินเป็นโมฆะ ไม่ตรงตามข้อกำหนดในทางพุทธศาสนาค่ะ ตามที่ อ.เจน ได้เกริ่นไปแล้วนั่นแหละค่ะ เพราะถ้ากฐินเป็นโมฆะก็เท่ากับว่าเป็นการถวายสังฆทานธรรมดา โดยจะไม่ได้รับอานิสงส์บุญของการทอดกฐินที่เต็มกำลังไม่เป็นมหากุศลค่ะ
ตลอดเส้นการเดินทางฝนตกตลอดเวลา จากถนนใหญ่จนไปถนนแคบที่มีแต่ดินแดงเป็นพื้นดินที่เปียกแฉะ โชคดีที่มีความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์สองข้างทางไม่มีแม้แต่บ้านคนสักหลังค่ะ จี๊ดนั่งมองไปสองข้างทางมีแต่ต้นไม้ใบเขียวที่เปียกชื้น รถยนต์ต้องขับเคลื่อนไปด้วยความระมัดระวัง และคนที่ได้รับหน้าที่ไปสอบถามวัดเกี่ยวกับการทอดกฐินของแต่ละวัดจะต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงจากรถหลายครั้งก็เรียกว่าต้องเปียกปอนค่ะ ซึ่งไม่สนุกนักนะค่ะ และถ้าต้องการให้ได้วัดที่จะทำการทอดกฐินให้ได้ก็ต้องพยายามและฝ่าฟันค่ะ
การเซอร์เวย์หาวัดทอดกฐินเหมือนกับการล่อซื้อของนั่นแหละค่ะ เนื่องจากวัดต้องมีความพร้อมนั่นเองค่ะ โดย อ.เจน จะสั่งการให้ผู้ที่มอบหมาย 2 คน ไปสอบถามพระสงฆ์ว่าที่วัดแห่งนี้มีเจ้าภาพจองกฐินหรือยัง นี่เป็นคำถามแรกนะค่ะ ถ้ามีคำตอบว่า ไม่มีเจ้าภาพจองกฐินก็ต้องมีคำถามอื่นต้อไปอีก คือ ที่วัดนี้มีโบสถ์มั้ย ถ้าที่วัดนี้มีโบสถ์ ก็มีคำถามต่อไปอีก พระจำพรรษาที่วัดกี่รูป ระยะเวลาเท่าใด ฯลฯ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฐินค่ะ ซึ่งทำให้ต้องขึ้นรถลงรถสอบถามไปอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ หลายวัดค่ะ และวัดบางแห่งก็ไม่ต้องถามเพราะได้ติดป้ายประกาศบอกบุญงานกฐิน ปี 2560 ไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้เลี้ยวรถออกจากวัดได้เลยค่ะ ความเสี่ยงที่มี คือ สุนัขวัดที่มีอยู่เป็นจำนวนมากนะค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ก็วิ่งขึ้นรถด่วนค่ะ เพราะเสี่ยงอันตรายมากกับพวกฝูงสุนัขมันวิ่งมาออกันเป็นหมู่คณะมันพร้อมใจกันมาค่ะ โอ้โหที่เขาว่าหมาหมู่พวกมันมากมันจะเห่ากันระงมเชียวค่ะทำให้เผ่นออกจากวัดไปค่ะ การหาวัดทอดกฐินแม้จะหายาก ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ต้องหาจนได้ค่ะ ตามที่เบื้องบนเขาจัดสรรไว้แล้วแต่เขาจะทดสอบเราเท่านั้นเองค่ะว่าเราจะยังมีความพยายามมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม อ.เจน ไม่เคยลดละความพยายามแน่ ๆ ค่ะ เมื่อเทวดาท่านดลจิตดลใจให้เดินทางมาไปที่จังหวัดนั้นแล้ว อ.เจน ก็จะมุ่งมั่นที่จะหาวัดทอดกฐินให้ได้อาจจะมืดค่ำแต่ก็ได้ค่ะ แต่ที่รู้ ๆ เดินหน้าไม่ถอยหลังกลับและไม่ท้อต่อสายฝนที่ตกลงมาตลอดทางค่ะ สำคัญอยู่ที่พลขับนี่สิค่ะที่ต้องทำหน้าที่ให้ดี เพราะจี๊ดได้มองเห็นฝ้าที่หน้ากระจกรถที่เกิดจากละอองฝนขาวโพลนเชียวค่ะ
เมื่อยังหาวัดไม่ได้ตามที่ประสงค์ อ.เจน จึงอธิษฐานจิตขอให้เทวดานำทางไปหาวัดที่มีความเหมาะสมที่จะทำการทอดกฐินและต้องเป็นวัดที่ยากจนขาดปัจจัยสร้างทำนุบำรุงถาวรวัตถุให้กับพระพุทธศาสนาค่ะ ต่อจากนั้น อ.เจน ได้บอกให้ลูกศิษย์ขับรถตามที่ อ.เจน ได้ชี้บอกทางให้เพราะเทวดาท่านจะนำพาไป ซึ่งในขณะนั้น พลขับก็ได้ขับเคลื่อนรถไปตามเส้นทางที่ อ.เจน ชี้นำไปและได้พบกับวัดแห่งหนึ่ง
โดย อ.เจน สั่งการให้จี๊ดและน้องทีมงานให้ลงจากรถเพื่อไปสอบถามพระสงฆ์ว่า ที่วัดแห่งนี้มีเจ้าภาพจองกฐินหรือยังตามที่กล่าวไว้แล้วข้างต้นนั้น ครั้งแรกที่สำรวจจากสายตาของจี๊ดไม่เห็นมีพระสงฆ์สักรูปภายในวัด แต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไรเมื่อเดินจนรอบวัดแล้วก็ไม่พบใครจึงย้อนกลับไปหา อ.เจน อีกครั้ง ตอนนี้ อ.เจน เดินลงมาจากรถบ้างแล้ว โดย อ.เจน เดินมาสมทบ จี๊ดค่อนข้างสงสัยทำไม อ.เจน จึงบอกว่า พระสงฆ์ท่านจะอยู่ที่นี่เพราะไม่เห็นสักรูปหนึ่ง ซึ่ง อ.เจน ยิ้มและตอบว่า เทวดาให้รออยู่ที่หน้าศาลานี้เดี๋ยวพระท่านก็มา อ.เจน พูดไม่ขาดคำ ทันใดนั้นก็มีรถกระบะเล็กมาส่งพระรูปหนึ่ง แหมจี๊ดหันมาพูดกับ อ.เจน ว่า โอ้โห อาจารย์เทวดาท่านสุดยอดเลยค่ะ นั้นพระค่ะอาจารย์ พระท่านอยู่ในรถกระบะและแล้วท่านก็ออกมาจากรถนั้น อ.เจน กับ จี๊ด ก็เดินไปหาท่านด้วยความดีใจ จี๊ดรีบถามก่อนเลยค่ะ เออ หลวงพ่อค่ะ ที่วัดนี้มีเจ้าภาพจองกฐินหรือยังค่ะ คำตอบของท่านทำให้จี๊ดมึนตึบไปเล็กน้อยค่ะ ท่านตอบว่า อ๋อ มีแล้วโยม ได้ฟังอย่างนั้นจี๊ดก็หันไปแอบกระซิบกับ อ.เจน ว่า เทวดาท่านไม่รู้หรือค่ะทำพาพวกเรามาผิดวัดค่ะ สักครู่หนึ่งหลวงพ่อท่านก็พูดขึ้นมาว่า แต่มีวัดที่ยังไม่มีกฐินนะโยม อาตมาจะนำพาไป เท่านั้นล่ะพวกเราดีใจ๋ดีใจค่ะ จึงนิมนต์หลวงพ่อท่านนั่งหน้ารถนำพาไปวัดแห่งนั้นค่ะ เส้นทางไปวัดนั้นเป็นดินแดงและเป็นป่าหญ้าไม่มีบ้านคนสักหลัง ซึ่งขอบอกว่าเปล่าเปลี่ยวเดียวดายมากค่ะ ถ้าเดินอยู่คนเดียวคงกลัวค่ะ
ซุ้มประตูและโบสถ์วิหาร สักพักหนึ่งจึงพบกับวัดแห่งหนึ่ง เมื่อแรกเข้าไปภายในบริเวณวัดก็ยังไม่รู้เลยว่านี่เป็นวัดหรือเหมือนอยู่ในป่า พอพ้นป่ามาสักหน่อยก็ได้เห็นโบสถ์ที่สวยงามมากค่ะ ไม่น่าเชื่อมีโบสถ์สวยงามกลางป่าที่ยังสร้างไม่เสร็จค่ะ แต่เมื่อหลวงพ่อที่นำพามาแนะนำให้ได้พบกับหลวงตาวัดนี้ก็รู้สึกสงสารหลวงตามากที่สุดค่ะ ท่านมีรูปร่างเล็กผอมบาง อายุ 70 ปี ท่านมีใบหน้ายิ้มแย้มใจดีค่ะ อ.เจน ได้สอบถามหลวงตาท่านเกี่ยวกับวัดแห่งนี้เพราะเห็นว่าโบสถ์ยังสร้างไม่เสร็จ โดยหลวงตาเล่าว่า วัดแห่งนี้ค่อย ๆ สร้างและสร้างมานานนับ 10 ปีแล้วไม่เสร็จ และ อ.เจน ได้เห็นหลวงตารูปนี้จะมีชีวิตอยู่ไม่นานทำให้เทวดาอยากช่วย และอยากให้บุญสำเร็จ โดยเทวดาว่า เบื้องบนเขาให้รอ รอคณะบุญเสบียงสวรรค์มาช่วยสมโภชน์อุโบสถหลังนี้ให้เสร็จก่อนที่หลวงตาท่านจะละสังขารไปค่ะ
หลวงตาเองท่านยังพูดด้วยตนเองเหมือนรู้ตัวว่าจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปได้แล้ว ท่านพูดขึ้นว่า ไม่รู้ว่าอาตมาจะมีชีวิตอยู่จนถึงโบสถ์สร้างเสร็จหรือไม่ ตอนนั้นจี๊ดฟังแล้วก็สงสารท่าน และก็ไม่รู้ด้วยว่า อ.เจน รู้ล่วงหน้ามาคุยกันที่หลังจึงยิ่งสงสารท่านไปกันใหญ่ค่ะ จี๊ดได้ยิน อ.เจน พูดขึ้นมาว่าจะสร้างซุ้มประตู คุณรุ้งจึงพูดขึ้นมาว่าอะไรเจน โบสถ์ยังสร้างไม่เสร็จจะไปสร้างซุ้มประตูทำไม แต่ อ.เจน ก็ไม่ตอบ คุณรุ้ง ก็ย้ำเตือนอีก อ.เจน จึงหันมาพูดว่า เอาน่าพี่รุ้ง หนูรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าถ้ามีซุ้มประตูที่วัดนี้จะเจริญและผู้คนจะเข้าวัดแห่งนี้เชื่อหนู เพียงแค่นั้นพวกเราก็เข้าใจแล้วค่ะ ดังนั้น อ.เจน จึงโทรศัพท์ติดต่อช่างสร้างซุ้มประตู เจ้านี้เขาทำได้สวยงามมากขอรูปภาพมาทาง Line และนำมาให้หลวงตาเลือกรูปภาพ เหมือนหักใจหลวงตาเพราะท่านไม่รู้ แต่ อ.เจน รู้ไงค่ะ ทำให้หลวงตาจำยอมเลือกภาพซุ้มประตูทั้ง ๆ ที่ใจต้องการสร้างโบสถ์ให้เสร็จค่ะ ตอนนั้นจี๊ดก็ยังไม่เข้าใจมาเข้าใจตอนหลังค่ะ อ.เจน พูดไห้ฟังว่า ในภายภาคหน้าจะมีผู้คนเข้ามาทำบุญที่วัดแห่งนี้มากมาย แต่ในญาณวิถีรู้ว่า ต้องสร้างซุ้มประตูทางเข้าวัดก่อนค่ะ แต่จี๊ดก็เชื่อว่า บุญทอดกฐินของเราน่าจะมีเงินเหลือพอที่จะสร้างโบสถ์ให้สำเร็จได้เนื่องจากโบสถ์ใกล้เสร็จแล้วขาดการตกแต่งภายใน อ.เจน เห็นว่า สิ่งที่ขาดจะต้องเป็นภาพเขียนพระพุทธประวัติค่ะ ถ้าอย่างนั้นจี๊ดขอเชิญชวนให้ทุกท่านมาร่วมด้วยช่วยกันให้ได้ยอดเงินมาก ๆ เพื่อจะได้ทำบุญหลากหลายจะดีกว่านะค่ะ ได้ทั้งบุญสร้างซุ้มประตู และสร้างโบสถ์สำเร็จด้วยค่ะ
กฐินตกค้าง หลวงตาเองก็ไม่รู้จักและไม่แน่ใจว่าทางคณะของเราจะมาหลอกลวงท่านหรือไม่ ท่านเล่าว่า เมื่อกฐินปีที่แล้วที่วัดนี้เป็นกฐินตกค้าง โดยมีบุคคล ๆ หนึ่งรับปากว่าจะนำกฐินมาทอดที่วัดแห่งนี้และขอจองกฐินเอาไว้ พร้อมกับแจ้งว่าจะมากันเป็นล้านบาท ทางวัดและชาวบ้านดีใจมากจึงได้จัดเตรียมอาหารคาวหวานไว้ต้อนรับจำนวนมากมาย เมื่อถึงเวลานัดหมายทางวัดเฝ้ารอแล้วรออีกก็ไม่มีผู้ใดมา จึงต้องทำเป็นกฐินเร่งด่วนชาวบ้านสงสารก็ช่วย ๆ ทอดกฐินเดี๋ยวนั้นเลย อาตมาสงสารชาวบ้านเหมือนกันเพราะพวกเขาก็ไม่มีเงินกันทั้งนั้นค่ะ
เมื่อมีการนัดหมายกำหนดการกฐินกันเรียบร้อยแล้ว หลวงตาท่านแจ้งว่า จะทำการกรานผ้ากฐินที่วัดใกล้เคียงเพราะที่วัดแห่งนี้โบสถ์ยังไม่สมโภชน์ค่ะ จี๊ดชอบหลวงตานะค่ะ อ.เจน พูดว่า หลวงตาท่านรู้ค่ะ ท่านทำตามหลักพระพุทธศาสนาของงานกฐิน ท่านทำถูกต้องค่ะ
บริจาครถเข็น ในงานบุญกฐินนี้ อ.เจน มีความประสงค์จะช่วยเหลือชาวบ้านซึ่งเป็นการสร้างทานทางด้านอาชีพด้วยค่ะ โดย อ.เจน จะหาเจ้าภาพซื้อรถเข็นเพื่อบริจาคให้กับชาวบ้านที่มีอาชีพค้าขายด้วยรถเข็นค่ะ เพราะเป็นการส่งเสริมอาชีพผู้ด้อยโอกาสให้มีอาชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเพื่อหารายได้ให้กับครอบครัวค่ะ
บริวารกฐิน ที่อาจารย์ เจน ประกาศบอกกฐินเร็วเนื่องจาก ปีนี้อาจารย์บอกว่า อยากจัดข้าวของบริวารกฐินอย่างสวยสดงดงามและเป็นงานปราณีตที่ต้องสั่งทำ ดังนั้นต้องเตรียมงานเป็นอย่างดี เพื่ออานิสงส์ให้ทุกท่านได้บุญเต็มกำลัง และได้บริวารกฐินที่เป็นของเลิศค่ะ
จี๊ดจ๊าดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้บริจาคด้วยนะค่ะ และขอให้ทุกท่านได้มาร่วมทอดมหากฐิน ร่วมสร้างซุ้มประตูทางเข้าวัด ร่วมสร้างโบสถ์วิหาร และทำทานต่าง ๆ สาธุ
จี๊ดจ๊าด | 
โพสต์เมื่อ 2017-8-24 17:08:09