สวัสดีทุกท่านผู้ร่วมบุญนะค่ะ จี๊ดจ๊าดมาเล่า และขออนุโมทนาบุญกับบุญเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 49 ในวันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน 2560 และได้ดำเนินการสำเร็จแล้วอย่างเฉียบพลันนะค่ะ เพราะว่าบุญได้สำเร็จแล้วจริง ๆ ค่ะ จี๊ดจำได้ว่าก่อนออกเดินทางในคืนวันเสาร์ อาจารย์ได้สวดมนต์ที่ห้องพระของ อาจารย์ และบอกกล่าวต่อครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า วันพรุ่งนี้จะไปทำบุญที่วัดชื่ออะไรบ้าง และทำบุญอะไรบ้าง ขอให้การเดินทางโดยรถบัสกี่ค้นและมีรถขนสังฆทานที่ติดตามเดินทางด้วยความปลอดภัยทั้งไปและกลับ คือเรียกว่าอาจารย์อธิษฐานจิตคุ้มครองและครอบคลุมทั้งหมด เพื่อให้การเดินทางไม่มีปัญหาและอุปสรรค อื่นใดมาขัดขวางค่ะ ซึ่งก็มีนะค่ะบางครั้งจะมีอุบัติเหตุใดเทวดาท่านก็จะเตือนให้อาจารย์รับรู้ก่อนล่วงหน้า พร้อมวิธีแก้ไขและก็สามารถผ่านพ้นไปได้ค่ะ เพราะเหตุที่ว่า ผู้คนที่มาทำบุญล้วนมีกรรมและมีเจ้ากรรม ตามติดด้วยกันทุกคนบางครั้งเขาก็มาขัดขวางและบางครั้งเขาก็มาดลจิตดลใจไม่ให้คุณเดินทางไปร่วมบุญได้ด้วยอุปสรรค์ค่ะ ครั้งนี้ ไม่น่าเชื่อเลยนะค่ะที่ผู้ร่วมเดินทางทริปนี้ผู้ร่วมบุญเดินทางมากันน้อยกว่าปกติ จี๊ดก็ไม่รู้ถึงสาเหตุใดบ้างด้วยความอยากรู้มาก ๆ ก็ได้ไปสอบถามความคิดเห็นจากน้องทีมงาน จิตอาสาเผื่อว่าใครพอจะรู้ได้บ้างและหรือมีสาเหตุใดกันบ้างก็ไม่แน่ใจ ซึ่งพอจะสรุปได้พอสังเขปนะค่ะ โดยมีสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้ - ทัวร์บุญเสบียงสวรรค์ของอาจารย์มักจะกลับดึกมากทำให้วันรุ่งขึ้นทำงานไม่ไหว - บ้านอยู่ในซอยเปลี่ยวเป็นอุปสรรคในการกลับบ้าน - ครั้งนี้ไม่ไปรอไปงานบุญกฐินดีกว่า - ครั้งนี้ไปทำบุญสร้างฐานพระคงไม่สำคัญเท่าไหร่ และอื่น ๆ อีกมากมายค่ะ จี๊ดขอบอกว่า การไปทำงานบุญงานกุศลแต่ละครั้งเราต้องฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรค์ทั้งปวงให้ได้ค่ะ เช่น การกลับบ้านดึกดื่นมืดค่ำทำงานไม่ไหวก็เข้าใจได้ค่ะ เพราะบางท่านอาจจะมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรง แต่ถ้าหากว่าท่านที่มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถอดทนสักหน่อยเพียงอีกนิดนึงและให้คิดเสมอว่า บุญเท่านั้นที่เราเอาไปได้ ท่านก็จะทำบุญด้วยความสุขสบายใจ ถึงแม้ว่าจะกลับบ้านดึกดื่นสักหน่อย เอาน่าหนึ่งเดือนมีครั้งเดียวเองค่ะ หรือว่าท่านใดบ้านอยู่ซอยเปลี่ยวก็แก้ไขปัญหานั้นโดยการขอร้อง ให้ญาติมารับหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เราสามารถทำบุญแบบไม่เครียดกับเวลานะค่ะ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มิได้อะไรนะค่ะจี๊ดมีประสบการณ์เฉียดตายมาแล้ว ตอนนั้นคิดว่าเราทำบุญมา น้อยเหลือเกินยังทำบุญไม่ทันและไม่พอเลยจะมาตายเสียแล้วหรือยังอยากมีชีวิตที่จะทำบุญต่ออยู่อีกเสียดายจังเลยค่ะ จี๊ดมีข้อคิดให้ท่านพิจารณา ดังนี้นะค่ะ - เราดูละครนอนดึกได้ เราไปเที่ยวกลางคืนกลับบ้านมืดค่ำกับเพื่อนได้ แต่การทำบุญหนึ่งเดือน ครั้งเดียวกลับบ้านมืดค่ำทำให้เพลียเหนื่อยอดนอนในวันรุ่งขึ้นนั้นหากเราอดทนสู้บุญมีหรือสวรรค์จะไม่เห็นค่ะ เหล่าเทวดาต่างก็อยากจะมาเป็นเทวดาประจำตัวของคุณที่มีความมานะในบุญกุศลท่านก็จะสรรเสริญ เจริพรอย่างแน่นอนค่ะ
- กรณี รอทำบุญกฐินครั้งต่อไปซึ่งเป็นบุญใหญ่ดีกว่านั้น อย่าไปคิดอย่างนั้นเลยนะค่ะเพราะ คนเรามีความตายเป็นเบื้องหน้า ดังนั้น เรามากอบโกยบุญกันดีกว่าเพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าครั้งหน้า จะได้มีโอกาสได้ไปหรือไม่ หรืออาจจะมีอุปสรรคต่าง ๆ ที่ไม่สามารถจะเดินทางไปงานกฐินนั้นได้ ถ้าเช่นนั้นเรามาสู้บุญกันดีกว่า เรามาไขว้คว้าเอาบุญตรงหน้ากันดีกว่านะค่ะ - การทำบุญสร้างฐานพระนั้น อย่าคิดว่าไม่สำคัญนะค่ะ อาจารย์บอกกับจี๊ดว่า เสียดายที่มีหลายคน ไม่ได้มาร่วมสร้างฐานพระในครั้งนี้ เพราะหาทำได้ยากและยังมีผู้คนอีกมากที่ไม่เข้าใจโดยคิดว่า แค่สร้างฐานของพระไม่ใช่บุญใหญ่โตอะไรจึงไม่ทำบุญครั้งนี้ แต่หารู้ไม่ว่า การสร้างฐานของพระนั้นมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการสร้างพระเลยนะค่ะ ดังนั้น การได้สร้างฐานพระในครั้งนี้ได้รับอานิสงส์บุญมากน่าเสียดายมากค่ะ ทำไมเพราะเหตุใด ทริปบุญที่ 49 นี้จึงมีผู้คนมาทำบุญน้อยกว่าปกติ เพราะมีสาเหตุที่อาจารย์ได้ เห็นในญาณวิถีก็คือทุกท่านที่ได้ร่วมเดินทางกันมาทั้งหมดนี้ ในอดีตชาติได้เคยเดินทางมาทำบุญ ที่วัดแห่งแรกที่กำลังจะกล่าวถึงในโอกาสต่อไปนี้แล้วค่ะ
วัดที่ 1 พวกเราทั้งหลายชายหญิงได้เคยไปทำบุญที่วัดแห่งนี้มาแล้ว โดยอาจารย์ได้เห็นในญาณวิถีว่า พวกเราทั้งหลายที่ได้เดินทางไปทำบุญที่วัดแห่งนี้มาแล้วในอดีตชาติโดยเดินทางมาด้วยความยาก ลำบากและต้องเดินทางมาทางน้ำโดยการพายเรือมาเท่านั้น ในสมัยนั้นจึงไม่มีผู้คนมาทำบุญกันมากนัก เพราะการเดินทางมาแต่ละครั้งเป็นไปด้วยความยากลำบากค่ะ ดังนั้น ผู้ที่บากบั่นมาทำบุญด้วยกันในครั้งนั้น ก็คือพวกเราในครั้งนี้และได้มาทำบุญร่วมกันอีกครั้งค่ะ ซึ่งเห็นหรือยังค่ะที่อาจารย์พูดเสมอ ๆ ค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่บังเอิญค่ะ เพราะเขาได้ลิขิตเอาไว้แล้วอย่างแท้จริงค่ะ ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ 11 รูป คณะบุญของเราได้เดินทางมาถึงก่อนกำหนดเวลาที่ นัดหมายกับทางวัดไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ถือเป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ คณะสงฆ์ได้รออยู่แล้วเมื่อเดินทางมาถึง เจ้าอาวาสยิ้มต้อนรับ โดย อ.เจน ได้เรียนกับท่านว่า บัดนี้ คณะบุญเสบียงสวรรค์ได้มา ถึงพร้อมแล้วจึงขอนิมนต์ถวายภัตตาหารเพล ซึ่งภัตตาหารเพลนี้ อ.เจน ได้จัดสรรเงินบริจาค ที่ทุกท่านได้ร่วมบุญกันมาสั่งอาหารคาวหวาน 5 อย่าง จากร้านอาหารชื่อดังในแถบนั้นถวายเป็นภัตตาหารนี้ โชคดีนะค่ะที่ อ.เจน คิดถึงเรื่องบุญต้องการให้ทุกท่านได้บุญที่หลากหลายมากมายอุตส่าห์มาทำบุญร่วมกัน ทั้งทีจะได้กอบโกยบุญกันมาก ๆ ค่ะ เทปูนสร้างฐานพระพุทธรูป หลังจากที่ อ.เจน ได้นำจบอธิษฐานถวายข้าวพระพุทธ และถวายข้าวพระสงฆ์แล้ว ทุกคนก็ทยอยออกจากศาลาไปยังโบสถ์ โดยทุกคนยืนต่อแถวกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยในเวลาอันรวดเร็ว โดยแบ่งเป็นสองแถวสองช่องประตูของโบสถ์ค่ะ โดยเริ่มจากฐานพระไปจนถึงเครื่องโม่หิน ซึ่ง อ.เจน ได้จัดทีมงานไว้แล้วค่ะ ก่อนอื่น อ.เจน ได้อัญเชิญเทวดาให้มาร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ซึ่งทุกท่านจะสังเกตได้ว่าก่อนหน้านั้น อากาศค่อนข้างอบอ้าว แต่เมื่อ อ.เจน อัญเชิญเทวดาลมมา จากไหนไม่รู้และแสงแดดก็ค่อย ๆ หายไปมีแต่ความร่มเย็นคนที่เตรียมหมวกกันแดดเสื้อแขนยาว คงเตรียมมาเก้อนะค่ะงานนี้ เพราะ อ.เจน เห็นว่า บุญที่เราทำนั้นยิ่งใหญ่จริง ๆ จนเหล่าเทวดาทน ไม่ได้ต่างมากันเต็มไปทั่วบริเวณรวมทั้งมีฤษีดาบสก็มาด้วยค่ะ มิน่าล่ะจี๊ดถึงว่ามีลมพัดหวนเย็นสบาย ตลอดไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยค่ะ ทุกคนช่วยกันทีมงานช่วยกัน ผสม หิน ปูน ทราย ใส่เครื่องโม่ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วใส่ถังลำเรียงไปยังฐานพระ โดยบอกต่อ ๆ กันไปว่าขอให้ ทุกคนตัดกรรมที่เรากำลังทุกข์ใจเรื่องอะไรอยู่และขอให้ทุกคนตั้งใจและมีสติระลึกรู้ว่าขณะนี้ เรากำลังสร้างบุญกุศลในการยกถังปูนแต่ละถังไปสร้างฐานพระค่ะ จี๊ดเห็นถึงความตั้งใจนี้ค่ะทุกคนตั้งใจกันมาก และทุกคนก็พร้อมใจกันทำงานด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสค่ะ โรงทานและอาหารกลางวัน ชาวบ้านให้การต้อนรับโดยมีโต๊ะจีนที่จัดไว้เป็นอาหารพื้นบ้านของคนตำบลนี้ นอกจากนี้ได้มีโรงทานของ อ.เจน ที่ได้สั่งซื้อปลาทูลาดพริกปรุงสามรส จากร้านอาหารชื่อดัง และ เต้าหู้นมสด โดยทีมงานได้เดินแจกจ่ายไปตามโต๊ะ และขอบอกว่ารดเลิศมากค่ะ ใคร ๆ ก็ร้องเรียกหาแต่ปลาทูสามรส ซึ่งจี๊ดได้ชิมแล้วอร่อยมากค่ะ นอกจากนี้ก็มีน้ำอัดลมหลากหลายไว้ บริการด้วยค่ะ อ.เจน บอกว่าคนทำงานเขาก็เหนื่อยกันจะได้อิ่มและสดชื่นใจค่ะ เหล่าเทวดามาถ่ายรูปร่วมด้วย เมื่อเสร็จจากภารกิจแล้ว อ.เจน ก็ได้ให้ตากล้องคุณวีรภพถ่ายรูปไว้ เพื่อเป็นภาพความประทับใจว่า ครั้งหนึ่งพวกเราทั้งหลายได้ช่วยกันสร้างฐานพระด้วยสองมือของเราเอง โดย อ.เจน ยืนบนไม้กระดานแผ่นเดียว ถัดจากนั้นลงมาก็เป็นคณะบุญเสบียงสวรรค์ที่อัดแน่นอยู่ ในโบสถ์หลังนั้น ซึ่งก็มีเรื่องขบขันมาเล่าสู่กันฟังก็เพราะว่าคุณวีรภพผู้กล้าได้ปีนนั่งร้านที่เป็น เหล็กขึ้นไปเพื่อเก็บภาพและลืมไปว่าตัวเองนั้นกลัวความสูงเป็นที่สุดทีนี้เมื่อขึ้นไปแล้วก็เห็น ความสูงใช่มั้ยค่ะแกก็ถือกล้องขาสั่น ผับ ๆๆ ทำให้ขานั่งร้านที่เป็นเหล็กนั้นสั่นคลอนตามขา ที่สั่นของคุณวีรภพไปด้วยจึงทำให้ทุกคนในที่นั้นต่างก็ขบขันกันมากค่ะ นี่ก็เป็นหนึ่งในภาพ ความประทับใจที่เห็นกันไดในตาเนื้อนะค่ะ แต่ที่เห็นในตาทิพย์นี่สิค่ะ โดย อ.เจน เล่าว่า ในระหว่างนั้น ก็เหมือนมีคนมาแตะที่ไหล่ขวาของ อ.เจน อย่างแรงซึ่งเป็นแรงปะทะที่แรงและรู้สึกได้จึงทำให้ อ.เจน ต้องหันไปดูว่า ใครมาแตะไหล่จนรู้สึกถึงแรงปะทะนั้น ครั้งแรก อ.เจน คิดว่า มีคนงานอยู่ที่ด้านหลังมาแตะไหล่แต่ก็เปล่าไม่มีค่ ะ แต่สิ่งที่เห็นในตาทิพย์นั้นก็คือมีเหล่าเทวดาท่านมาแตะไหล่เพื่อให้รับรู้ว่าปิติใจ อ.เจนได้เล่าต่อไป ว่าเสียงเหล่าเทวดาต่างก็แซ่ซ้องกันระงมว่า พวกมนุษย์เขาทำบุญใหญ่กันอย่างนี้ได้ด้วยหรือพวกเรา ไม่เคยรู้มาก่อนเลยเสียดายทำไมตอนที่เราเป็นมนุษย์จึงไม่รู้นะว่า สิ่งที่มนุษย์ทำนี้เป็นการสร้างบุญใหญ่ ในญาณวิถีของ อ.เจน ก็รู้ด้วยว่าเหล่าเทวดาท่านเสียดายกันมากค่ะ ทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างฐานพระพุทธรูป และใบระกา ไม่น่าเชื่อค่ะ คณะบุญเสบียงสวรรค์จะทำบุญสร้างฐานพระ ทำบุญใบระกา และต่อยอดทำบุญกันจนได้เงินปัจจัยมากถึง 421,369.- บาท ไม่น้อยเลยนะค่ะ แต่ในระหว่างที่ อ.เจน จะกล่าวคำถวายผ้าป่าฯ อยู่นั้น คุณรุ้ง ก็กระซิบบอกกับจี๊ดว่า พี่พี่ อ.เจน บอกว่า เหล่าเทวดาท่านมานั่งกันอยู่เต็มบริเวณด้านหน้าพานแว่นฟ้าค่ะ จี๊ดก็นั่งอยู่ข้างพานแว่นฟ้ารู้สึกตื่นเต้นมาก ก็หันไปกระซิบบอกต่อ ๆ กันไปค่ะ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีผู้ใดได้เห็นนอกจาก อ.เจน คนเดียวค่ะ แต่ก็ดีใจนะคะที่ได้รู้และรู้สึกดีใจที่พวกเราได้ทำบุญที่ยิ่งใหญ่มากจนทำให้สวรรค์สะเทือนเลื่อนลั่น แม้เหล่าเทวดายังต้องลงมาร่วมอนุโมทนาบุญค่ะ จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมด้วยช่วยกันให้บุญนั้นสำเร็จทันตาเห็นค่ะ เพราะการที่ทำบุญสำเร็จนี้ไม่ต้องรอเราได้ทำสำเร็จแล้วค่ะ วัดที่ 2 อ.เจน เข้ากราบสักการะหลวงปู่ที่ไม่เน่าไม่เปื่อยโดยชาวบ้านได้ให้ความเคารพนับถือ และท่านมรณภาพเมื่อมีอายุ 80 ปี โดย อ.เจน เป็นตัวแทนของคณะฯ นำพานพุ่มทอง พานพุ่มเงิน มาลัยดอกไม้ และผ้าไตรจีวร ที่จัดเตรียมไว้เป็นอย่างดีแล้ว อ.เจน บอกว่า รู้ได้ในจิตว่าทุกคนที่มา ในวันนั้นมีกรรมกับพระรัตนตรัย จึงได้นำพาทุกคนในที่นั้นไปกราบไหว้สักการะหลวงพ่อท่าน และถวายเครื่องบูชา พร้อมกราบขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัย เพื่อจะไม่ติดกรรมต่อพระรัตนตรัย และเพื่อให้ประสบแต่ความสุขความเจริญค่ะ มหัศจรรย์หลวงปู่ จี๊ดสงสัยถามค่ะ อาจารย์ค่ะหลวงปู่ท่านมาหรือเปล่าค่ะ อ.เจน บอกว่านึกแล้วว่าต้องถามท่านมาค่ะ แต่ท่านมาเป็นดวงแก้วท่านมารับผ้าไตรจีวรและ อนุโมทนาบุญกับคณะบุญของเราด้วยค่ะ วัดที่ 3 ที่วัดแห่งนี้ตั้งแต่แรก อ.เจน จะถวายสังฆทาน แต่เปลี่ยนเป็นการร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี บูรณะพระอุโบสถ์ เนื่องจาก อ.เจน ได้พบกับเจ้าอาวาสและรับทราบว่า ทางวัดกำลังบูรณะพระอุโบสถ จึงได้กราบเรียนร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีบูรณะพระอุโบสถ์ค่ะ ดังนั้น จึงได้รับบริจาคในทันทีที่วัดนั้นเลยค่ะ ได้ปัจจัยเป็นเงิน 43,629.- บาท ห่มผ้าพระพุทธรูป การห่มผ้าพระประธานซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ โดย อ.เจน เรียกท่านว่า หลวงพ่อโต ทั้งนี้ อ.เจน ได้สั่งให้ทำผ้าห่มพระที่มีรูปธรรมจักรที่ผ้าห่มพระนั้นด้วยค่ะ พระพุทธรูปยิ้มได้ ระหว่างที่ อ.เจน ได้ทำการห่มผ้าให้กับหลวงพ่อโตอยู่นั้น อ.เจน บอกว่าหลวงพ่อโตท่านยิ้มและอนุโมทนาบุญกับพวกเราด้วยค่ะ ซึ่งท่านยิ้มในการทำความดี ของคณะบุญของเรานะค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีและปิติใจมากค่ะ ทำบุญตามอัธยาศัย หลังจากนั้น อ.เจน ก็ให้ทุกคนพักผ่อนหย่อนใจก่อนขึ้นรถแต่มีหลายท่าน ก็ได้เดินทำบุญที่ทางวัดตั้งซุ้มบุญเอาไว้โดยทำบุญกันตามอัธยาศัยค่ะ จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมบริจาคปัจจัยกันมาจนทำให้เป็นบุญสำเร็จนะค่ะ จี๊ดจ๊าด |