ปิดรับบริจาคปัจจัยทำบุญทริปลี้ลับ 14 ตอน แดนพิภพ

เจนญาณทิพย์

ปิดรับบริจาคปัจจัยทำบุญทริปลี้ลับ 14 ตอน แดนพิภพ วันที่ 8-10 ก.ค. 65

สวัสดีค่ะ ดิฉันอาจารย์เจน  ญาณทิพย์ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมทำบุญกับคณะเสบียงสวรรค์ ทริปบุญลี้ลับ 14
ตอน แดนพิภพ วันที่  8-10 กรกฎาคม 2565  ซึ่งในครั้งนี้ดิฉันจะนำพาทุกท่านไปทำบุญในภาคอีสาน โดยดิฉันเห็นว่า ที่ภาคอีสานนี้มีพ่อแม่ครูบาอาจารย์และมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมายที่จะนำพาทุกท่านไปทำบุญทริปนี้ค่ะ รวมทั้งยังมีวัดที่อยู่ห่างไกลความเจริญในถิ่นทุรกันดารที่คณะเสบียงสวรรค์ของเราควรจะไปทำบุญยังสถานที่ต่าง ๆ ค่ะ เพราะอย่างน้อยคณะเสบียงสวรรค์แม้จะเป็นส่วนเล็ก ๆ แต่มีพลังบุญที่ยิ่งใหญ่และพวกเราทั้งหลายก็จะมีส่วนช่วยกันขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก และในครั้งนี้ดิฉันจะนำทุกท่านผู้ร่วมบุญได้ทำบุญด้วยกัน 8 สถานที่ ดังนี้ค่ะ



สถานที่ที่ 1
การเดินทางไปแสวงบุญในภาคอีสานครั้งนี้ ดิฉันได้มาพบกับวัดแห่งแรกนี้ซึ่งเป็นวัดป่าที่มีความเงียบสงบ และมีพระภิกษุสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบค่ะ ที่วัดนี้เป็นวัดป่าไม่ได้ปลูกสร้างวิหารทานใด ๆ พระสงฆ์ภายในวัดนี้จะมุ่งเน้นการปฏิบัติธรรมเพียงอย่างเดียวค่ะ เมื่อดิฉันได้มาพบกับวัดแห่งนี้ก็เกิดมีจิตและมีความศรัทธาที่จะนำพาทุกท่านมาทำบุญที่วัดนี้ โดยจะถวายภัตตาหารเช้า และในการนี้จะได้จัดเตรียมการไว้ว่า จะนำอาหารคาวและอาหารหวาน ผลไม้ และเครื่องดื่ม ที่เป็นชั้นเลิศนำมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อนำมาถวายแด่พระสงฆ์ จำนวนประมาณ 3-4 รูป  ซึ่งภัตตาหารเช้าที่กล่าวมานี้เป็นเงินของทุกท่านที่จะได้โอนมาร่วมทำบุญกันค่ะ โดยดิฉันจะได้จัดแบ่งเงินส่วนหนึ่งจากการโอนทำบุญนั้นนำมาซื้ออาหารชั้นเลิศถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ที่วัดนี้ ทั้งนี้ ท่านที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันในวันทำบุญนั้นต้องขอสงวนสิทธิ์ไม่ให้นำอาหารไปถวายนะคะ เนื่องจากการเดินทางร่วมกันแต่ละท่านก็จะมีสัมภาระมากมายอยู่แล้วอาจจะไม่สะดวกที่จะหาที่เก็บสิ่งของค่ะ


ณ วัดป่าแห่งนี้ ดิฉันจะนำพาทุกท่านถวายสังฆทานที่ดิฉันจะจัดซื้อเป็นข้าวของเครื่องใช้จำเป็นของพระสงฆ์โดยจะจัดหามาเป็นอย่างดีเป็นของเลิศ รวมทั้งถวายปัจจัยสำหรับทำนุบำรุงพระสงฆ์และศาสนาค่ะ

กิจกรรมบุญ
ถวายภัตตาหารเช้าและเครื่องสังฆทานและปัจจัยทะนุบำรุงวัดและทะบำรุงพระสงฆ์




สถานที่ที่ 2
วัดแห่งนี้จะเรียกได้เลยว่าเป็นวัดป่าจริง ๆ ค่ะ เพราะหลวงปู่ท่านแม้จะมีอายุมากแต่ท่านมีธาตุขันธ์ที่แข็งแรงมากค่ะ จากการที่ดิฉันได้พูดคุยกับท่านแล้วท่านมีความจำดีเป็นเลิศ และมีความเมตตามากค่ะ และท่านก็รู้ว่าดิฉันมาที่วัดนี้โดยมีจุดประสงค์สิ่งใด หลังจากที่ได้เดินสำรวจบริเวณโดยรอบของวัดแล้วก็ได้พบกับนกยูงป่า ที่มีฉายาว่าแม่ขาว ดิฉันก็บอกให้นกยูงแม่ขาวเดินนำพาไปยังเจดีย์ดอกบัว เพราะดิฉันได้เห็นมีป้ายเขียนไว้ว่า ร่วมสร้างเจดีย์ดอกบัว จึงอยากที่จะไปดูให้เห็นว่า ที่วัดนี้มีการสร้างเจดีย์ดอกบัวจริงหรือและมีการก่อสร้างไปแล้วเพียงใด ดิฉันก็เดินตามนกยูงป่าที่เดินนำหน้าไป เขาก็กลัว ๆ กล้า ๆ กับดิฉัน เมื่อเดินมาถึงเจดีย์ที่ปลูกสร้างก็มีแต่ฐานที่ดูแล้วเห็นว่า เจดีย์นี้ได้เริ่มมีการก่อสร้างไปแล้วประมาณ 20 เปอร์เซนต์ และรู้ได้ในญาณวิถีว่าในอนาคตภายหน้า ณ เจดีย์แห่งนี้จะมีความสำคัญในทางพระพุทธศาสนา เพราะเมื่อได้สร้างเสร็จแล้วจะได้ใช้เป็นสาธารณะกุศลที่มีประโยชน์มาก เพราะจะมีพระภิกษุสงฆ์ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ฆราวาสทั้งชายและหญิง มาสวดมนต์ ไหว้พระ และปฏิบัติธรรม ทุกคนที่มายังสถานที่แห่งนี้ก็จะมาทำความดีกันเยอะมากค่ะ


เจดีย์ดอกบัวนี้หลวงปู่ท่านเป็นคนออกแบบ ท่านมีวัตถุประสงค์ให้เป็นเจดีย์สีขาวและมีกลีบดอกบัวทั้งหมด เจดีย์มีความสูงสง่างดงามมากถ้าได้สร้างเสร็จแรียบร้อยแล้วนะคะ ความงามนั้นประหนึ่งเจดีย์นี้ตั้งอยู่ในวิมานในสรวงสวรรค์นี่เองค่ะ


ดิฉันมีความศรัทธาที่จะให้คณะเสบียงสวรรค์ร่วมสร้างเจดีย์ดอกบัวแห่งนี้ เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจในพระพุทธศาสนาและเพื่อเป็นพุทธบูชาในพระศาสนาด้วยค่ะ นอกจากนี้หลวงปู่ท่านเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านเป็นที่รักเคารพของชาวบ้านเป็นอย่างมาก  หลวงปู่ท่านไม่คิดที่จะสร้างอะไรแล้วก็จะมีเพียงเจดีย์ที่สำคัญที่ท่านตั้งใจสร้างด้วยมีสาเหตุว่า ท่านได้รับพระอรหันต์ธาตุของหลวงตามหาบัวมาจากวัดแห่งหนึ่ง โดยได้รับมาจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์รูปหนึ่ง หลวงปู่ท่านจึงดำริสร้างเจดีย์ดอกบัวเพื่อถวายแด่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ และเพื่อเป็นพุทธบูชาในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเป็นการสร้างบุญใหญ่ค่ะ


ด้วยบุญใหญ่นี้ทำให้เทวดามากมายดลจิตดลใจให้ดิฉันมาพบกับวัดแห่งนี้ค่ะ และในวันที่เดินทางมาทำบุญที่วัดนี้ ดิฉันจะได้นำทุกท่านเดินประทักษิณเพื่อเป็นปฐมฤกษ์ค่ะ

กิจกรรมบุญ
ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างเจดีย์ดอกบัวและถวายเครื่องสังฆทาน




สถานที่ที่ 3
ดิฉันได้เดินทางมาที่วัดนี้ก็เย็นมากแล้ว คนขับก็เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวันทั้งคืนร่างกายต้องพักผ่อน แต่การทำบุญของดิฉันหยุดพักผ่อนไม่ได้ยังพอมีเวลาที่จะหาวัดทำบุญได้อีกค่ะ จึงได้ขอจักรยานโรงแรมเพื่อขี่ไปเองไปตามเส้นทางถนนและได้พบกับวัดแห่งนี้เมื่อแวะเข้าไปภายในวัดได้เห็นว่า ภายในวัดสวยงามมากมีพระพุทธรูปเก่าแก่โบราณมากค่ะ ที่วัดนี้ไม่มีชื่อเสียงอะไร แต่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์มากค่ะ ซึ่งไม่ใครจะรู้ได้แต่ดิฉันรับรู้ได้ค่ะ ดังนั้น ดิฉันจึงเห็นสมควรนำพาทุกท่านมากราบไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้เพื่อขอพร เพราะพระพุทธรูปท่านศักดิ์สิทธิ์จริงค่ะ แม้จะเป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในวิหารหลังเล็ก ๆ แต่ไม่มีใครรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์และความเก่าโบราณ ซึ่งจากญาณวิถีที่ดิฉันรู้ได้คือแต่เดิมวัดนี้เป็นวัดร้างครั้งโบราณและได้สร้างบูรณะขึ้นมาใหม่ค่ะ ดังนั้น ที่วัดนี้มีความเก่าแก่ในเรื่องของสถานที่และความศักดิ์สิทธิ์ที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้และดิฉันก็จะนำพาทุกท่านมาที่วัดนี้ค่ะ

กิจกรรมบุญ
นำไหว้พระสวดมนต์



สถานที่ที่ 4
ที่วัดนี้นับได้ว่า เป็นวัดหลวงที่มีความเก่าแก่และโบราณมากด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งหากได้เดินทางมาภาคอีสานแล้วไม่ได้แวะไหว้พระที่วัดนี้ก็ถือว่าท่านมาไม่ถึงดินแดนถิ่นอีสานเลยค่ะ ผู้คนส่วนมากมักจะไปไหว้พระที่วัดที่มีชื่อเสียงที่คิดว่าคนรู้จักมากต้องไปกันให้ได้ แต่หารู้ไม่ว่า ที่วัดนี้มีพระธาตุที่มีความสำคัญยิ่งนัก ดิฉันได้รู้ได้ในญาณวิถีภายในพระธาตุบรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุ โดยดิฉันจะนำพาทุกท่านให้ได้มีส่วนในบุญ คือจะนำผ้าห่มพระธาตุเพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา โดยทุกท่านสามารถร่วมบุญผ้าห่มพระธาตุได้ค่ะ


สำหรับผ้าห่มพระธาตุนี้ดิฉันได้วัดโดยรอบพระธาตุแล้วมีความยาวโดยรอบประมาณ 25 เมตร ทั้งนี้ ดิฉันจะนำผ้ามาเย็บขอบเก็บมุมให้เรียบร้อยเพื่อนำมาห่มพระธาตุแห่งนี้ค่ะ


กิจกรรมบุญ
นำทุกท่านสวดมนต์และถวายผ้าห่มพระธาตุ





สถานที่ที่ 5
ตั้งแต่ครั้งสมัยโบราณตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ในสมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จนถึงปัจจุบันที่วัดนี้มีความสำคัญมาก และได้มีพระพุทธรูปหลายองค์ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารหลังเล็ก ๆ ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งพระพุทธรูปดังกล่าวมีความศักดิ์สิทธิ์มากค่ะ ดังนั้น ทุกท่านจะได้กราบพระพุทธรูปดังกล่าว และดิฉันจะนำทุกท่านถวายสังฆทานเพื่อสะสมเสบียงบุญด้วยกันค่ะ


กิจกรรมบุญ
ถวายเครื่องสังฆทาน



สถานที่ที่ 6
ดิฉันจะนำพาทุกท่านไปไหว้พญานาคองค์ใหญ่ ด้วยการนำพวงมาลัยไปถวายและนำอธิษฐานแบ่งบุญให้กับพญานาคที่คณะได้ไปทำบุญมาค่ะ และชมบรรยากาศในยามค่ำคืนที่สวยงาม

กิจกรรมบุญ
นำสักการะพญานาคเพื่ออุทิศบุญถวายและถวายพวงมาลัย



สถานที่ที่ 7
ที่วัดแห่งนี้เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเขตชนบทซึ่งเป็นเขตแดนที่เป็นดินแดนแห่งพระอริยสงฆ์ที่มีความเป็นธรรมชาติอยู่มากค่ะ เมื่อดิฉันเดินทางไปถึงวัดนี้ได้เข้าไปในศาลาไม้หลังเก่าที่มีรูปปั้นอดีตเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปแล้วมีอายุ 100 กว่าปีค่ะ โดยท่านตั้งใจจะสร้างพระธาตุสำคัญนี้ให้เสร็จ และเมื่อสร้างเสร็จแล้วท่านก็มรณภาพยังคงมีเพียงรูปปั้นของหลวงปู่ท่านอยู่ภายในศาลานี้ ดิฉันได้เข้าไปกราบท่านแล้วได้พูดในจิตกับท่านว่า ดิฉันไม่รู้ว่าที่วัดนี้เป็นอย่างไรและเกิดอะไรขึ้นที่วัดนี้เพราะว่าดิฉันมีความรู้สึกหดหู่หัวใจมากที่ได้เข้ามาภายในวัดนี้ หากมีอะไรที่จะบอกกล่าวก็ขอให้มีพระที่วัดนี้มาเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับวัดแห่งนี้ให้ได้รู้ด้วยเถิด ก่อนที่จะกราบลากลับดิฉันได้กราบขอพร โดยขอให้หมดเคราะห์กรรมหากมีเคราะห์ก็ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัย เพราะดิฉันรู้ดีว่ากำลังมีเคราะห์ก่อนที่จะเดินทางออกจากบ้านรู้ได้ว่าวันนี้จะมีเคราะห์แต่ดูตัวเองไม่ได้ค่ะว่ามีอะไรจึงได้ขอให้หลวงพ่อคุ้มครองค่ะ


เมื่อขอพรกับหลวงปู่แล้วก็ได้ออกมาจากศาลา และได้เห็นกุฎิเรือนไม้ใต้ถุนสูงเหมือนกำลังดำเนินการสร้างยังไม่เสร็จ เมื่อเดินไปที่กฎิไม้หลังนี้จึงได้พบกับเจ้าอาวาสและได้สอบถามจึงได้รู้ว่า ที่กุฎินี้เป็นกุฎิของหลวงปู่หลังเก่าได้ย้ายและดีดให้สูงนำมาไว้ที่มุมนี้โดยที่พื้นถมดินแล้วยังไม่ได้เทพื้นปูน ซึ่งศาลานี้ใช้เป็นที่รองรับคนที่จะมาทำบุญค่ะ หลังจากนั้นหลวงพ่อท่านก็ได้เล่าถึงความเป็นมาของหลวงปู่ตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่จนกระทั่งมรณภาพไป และตั้งแต่หลวงปู่ท่านมรณภาพไปแล้วก็ไม่มีผู้คนเข้าวัดทำบุญอีกเลย จะมีมาก็น้อยมาก เพราะสมัยที่หลวงปู่ท่านมีชีวิตอยู่มีผู้คนมาหาท่านมากมาย ทางเจ้าอาวาสท่านก็อึดอัดใจที่ว่า มีพวกที่ไม่มีศีลมีธรรมเข้ามาขนสิ่งของของวัดออกไปแทบจะไม่เหลืออะไรให้กับวัด ซึ่งดิฉันจึงเข้าใจและรับรู้ในทันที่ว่าเป็นเพราะเหตุใดที่ดิฉันเมื่อเข้าวัดมานี้แล้วก็รู้สึกอัดใจมากเพราะเป็นเช่นนี้เองค่ะ และหลวงพ่อท่านเล่าว่า ปัจจุบันนี้ได้ปรับเปลี่ยนใหม่แล้วทางวัดก็อยู่กันอย่างเรียบง่ายและการสร้างบูรณะกุฎิให้กับหลวงปู่หลังนี้หลวงพ่อท่านก็ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป หากมีเงินทำบุญก็ค่อยสร้างไปค่ะ


ดิฉันได้รับฟังจากหลวงพ่อท่านแล้วก็รู้สึกว่าท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีความอดทนอดกลั้นสูง และยังคงยึดมั่นที่จะสืบสานพระพุทธศาสนาต่อไปไม่ท้อถอย โดยเกิดมีศรัทธาที่ได้เห็นถึงความตั้งใจบูรณะกุฎิสงฆ์หลังเก่าของหลวงปู่ ดังนั้น ที่วัดนี้ดิฉันจะนำทุกท่านทอดผ้าป่าร่วมสร้างกุฎิสงฆ์ให้เสร็จเรียบร้อยค่ะ


ดิฉันได้นิมนต์พระ 9 รูป ถวายภัตตาหารเพล โดยตั้งโต๊ะจีนถวายภัตตาหาร ทั้งนี้ ดิฉันสั่งโต๊ะจีนมาให้ทุกท่านผู้ร่วมบุญได้รับประทาน เนื่องจากเป็นถิ่นทุรกันดาร ยากที่จะหาข้าวปลาอาหารรับประทานได้สะดวกค่ะ


การเทปูนยังสถานที่ห่างไกลภาคอีสานนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ทุกท่านจะได้เทปูนพื้นใต้ถุนกุฎิด้วยปูนซีแพค 5 คิว เพื่อเป็นปฐมฤกษ์ให้กับทางวัดได้ดำเนินการต่อไปค่ะ


ดังนั้น ที่วัดแห่งนี้ ดิฉันจะนำทุกท่านทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างกุฎิสงฆ์ และร่วมกันเทปูนซีแพค 5 คิว จึงขอเชิญชวนทุกท่านผู้ร่วมบุญด้วยกันนะคะ


กิจกรรมบุญ
ทอดผ้าป่าร่วมสร้างกุฎิสงฆ์ถวายปัจจัยและเครื่องสังฆทาน




สถานที่ที่ 8
สถานที่แห่งนี้เป็นพระธาตุที่สำคัญมากในอำเภอ และที่ด้านในพระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ โดยดิฉันจะนำทุกท่านกราบพระธาตุองค์นี้ก่อนกลับกรุงเทพมหานคร เพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ และพูดได้เลยค่ะว่าพระธาตุแห่งนี้มีความศํกดิ์สิทธิ์มากโดยมีความเกี่ยวพันกับพญานาคอีกด้วยค่ะ




สรุป บุญกุศลที่ทุกท่านจะได้ร่วมทำบุญนี้
- ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างเจดีย์ดอกบัว
- ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างกุฎิสงฆ์
- ถวายภัตตาหารเช้าและถวายสังฆทานตามสถานที่ต่าง ๆ
- ร่วมเทปูนพื้นกุฎิสงฆ์เป็นปฐมเลิศจำนวน 5 คิว และถวายอุปกรณ์สำหรับงานปูนต่างๆ

การขอรับบริจาคดังนี้ค่ะ
- กองทุนละ 2,500.- บาท
- ตามกำลังศรัทธา

ดิฉันขอเชิญทุกท่านร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อร่วมบุญกุศลกับคณะเสบียงสวรรค์ ทริปบุญลี้ลับ ครั้งที่ 14 วันที่  8-10 กรกฎาคม 2565  และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ ขอด้วยอานิสงส์บุญที่ทุกท่านจะได้ร่วมบุญกันมานี้จงมีแต่ความสุขความเจริญ ไม่ว่าจะคิดหวังสิ่งประการใดขอให้ได้สมดังปรารถนาทุกประการค่ะ

อาจารย์เจน ญาณทิพย์

จี๊ดจ๊าด

จี๊ดจ๊าดขอเป็นตัวแทนอาจารย์เจน  ญาณทิพย์ เพื่อมาบอกบุญเชิญชวนทุกท่านให้มาทำบุญร่วมกับคณะเสบียงสวรรค์ ทริปบุญลี้ลับ ครั้งที่ 14 วันที่  8-10 กรกฎาคม 2565 ที่อาจารย์ใช้ชื่อในตอนนี้ว่า "แดนพิภพ " ใช่ค่ะ อเมซิ่งจริง ๆ ขอบอกว่าสุดยอดพิเศษ ถ้าทุกท่านได้ร่วมบุญกุศลในครั้งนี้ เนื่องจากการเดินทางไปกับอาจารย์เจนไม่ธรรมดาเพราะมีเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านดูแลและนำทางค่ะ จี๊ดก็ตื่นเต้นทุกครั้งที่ติดตามไปก็เพื่อนำเกร็ดเล็กผสมน้อยนอกรอบนอกรอยมาเล่าให้ทุกท่านได้รับรู้กับเขาบ้างก็เท่านั้นนะคะ อาจารย์ไม่ได้จัดทัวร์บุญแบบดูในกูเกิ้ลแล้วโทรศัพท์ติดต่อนะคะ แบบนั้นไม่ทำค่ะ เนื่องจากอาจารย์ต้องใช้ญาณวิถีญาณทิพย์ของอาจารย์ดูด้วยค่ะว่าสถานที่นั้น ๆ ควรจะนำพาผู้คนไปทำบุญหรือไม่ และเมื่อทำบุญนั้นแล้วจะได้รับอานิสงส์บุญมั้ยมันเป็นอย่างนี้ค่ะ
การเดินทางไปดูด้วยตนเองนั้นดีที่สุด โดยอาจารย์เจนพยายามเป็นอย่างยิ่งและตั้งใจมาก โดยมีการกำหนดวันเวลาเดินทางเซอร์เวย์และให้พี่รุ้งจัดการคิวงานของตนเอง จนบางครั้งแทบไม่มีเวลาหรือช่องว่างการพักงาน ที่มีทั้งงานบุญและงานส่วนตัว แต่อาจารย์ไม่สนใจค่ะ อาจารย์พูดเสมอว่า หนูก็ไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ หนูอายุสั้นนะพี่ เพราะคนเรานั้นได้ทำกรรมมาด้วยกันทั้งนั้น เสียงเตือนนี้จี๊ดก็ระลึกถึงเสมอและเก็บจดจำไว้ว่า เราจงอย่าประมาทแม้แต่อาจารย์ยังไม่ประมาทเลยนะคะ

วัตถุประสงค์งานบุญที่อาจารย์ไปหาวัดทำบุญก็ต้องเป็นวัดที่ขาดแคลนปัจจัยที่จะทำนุบำรุงวัด และบุญอื่น ๆ โดยวัดนั้นต้องมีพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบค่ะ เพื่อทุกท่านผู้ร่วมบุญจะได้รับผลประโยชน์ในบุญกุศลอย่างเต็มที่อย่างเต็มกำลังบุญค่ะ
คณะเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครจนถึงอีสานบ้านทุ่งนั้นก็ปาเข้าไปเช้าพอดี้พอดีค่ะ ซึ่งตลอดเส้นทางการเดินทาง คณะเราก็ได้แวะเข้าห้องน้ำกันเป็นระยะ ๆ พักบ้างอะไรบ้าง
อาจารย์ได้แสวงหาวัดทำบุญรวม 8 สถานที่ ดังนี้นะคะ


สถานที่ที่ 1
เดินทางมาวัดแรกนี้เพราะตั้งใจถวายภัตตาหารให้กับพระสงฆ์ และเมื่อมาถึงวัดได้พบกับชาวบ้านเค้าบอกเร็ว ๆ นะคะ เพราะเดี๋ยวจะถวายภัตตาหารพระแล้ว แค่นั้นแหละค่ะ ทุกคนก็ช่วยกัน ขนกล่อง ถาดอาหาร มีด เขียง ถ้วย ชาม ช้อน เอาออกมา อย่างรีบด่วน อาจารย์ไปปอกผลไม้ จี๊ดปอกมะม่วงสุก พี่รุ้งจัดของใส่ถาด  อลม่านกันเชียวค่ะ  เชื่อมั้ยคะ อาหารจานด่วนทำกันมือระวิงเชียวค่ะ ทำเวลากันค่ะ แม้จะรีบยังไงแต่ผลงานออกมาปราณีตสวยงาม และต้องซีลพลาสติกให้งดงามด้วยค่ะ ฮืม เสร็จแล้วทุกคนถือถาดวิ่ง ๆ ค่ะ วิ่ง เพราะโรงครัวกับศาลาห่างไกลกันมาก พอมาถึงศาลาพระสงฆ์ท่านนั่งรออยู่เหลือแต่คณะเรา คือรู้มั้ยเหนื่อยแต่มีความสุขที่ทำสำเร็จ ทันเวลา...ทุกคนหอบแฮก ๆ  ทำให้หัวใจเต้นรัว ตึ๊บ ๆ ๆ ๆ ค่ะ
เมื่อมาถึงศาลาพระสงฆ์ท่านก็เมตตา ท่านยิ้มท่านรอ เพราะชาวบ้านไปรายงานว่ามีคนกรุงเทพ ฯ จะถวายภัตตาหาร พวกเราไปถึงแบบทุกสายตามองมาแบบมีรอยยิ้มที่อบอุ่นค่ะ ซึ่งวันนี้พวกชาวบ้านเขาก็มาทำบุญถวายภัตตาหารเช้าด้วยเหมือนกัน เป็นอาหารพื้นบ้านชาวอีสานค่ะ ซึ่งอาจารย์ก็ได้นำอาหารคาวหวานที่ดีเลิศพิเศษซื้อมาจากกรุงเทพ ฯ เพื่อถวายภัตตาหารเช้าด้วยเช่นกัน ปลาสลิดทอดกรอบ หมูทอด น้ำพริกต่าง ๆ ข้าวเหนียวมะม่วง แคนตาลูป องุ่น สาลี่ พร้อมนี้ได้ถวายสังฆทานยา จัดใส่ตะกร้าสวยงามค่ะ แม้จะมาเซอร์เวย์หาวัดทำบุญอาจารย์ก็ยังทำบุญส่วนตัวเลยเห็นมั้ยทุกคนคะ
พวกชาวบ้านที่นี่น่ารักเค้าซื่อ ๆ ทุกคนค่ะ ทุกคนมาทำบุญแบบเงียบ สุภาพเรียบร้อยและให้เกียรติคณะอาจารย์เจนมากโดยไม่รู้ว่าเราเป็นใครรู้แต่ว่าเป็นคนมาจากกรุงเทพ ฯ พวกเค้าบอกเราเป็นแขกมาทำบุญที่วัด สายตาของทุกคนต่างก็มองตามเราว่าเราจะเอาอะไรจะทำอะไรเค้าก็จะพุ่งตัวมาช่วยเหลือค่ะ
หลวงพ่อท่านก็มีเมตตาซักถามว่ามาจากไหนกัน โดยอาจารย์ได้พูดคุยกับหลวงพ่อท่านแล้วรับทราบว่าที่วัดนี้ไม่ได้สร้างวัตถุทานอะไร ดังนั้น อาจารย์จึงจะนำทุกท่านมาทำบุญถวายภัตตาหารเช้า และถวายสังฆทานของใช้จำเป็นพระสงฆ์ค่ะ
ที่วัดแห่งแรกนี้จี๊ดก็ชอบใจ ดีใจมากแล้วค่ะ เพราะที่วัดนี้ช่างเงียบสงบเสียจริงค่ะ ที่ลานกว้างลักษณะโล่งพื้นหินมีความราบเรียบเป็นหินที่ดูแปลก ๆ อาจารย์พูดกับจี๊ดเบา ๆ ว่า หินแปลกมั้ยล่ะ จี๊ดก็พยักหน้าตามและตอบไป ใช่ค่ะ หินดูแปลกมาก แล้วอาจารย์ก็พูดด้วยญาณวิถีว่า ที่นี่เป็นลานพญานาคเก่ามาในอดีตค่ะพี่ ซึ่งตอนนั้นก็มีผู้หญิงอีกคนมาทำบุญที่วัดเดินตามมาด้วย ซึ่งเห็นว่าจี๊ดมองลานหินอย่างสนใจ จึงพูดแบบรู้ดีว่า หินสวยนะ เค้าเรียกหินภูเขาไฟ อืม เราก็ยิ้มกับเค้านิดนึงค่ะ
อาจารย์เล่าให้ฟังว่า ตอนที่พระสงฆ์ท่านให้พรกรวดน้ำนั้นมีเทวดาจากสวรรค์ชั้นหนึ่ง ท่านก็มารับพรรับบุญกุศลด้วยค่ะ ซึ่งอาจารย์เห็นในญาณวิถีว่า เทวดาดังกล่าวนี้ก่อนที่จะมาเป็นเทวดาแต่เดิมเคยเป็นชาวบ้านที่ทำมาหากินด้วยการฆ่าสัตว์ แต่ชาวบ้านไม่ได้ทำบาปกรรมอะไรที่ฆ่าสัตว์เพราะต้องหาเลี้ยงปากท้องเท่านั้นค่ะ
เรื่องเล่าขำ ๆ  มีหมาชื่อ "ลังเล" ชาวบ้านเล่าว่า เจ้าลังเลสงสัยนี้ชอบกินช๊อกโกแล็ต กับข้าวเหนียวตัดมาก ๆ ค่ะ และเจ้าลังเลนี้ ตัวอ้วนยังกับหมูดำตัวใหญ่เบ้อเร่อค่ะ
ที่วัดแห่งแรกนี้จี๊ดขอบอกบุญเชิญทุกท่านร่วมทำบุญถวายภัตตาหารเช้า และถวายสังฆทานค่ะ


สถานที่ที่ 2
คณะเซอร์เวย์เดินทางต่อไปยังวัดที่ 2 ซึ่งก็เป็นวัดป่าเหมือนกันค่ะ พวกเราได้พบกับหลวงปู่ ท่านมีอายุมากแต่แข็งแรงมากด้วยค่ะ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านพูดยิ้ม ๆ และเล่าว่า อาตมาเพิ่งจะเปิดวัดได้ 3 วัน เพราะโควิดปิดวัดมานาน ที่โยมมานี้ถูกเวลาเลย ที่วัดนี้มีความเป็นธรรมชาติมากและมีต้นไม้หายากที่จี๊ดมองแล้วเพลิดเพลินมากกับธรรมชาติในวัดซึ่งเหมือนกับว่าตัวเรานั้นกำลังเดินอยู่ในสวนรุกชาติช่างร่มเย็นเสียเหลือเกินค่ะ นอกจากนี้ก็มีสัตว์ อาทิเช่น นกยูงที่เห็นมาเดินโชว์ตัวอยู่นี้ 2  ตัว มีไก่ต๊อก มีตะพาบ มีกวาง และหมูป่า หลวงพ่อท่านเล่าว่า คนเค้าเอานกยูงมาปล่อยตอนแรกนะ 2 ตัว และตอนนี้นะมันออกลูกหลานมามากกว่า 30 ตัว ท่านก็ให้พวกเค้าอยู่กับธรรมชาติ ท่านว่างั้นค่ะ
ตามที่อาจารย์เล่าวัตถุประสงค์ที่หลวงพ่อท่านได้สร้างเจดีย์ดอกบัวแล้วจี๊ดพูดได้เลยค่ะว่า ถ้าสร้างเสร็จจะงดงามมาก ซึ่งโบสถ์ที่วัดนี้ก็งดงามมาก และที่วัดนี้พระท่านช่วยกันสร้างช่วยกันทำงานค่ะ
เรื่องเล่าขำ ๆ ตอนที่อาจารย์พบเจอนกยูงที่อาจารย์ได้เห็นในญาณวิถีว่าเจ้านกยูงตัวนี้ เคยเป็นแม่ขาวทำผิดมาค่ะ ทีนี้นกยูงก็ระแวงที่เราพวกเดินตามนกยูงและตัวเราเองก็ระแวงนกยูงแต่เราก็เดินกันไปจนถึงเจดีย์ดอกบัวค่ะ จี๊ดก็แหย่อาจารย์ว่า เหมือนโม้เม้นท์พระลอตามไก่เลยค่ะ
เมื่อไปถึงเจดีย์ได้เห็นว่าทางวัดเริ่มดำเนินการแล้ว ดังนั้น คณะเสบียงสวรรค์ของเราก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยกันขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาที่อาจารย์ได้เห็นในอนาคตจะเป็นสถานที่ที่ผู้คนต่างก็มาถือศีลทำบุญปฏิบัติธรรมค่ะ จี๊ดจึงขอเชิญทุกท่านร่วมบุญด้วยกันนะคะ


สถานที่ที่ 3
เดินทางมาถึงที่พักเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง จึงขอนอนพักกันก่อนสักแปปนึง และเพื่อให้คนขับรถที่อึดมากขับรถควงเกือบ 24 ชั่วโมง สงสารกันค่ะ ให้เค้าไปนอนพักก่อนค่ะ เดี๋ยวมืดค่ำค่อยไปรับประทานอาหารเย็นกัน แต่พออาบน้ำเสร็จแล้วเท่านั้นมีพลังเกิดขึ้นมาอีก อาจารย์จึงกระซิบบอกให้จี๊ดไปขี่จักรยานสำรวจเส้นทางกันในเมื่อคนขับรถต้องพักเราไม่พักแต่เราได้ไปต่อกันค่ะ ตามนั้นค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะขี่จักรยานกันคนละคัน แต่ยางล้อรถก็ดันมาแบนซะนี่ ขี่ไม่ได้ ดังนั้น จี๊ดจึงจำเป็นต้องซ้อนท้ายให้อาจารย์ขี่ไป ซึ่งตลอดเส้นทางนี้เป็นสถานที่พักผ่อนที่ดีมากค่ะ ถนนโล่งและมีริมแม่น้ำตลอดเส้นทาง อากาศก็ดีแดดร่มลมเย็นสบายมาก ๆ ค่ะ
ขำ ๆ ตอนที่นั่งท้ายรถจักรยาน คนที่ขับรถสวนกันไปมาทุกคนต่างก็มองมาที่อาจารย์ว่าผู้หญิงคนนี้สวยนะและแข็งแรงมากส่วนจี๊ดก็นั่งยิ้มหน้าระรื่นอยู่ข้างหลัง แล้วอาจารย์ก็หันมายิ้มให้แล้วพูดว่า ไว้ใจหนูนะ ไม่ต้องกลัวตกไปล่ะหนูแข็งแรงมาก จี๊ดก็ไม่พูดยิ้มอย่างเดียวพอถึงที่พักจึงพูดกับอาจารย์ว่า อาจารย์ค่ะจี๊ดเจ็บก้นมากจริง ๆ นะ ที่นั่งมันเป็นตะแกรงเหล็ก จึงทำให้อาจารย์ตกใจมาก แล้วถามว่า อ้าวพี่แล้วทำไมไม่บอกเห็นหน้าตายิ้มแย้มมาก จี๊ดบอกต้องยิ้มสิค่ ะอาจารย์ ก็คนเค้ามองอาจารย์เก่งอ่ะค่ะ
การขี่จักรยานไปกันครั้งนั้นไม่ได้เสียเปล่าเพราะอาจารย์ได้แวะเข้าวัดนั้นออกวัดนี้เพื่อสำรวจดูว่า วัดใดที่อาจารย์จะนำพาผู้คนไปทำบุญกันค่ะ ขี่จักรยานกันไปและกินโอเลี้ยง กาแฟกันไป เหนื่อยก็พักกินค่ะ
เราขี่จักรยานมาจนถึงวัดแห่งนี้ตอนนั้นก็เริ่มเย็นมากแล้ว อาจารย์บอกว่า หากที่เห็นในญาณวิถีนะ วัดนี้มีความโบราณมีความเก่ามาก แต่ถ้าดูด้วยตาเนื้อ และจี๊ดก็เห็นเป็นอย่างนั้นคือภายในวัดนี้แลดูสวยงามตระการตางดงามมากค่ะ อีกทั้งยังเคยเป็นวัดร้างมาก่อนด้วยแล้วหลอนดีนะ ถ้าไม่ได้บำรุงพัฒนาวัดคนก็ไม่อยากเข้าวัดค่ะ
อาจารย์พูดว่า ที่วัดนี้มีพระพุทธรูปเก่าแก่โบราณและศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ ค่ะ ซึ่งก็ดีอย่างนะที่ว่าอาจารย์เป็นผู้มีญาณถ้าเป็นคนเรา ๆ ก็ไม่รู้อะไรกับเค้าหรอกแต่พอรู้ก็ตื่นเต้นนะคะ
พวกเราจะได้กราบไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอพรให้มีความเป็นสิริมงคลด้วยกันค่ะ

สถานที่ที่ 4
ขี่จักรยานลัดเลาะกันต่อไปจนได้มาพบกับวัดที่เป็นวัดหลวงที่มีความเก่าและโบราณ ถึงจะเหมือนกับวัดที่ผ่านมาแต่ก็เป็นวัดของหลวงที่มีพระธาตุที่บรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุ ซึ่งอาจารย์ให้มีการทำบุญห่มผ้าพระธาตุ เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา ตามที่อาจารย์ได้พูดเอาไว้ และขอบอกว่า มีความยาวของผ้าที่อาจารย์วัดรอบแล้วประมาณ 25 เมตร ซึ่งอาจารย์สั่งให้เย็บขอบชายผ้าห่มพระธาตุให้งามค่ะ ดีใจกันมั้ยคะ ที่ทุกท่านจะได้ทำบุญห่มผ้าพระธาตุ จี๊ดก็ขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้บริจาคทุกท่านด้วยค่ะ


สถานที่ที่ 5
ตามที่อาจารย์ได้เล่าให้ฟังไปแล้วนั้น จี๊ดขอบอกเลยค่ะว่าการได้กราบไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์นั้นถือเป็นการทำบุญที่ดีที่ควรยกย่องที่คนไทยต้องทำบุญด้วยหัวใจค่ะ


สถานที่ที่ 6
สถานที่ที่อาจารย์จะพาทุกท่านไปไหว้พญานาคองค์ใหญ่ จี๊ดขอพูดได้เลยค่ะว่า พญานาคองค์ใหญ่ที่จะไปไหว้นั้น ช่างหน้าเกรงขามมาก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำในยามค่ำคืนที่เงียบสงบและมีลมพัดเย็นสบาย วันที่จี๊ดไปกับอาจารย์นั้นไม่อยากจะกลับที่พักโดยอาจารย์เจนจะนำพวงมาลัยไปถวายพญานาคค่ะ  โดยอาจารย์บอกว่า พญานาคนั้นมีอยู่จริงมีคนมากมายอยากเป็นพญานาค แต่พญานาคอยากเกิดเป็นมนุษย์เพราะมนุษย์สามารถทำบุญอะไรก็ได้ แม้กระทั่งการบวชพระในบวรพระพุทธศาสนาค่ะ


สถานที่ที่ 7
วันรุ่งขึ้นอาจารย์ก็เดินทางต่อไป และได้มาพบกับวัดที่อยู่ห่างไกลความเจริญ เมื่อเข้ามาที่วัดนี้แล้วก็ไม่เห็นมีสิ่งปลูกสร้างอะไรมากนะคะ และตามที่อาจารย์ได้เล่าให้ฟังไปแล้วว่าก็ได้ไปกราบอดีตเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปแล้ว และเมื่ออาจารย์สื่อจิตพูดกับหลวงปู่อดีตเจ้าอาวาสและท่านก็มาด้วยค่ะ ซึ่งท่านมากวักมือเรียกอาจารย์ที่เป็นมือที่ใช้เรียกใครต่อใครเมื่อครั้งที่ท่านมีชีวิตอยู่ค่ะ ตื่นเต้นมั้ยคะที่อาจารย์รู้ได้ทุกอย่างค่ะ
การที่อาจารย์ได้รับรู้เรื่องที่วัดมีปัญหาที่เกิดมาจากคนที่ไม่กลัวบาปกรรมและมาขนข้าวของที่เป็นของสงฆ์เอากลับไปเป็นของตนบาปมากค่ะ  และยังได้รู้ว่า หลวงพ่อท่านนำเงินปัจจัยที่ได้มาจากงานสวดศพมาเป็นค่าซื้อปูนทรายเพื่อถมถนน ทางเดินเข้าวัดเพราะทางวัดไม่มีเงินอะไรมากนัก เนื่องจากวัดอยู่ไกลจากผู้คนนานครั้งถึงจะมีผู้คนเข้ามาทำบุญค่ะ
เมื่ออาจารย์เห็นว่า หลวงพ่อตั้งใจที่จะดำเนินการซ่อมและสร้างกุฏิหลวงปู่ให้สำเร็จแบบค่อยเป็นค่อยไปคือมีเงินก็สร้างไม่มีเงินก็พักไว้ ค่ะ   น่ายินดีและดีใจมาก ๆ ค่ะ เพราะพวกเราทุกท่านจะได้ทำบุญด้วยการเทปูนให้กับวัดที่เป็นครั้งแรกที่เดินทางมาไกลมากและได้เทปูนยังดินแดนอีสานนี้ค่ะ
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในเรื่องการจัดการเทปูนที่ต้องใช้อุปกรณ์การเทปูน อาทิเช่น เปลปูน กระป๋องปูน จอบ พลั่ว เป็นต้น
และจะต้องมีเรื่องอาหารการกินที่ต้องเตรียมไว้ให้กับทุกคนที่เดินทางไปทำบุญด้วยกันในวันนั้นด้วยค่ะ และอาจารย์ได้จ้างโต๊ะจีนมาเลี้ยงรับรองผู้ร่วมบุญค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่คณะเสบียงสวรรค์เดินทางไกลทำบุญและเลี้ยงด้วยโต๊ะจีนเยี่ยมยอดจริง ๆ ค่ะ

การเกิดอุบัติเหตุ เท้าแพลงที่อาจารย์กำลังประสบอยู่นี้ เป็นเรื่องของกรรมที่ไม่มีละเว้นแม้แต่ผู้มีญาณผู้ที่ทำบุญมาโดยตลอดกฎแห่งกรรมยุติธรรมที่สุดไม่มีละเว้นค่ะ เรื่องนี้อาจารย์ทราบดีและยินดียอมชดใช้กรรมนั้นค่ะ ถามว่ารู้หรือไม่ที่จะมีเคราะห์ค่ะ อาจารย์รู้ล่วงหน้าแล้ว เพราะได้มีลางบอกเหตุหลายครั้งที่บ้านค่ะ โดยอาจารย์ก็คอยระวังมาตลอดทั้งวันค่ะ

ตอนที่ประสบอุบัติเหตุ เป็นตอนที่อาจารย์เป็นห่วงเรื่องการสั่งของอุปกรณ์การเทปูนต่าง ๆ การสั่งปูนซีแพค การหาโต๊ะจีน ตอนนั้นรถตู้จอดที่หน้าร้านวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้าง ที่มาที่นี่ก็เพราะต้องการสั่งของไปไว้ที่วัดเลยเพื่อความสะดวกเพราะเกรงว่าจะไม่พร้อมไม่เรียบร้อยค่ะ ซึ่งเป็นช่วงที่อาจารย์ถือมือถืออยู่ในมือ 2 เครื่อง ซ้ายขวาเพื่อสั่งงานในเวลาเดียวกันค่ะ แต่พออาจารย์เปิดประตูรถออกไปก็ไม่ทันได้ดูก้าวขาลงไปที่พื้นแต่กลับกลายเป็นพื้นที่เป็นแอ่งไม่เรียบเท่ากันค่ะ จึงทำให้อาจารย์ทรุดฮวบลงไปกองอยู่กับพื้น จี๊ดจำได้ว่าอาจารย์เจ็บปวดมากแต่อาจารย์ก็ต้องอดทน เพราะยังมีการจองร้านอาหารให้ลูกทัวร์ทริปนี้อีกค่ะ

แต่ทุกอย่างอาจารย์ก็ทำจนเรียบร้อยทั้งที่เท้าเจ็บก็เดินกระเผลก ๆ มาดูว่าจี๊ดติดต่อร้านอาหารเรียบร้อยหรือไม่ เพราะเป็นห่วงค่ะ อาจารย์สู้ไม่ถอยจริง ๆ เพราะหลังจากวันนั้นก็เดินทางทำบุญมาโดยตลอดไม่ได้พักขาพักเท้าเลยจนนายแพทย์ต้องย้ำเตือนว่าระวังเอ็นจะขาดเพราะเหลืออีก 20 เปอร์เซนต์ เท่านั้น แต่อาจารย์บอกหนูเชื่อในบุญคนทำบุญไม่เป็นไรและที่บาดเจ็บนี้หนูรู้ว่า เป็นเพราะกรรมที่ได้ทำมาแต่ด้วยบุญที่มีนี่ถือว่า หนักเป็นเบาแล้วค่ะ

เรื่องขำ ๆ หรือจะขำไม่ออกก็ไม่รู้  การที่อาจารย์บาดเจ็บครั้งนี้ก็ไม่ได้หยุดการเดินทางทำบุญและช่วยเหลือคน และงานบุญของเราก็มากมายเสียเหลือเกิน ผลปรากฎว่า อาจารย์ยังไม่ได้เขียนประกาศเชิญชวนทำบุญ ทริป 14 คืองานเยอะมากและเป็นคนที่เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เขียนงานบุญหลายงานก็คิดว่าได้เขียนแจ้งไปแล้ว ซึ่งตัวจี๊ดเองก็ลืมไปเลยค่ะ และเมื่อวานนี้เทวดาผู้หญิงเสียงแบบมีอายุค่ะ ท่านมาพูดกับอาจารย์ว่า ยังไม่ได้เขียนบอกบุญทริป 14 พูดย้ำสองครั้ง แต่ในใจอาจารย์ก็พูดในจิตไปว่าลงประกาศไปแล้ว ท่านบอกยังเดี๋ยววัดไม่ได้เงิน ดังนั้น แต่เช้าอาจารย์ก็ถามพี่จี๊ดที่เราคุยกันว่าหนูจะเขียนบอกบุญทริป 14  เรายังไม่ได้เขียนหรือคะ เท่านั้นแหละนึกขึ้นมาได้จริงด้วย นั่นแหละที่อาจารย์เล่าว่า เทวดาท่านมาเตือน โอ้โห การทำบุญของเราอยู่ในสายตาของเทพเทวาซะด้วยค่ะ
และท่านทุกคนคงเฝ้ารอว่ามีบุญอะไรในทริป  14 นี้ อยู่เหมือนกันล่ะสิคะ
หลวงพ่อท่านก็ตกใจมากที่อาจารย์สั่งอุปกรณ์การเทปูนไปให้ที่วัดเก็บไว้ก่อนเพื่อรอคณะเสบียงสวรรค์ ลี้ลับ 14 นี้ค่ะ ท่านคงเห็นถึงความมุ่งมั่นของอาจารย์ค่ะ
ที่วัดนี้ถวายภัตตาหารเพล และเทปูนพื้นใต้ถุนกุฏิด้วยปูนซีแพค 5 คิว จี๊ดจึงได้บอกบุญเพื่อท่านผู้ร่วมบุญจะได้ทำบุญสร้างกุศลนี้ค่ะ


สถานที่ที่ 8
สถานที่สุดท้ายนี้ก็มีความสำคัญมากก่อนเดินทางกลับบ้านกรุงเทพ ฯ เพื่อความเป็นสิริมงคลตามที่อาจารย์ได้ตั้งใจ เพราะจริง ๆ นะคะ อาจารย์บอกว่าพระธาตุแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์และเกี่ยวข้องกับพญานาคค่ะ

ทำบุญ 8 สถานที่นี้ แต่ละแห่งยอดเยี่ยมเปี่ยมล้นไปด้วยบุญทั้งนั้นทำบุญกันแบบไม่พักไม่หยุด

สรุป การขอรับบริจาค ดังนี้
- กองทุนละ 2,500.- บาท
- ตามกำลังศรัทธา
จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้ใจบุญเป็นการล่วงหน้าที่จะได้ไปทำบุญด้วยกันในวันที่  8-10 กรกฎาคม 2565

จี๊ดจ๊าด

เจนญาณทิพย์

รายละเอียดการเดินทาง และการโอนเงินค่าเดินทาง (ที่นั่งเต็มแล้วค่ะ)

ทริปลี้ลับ 14 จำนวน 3 วัน 2 คืน  วันที่ 8-10 ก.ค. 65

จำนวน 100 คน

ราคา 6,000 บาท/ท่าน (พักห้องละ 2 คน)

อัตรานี้ร่วมดังนี้
1. ค่ารถตู้ D4D แบบ VIP จำนวน 3 วัน นั่ง 8 คน / คัน
2. ค่าที่พักโรงแรม  จำนวน 1 คืน นอนในรถตู้ 1 คืน
3. ค่าอาหารและเครื่องดื่ม


หมายเหตุ ทริปนี้ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ คนป่วย และเด็กเล็กค่ะ
ลูกทัวร์ทุกท่านต้องส่งใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด 19


***** ห้ามลูกทัวร์ดื่มสุราและเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิดในทริปทัวร์บุญค่ะ ******

ทั้งนี้เมื่อท่านแจ้งส่ง slip การโอนเงินมา ขอให้แจ้งชื่อผู้เดินทาง และเบอร์โทร  สำหรับแจ้งกำหนดการต่างๆ พร้อมระบุว่าเป็นชาย/หญิงจำนวนกี่ท่านด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้จัดห้องพักให้ถูกค่ะ

ในกรณีที่ท่านได้โอนเงินค่าเดินทางมาแล้ว แต่ท่านไม่สามารถเดินทางไปได้ และต้องการเงินค่าเดินทางคืน ในทุกกรณีไม่สามารถขอคืนได้นะค่ะ ยกตัวอย่าง เช่น

1. ไม่สามารถลางานมาได้

2. ติดธุระ/ภารกิจด่วน

3. ไม่สามารถเปลี่ยนค่าเดินทางมาเป็นเงินทำบุญได้ในกรณีผู้เดินทางยังหาคนแทนไม่ได้ (เป็นหน้าที่ของผู้เดินทางหาคนแทนเอง)

4. เปลี่ยน/สลับรอบทริปไม่ได้ค่ะ

--------------------------------------------------------------------------------------------

เจนญาณทิพย์

ทริปลี้ลับ 14  เปิดรับบริจาคปัจจัยทำบุญดังนี้ค่ะ

- ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างเจดีย์ดอกบัว

- ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างกุฎิสงฆ์

- ถวายภัตตาหารเช้าและถวายสังฆทานตามสถานที่ต่าง ๆ

- ร่วมเทปูนพื้นกุฎิสงฆ์เป็นปฐมเลิศจำนวน 5 คิว และถวายอุปกรณ์สำหรับงานปูนต่างๆ

เปิดรับบริจาค 2 แบบค่ะ

- กองทุนละ 2,500 บาท

- ตามกำลังศรัทธา

***ทริปลี้ลับ 14 เปิดรับบริจาคปัจจัยทำบุญถึงวันพุธที่ 6 กรกฏาคม 65 ค่ะ***

สามารถโอนเข้าบัญชีนี้ค่ะ

ชื่อบัญชี น.ส. รุ้งตะวัน ชนะศึก (Ms. Rungtawan Chanasuk)

บัญชีออมทรัพย์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบางพลัด

เลขที่ 011-256882-1 หรือบัญชี promptpay 089-515-5324

วิธีแจ้งโอนเงิน

- แจ้งการโอนเงิน พร้อมส่ง slip  ผ่านทาง line id: @jenyantip

- ส่ง slip การโอนเงินทางอีเมลล์ jenmedia@hotmail.com หรือ ส่งไปที่ใน inbox facebook page อาจารย์เจน.com

พร้อมแจ้งรายละเอียด ชื่อผู้ทำบุญ โดยระบุชื่อว่า "โอนทำบุญ ทริปลี้ลับ 14"

### ไม่มีชื่อการลงชื่อผู้ทำบุญให้ที่หน้ากระทู้แล้วนะคะ ตามที่ได้เคยมีการแจ้งประกาศไว้แล้ว ###

## สำหรับการบริจาคปัจจัยทำบุญ ท่านสามารถโอนเงินมาได้เลยนะคะ ไม่ต้องลงชื่อจองไว้ก่อนค่ะ  ###

ดิฉัน อ.เจน ญาณทิพย์ พี่รุ้งตะวัน และทีมงานขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมปัจจัยมาทุกประการค่ะ

เจน ญาณทิพย์

เรื่อง ประกาศแจ้งเพื่อทราบ เรื่องห้ามโพสต์สลิปลงหน้าเฟส
******************************************************************

ด้วยขณะนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกคนต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยต่าง ๆ แต่ทุกคนก็ยังคงมีความขยันหมั่นเพียรในการทำบุญสร้างบารมีให้กับตนเองและครอบครัว และในการทำความดีสร้างบุญกุศลนี้ก็มักจะมีพวกมิจฉาชีพเป็นจำนวนมากที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ในงานบุญกุศลที่อาจารย์เจน ญาณทิพย์ ได้จัดขึ้นค่ะ

ด้วยเหตุผลนี้ จึงขอความร่วมมือและขอแจ้งเพื่อทราบ ดังนี้
1. ห้ามโพสต์สลิปการโอนเงินลงในหน้า Facebook  อาจารย์เ่จน .com เพราะจะถูกมิจฉาชีพนำเอาสลิปของท่านไปใช้ต่อได้
2. ให้ส่งสลิปมาทาง Inbox ส่วนตัวของ Facebook อาจารย์เจน.com หรือ Email: jenmedia@hotmail.com หรือทาง Line id: @jenyantip ช่องทางใดช่องทางหนึ่ง เท่านั้น กรุณาอย่าส่งหลายช่องทางในสลิปเดียวกัน เพื่อป้องกันความสับสน
3.  เนื่องจากปัจจุบัน มีคนโพสต์ขอรับบริจาคใน Facebook  อาจารย์เจน ดอทคอม โดยโพสต์ขอรับบริจาคต่อจากใต้โพสต์สลิปของท่านในกระทู้หน้าเฟส ซึ่งไม่ใช่งานบุญของอาจารย์เจน ญาณทิพย์ ดังนั้น จึงขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจโอนเงินทำบุญให้บุคคลหรือคณะบุคคล ซึ่งเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ จึงขอให้ท่านอย่าได้หลงเชื่อค่ะ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้โดยง่าย

จึงขอประกาศแจ้งมาเพื่อทราบ

เจนญาณทิพย์

จองโพสต์กระทู้ค่ะ

เอก3

ขอ อนุโมทนาบุญกับผู้ไปทริปนี้ด้วยครับ