ร่วมอนุโมทนาบุญ ทริปแรลลี่บุญ อาจารย์เจน ญาณทิพย์ 11-12 ธ.ค.64

เจนญาณทิพย์

สวัสดีค่ะ ดิฉันอาจารย์เจน ญาณทิพย์ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมทำบุญในทริปแรลลี่บุญครั้งแรก เป็นการทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี และถวายสังฆทานรวม 3 วัดค่ะ  ซึ่งครั้งนี้เป็นการเดินทางโดยรถยนต์ของครอบครัวเพราะเป็นการทำบุญอีกรูปแบบหนึ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถไปทำบุญในถิ่นทุรกันดารที่รถบัสไม่สามารถเข้าไปได้ค่ะ และครั้งนี้ก็เป็นบุญที่ทุกท่านได้ร่วมบุญกันมาเป็นบุญที่ทำสำเร็จแล้วทุกประการค่ะ



วัดที่ 1
ภาพแรกที่ได้เห็นทางวัดกางเต้นท์ที่หน้าโบสถ์จึงรู้สึกปิติใจมากที่จะได้ทำบุญสร้างโบสถ์ที่เป็นถาวรวัตถุหนึ่งในพระพุทธศาสนาที่สำคัญมากและพวกเราเป็นสาวกของพระพุทธองค์ที่ได้มีส่วนได้เผยแพร่คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าต่อไปค่ะ
เมื่อเดินทางมาถึงวัดได้มีชาวบ้านมาให้การต้อนรับค่ะ โดยทางวัดได้เตรียมความพร้อมจัดสถานที่ต้อนรับ กางเต้นท์ จัดเก้าอี้ที่นั่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกท่านที่ได้เดินทางมาทำบุญกันที่วัดก็เป็นความประทับใจมากค่ะ เพราะการที่ดิฉันไปทำงานบุญในสถานที่แห่งใดก็จะได้รับการต้อนรับและยินดีในบุญทุกครั้งถือเป็นกำลังใจในการทำความดีของคณะบุญเสบียงสวรรค์ค่ะ


ที่ผ่านมาดิฉันบอกบุญทุกท่านถวายฉัตรเพื่อประดิษฐานที่บนเศียรพระพุทธรูป แต่ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้บอกบุญทุกท่านถวายฉัตรเก้าชั้นที่บนยอดหลังคาโบสถ์จึงดีใจค่ะ ที่ทำให้ทุกท่านได้มีส่วนร่วมในการทำบุญถวายฉัตรดังกล่าวนี้ค่ะ ซึ่งเป็นบุญใหญ่หาทำได้ยากและมีอานิสงส์บุญมาก เพราะฉัตรเป็นเครื่องทรงชั้นสูงของหน่อเนื้อกษัตริย์  มีบรรดาศักดิ์ชั้นสูง ใช้เพื่องานเฉลิมฉลองงานมหามงคลพิธีใหญ่ และต้องเป็นผู้ที่มีบารมีสูงสุดเท่านั้นที่จะทำการถวายเพื่อสักการะบูชา ด้วยวัตถุที่ประณีต วิจิตร ทรงคุณค่า อันนำมาซึ่งความเลื่อมใสแห่งใจ ที่ตั้งมั่น ในพระพุทธศาสนาค่ะ ด้วยอานิสงส์บุญถวายฉัตรผู้ถวายจะมีชีวิตที่มีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข อุดมไปด้วยทรัพย์มากมีไปด้วยบริวารเทวดารักษาเป็นผู้ที่รอดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวงค่ะ ดิฉันจึงดีใจแทนทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วมบุญด้วยกันมาในครั้งนี้ค่ะ
หลังจากกล่าวคำถวายฉัตรเก้าชั้น และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เรียบร้อยแล้ว จึงได้ทำการทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างโบสถ์ที่ยังต้องดำเนินการอยู่อีกมากค่ะ และที่น่าปิติยินดีมากก็เพราะว่าได้ปัจจัยเงินที่ทุกท่านได้ร่วมบุญกันมาด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีและที่มาต่อยอดกันที่วัดได้เงินเป็นจำนวนมากที่พอจะทำให้โบสถ์สามารถดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้มากค่ะ
ทางวัดจัดให้มีการแสดง “รำตง” ของพวกเด็กนักเรียนชาวกะเหรี่ยง ซึ่งดิฉันได้เตรียมเงินเพื่อมามอบทุนการศึกษาและขนมปังปี๊บ ให้กับเด็กนักเรียนแต่ละคนก็ได้รับเงินกันไปพอสมควรค่ะ เนื่องจากได้บอกบุญกับทุกท่านที่ได้เดินทางกันมาในวันนั้นด้วยก็รู้สึกดีใจแทนพวกเด็ก ๆ นะคะ



ในการนี้ดิฉันได้นำทุกท่านจบอธิษฐานให้ผู้บริจาคได้รับอานิสงส์บุญ ไม่ว่าจะเกิดภพชาติก็จะเป็นผู้ที่มีปัญญา เป็นผู้ที่มีการศึกษาดี หากมีลูกมีหลานที่ไม่สนใจไฝ่เรียนก็ให้ลูกหลานได้มีการศึกษาพีได้จบการศึกษาสูง และมีผู้สนับสนุนการเล่าเรียนค่ะ
พิธีการต่าง ๆ เสร็จแล้ว ดิฉันได้อัญเชิญหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขึ้นไปบนเขาเพื่อเข้าถ้ำศักดิ์สิทธิ์ สำหรับถ้ำแห่งนี้อดีตเคยมีคนเมืองบังบด (คนลับแล) อาศัยอยู่แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วค่ะ  และเมื่อเข้าถ้ำไปสักหน่อยได้พบกับพระพุทธรูปองค์ใหญ่มากมีอายุกว่าร้อยปีแล้วค่ะ ในญาณวิถีของดิฉันรู้ได้ว่า ผู้สร้างเป็นชนชาวชวาที่พื้นเพอาศัยอยู่ตามขุนเขา ซึ่งเป็นคนไทยยุคสมัยโบราณค่ะ ต่อจากนั้นก็ได้อธิบายรายละเอียดความเป็นมาของสถานที่ภายในถ้ำนั้นไปตลอดเส้นทางจนถึงสถานที่ที่จะนำหลวงปู่มั่นนำเข้าประดิษฐานภายในโถงถ้ำและหันหน้ามายังห้องโถงใหญ่ของถ้ำที่เคยเป็นห้องฟังธรรมของเหล่าพญานาคค่ะ ดิฉันมีความประทับใจที่ได้เห็นหลวงปู่มั่นท่านนั่งอยู่บนที่สูงในโถงถ้ำมองลงมาน่าปิติใจมากค่ะ
วัดที่ 2
ที่วัดแห่งนี้ถวายสังฆทานร่วมสร้างโบสถ์และบูรณะศาลาการเปรียญที่ชำรุดทรุดโทรมโดยได้ปัจจัยเงินพอที่จะทำการบูรณะศาลาการเปรียญหลังนี้ได้สำเร็จค่ะ แต่ศาลาหลังนี้เป็นศูนย์รวมงานบุญของชาวบ้านที่มีทั้งลูกเด็กเล็กแดงที่เป็นชนชาวกะเหรี่ยงที่มาทำบุญกันที่วัดนี้ทุกวันงานบุญสำคัญทางพระพุทธศาสนาค่ะ
ขณะนี้โบสถ์นั้นสร้างเสร็จแล้วยังคงเหลือแต่งานตกแต่งภายในเท่านั้นค่ะ และเป็นโบสถ์ที่คณะเสบียงสวรรค์ได้เคยมาทำบุญสร้างโบสถ์เมื่อหลายปีก่อน ดิฉันได้เคยนำคณะเสบียงสวรรค์มาทำบุญสร้างโบสถ์ที่วัดแห่งนี้ครั้งหนึ่งแล้วและในครั้งนี้ได้พบว่า ศาลาการเปรียญชำรุดเสียหายเพราะพวกปลวกที่มากัดกินเสาและคานไม้ นอกจากนี้หลังคาสังกะสีก็มีรูรั่วหลายแห่งหากฝนตกก็ลำบากค่ะ ดังนั้น ความจำเป็นแรกก็คือการบูรณะศาลาการเปรียญและเงินที่ทุกท่านได้ร่วมบุญกันมานี้ดิฉันเชื่อว่าสามารถบูรณะศาลาหลังนี้ได้อยู่อีกหลายปีค่ะ นับว่าเป็นความประทับใจขงดิฉันและทุกท่านที่ได้ร่วมบุญด้วยกันในครั้งนี้นะคะ
วัดที่ 3
วัดแห่งนี้เป็นวัดสาขาที่ 150 ของสายพ่อแม่ครูบาร์อาจารย์หลวงปู่ชา สุภัทโท พระสงฆ์ที่วัดนี้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสมถะและอยู่ในสถานที่ที่สงบเงียบอยู่อย่างเรียบง่าย มีพื้นที่วัด 33 ไร่ แต่ไม่มีความปลอดภัยในทรัพย์สินของวัดท่านก็ไม่ได้โฆษณาประชาสัมพันธ์บอกบุญกับผู้ในและในสถานการณ์โควิดนี้ทางวัดก็มีปัจจัยในการดำเนินการของวัดค่าน้ำค่าไฟและอื่น ๆ อีกค่ะ
ดิฉันได้นำทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างกำแพงรอบวัด และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา รวมทั้งบำรุงสงฆ์ ได้ปัจจัยเงินพอสมควรที่จะสามารถดำเนินการได้ต่อไปค่ะ ซึ่งดิฉันมความประทับใจมากค่ะ
สุดท้ายนี้ ขอบคุณและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมบุญ “แรลลี่บุญ” ด้วยกันทุกท่านจนทำให้งานบุญนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ค่ะ

อาจารย์เจน ญาณทิพย์

จี๊ดจ๊าด

    สวัสดีค่ะ จี๊ดจ๊าดมาขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะค่ะ สำเร็จเสร็จแล้วนะค่ะ สำหรับทริปแรลลี่บุญครั้งแรก และก็น่าตื่นเต้นสนุกสนานไปด้วยกันนะคะ   เพราะทุกท่านที่ร่วมเดินทางก็คงมีลุ้นกับการทำบุญแต่ละวัดและแต่ละสถานที่ลุ้นกันไปตลอดเส้นทางค่ะ
วัดแรก
เมื่อเดินทางมาถึงวัดก็มีชาวบ้านมาให้การต้อนรับยิ้มแย้มเบิกบานใจ และจัดสถานที่ได้อย่างสะดวกสบายเพราะบริเวณหน้าโบสถ์นั้นอยู่กลางแจ้งพอมีเต้นท์กางไว้ต้อนรับเป็นอย่างดีแบบนี้ทุกคนก็ไม่ร้อน พร้อมกันนี้มีพัดลมตัวใหญ่ตั้งไว้ 2 ตัว พัดเย็นสบายท่านที่เพิ่งเดินทางมากันเหนื่อยๆ ก็เย็นสบายใจไม่ร้อนกันเลยค่ะ
ตื่นเต้นมากนะคะที่พวกเราได้ทำบุญถวายฉัตรเก้าชั้น ถวายหลวงปู่มั่น และทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมบุญสร้างโบสถ์ที่จี๊ดเห็นว่า ถ้าได้เงินของคณะบุญแรลลี่นี้ไปมากสักหน่อยละก็พวกเราจะสามารถสร้างต่อไปได้อีกมากโข และก็จริงดังหวังยอดเงินที่ได้ถวายวัดไปแล้วนั้นไม่น้อยเลยค่ะ
การสร้างโบสถ์อาจารย์พูดเสมอว่า เป็นบุญที่มีอานิสงส์บุญมากเพราะเป็นสถานที่สำคัญของวัดและพระสงฆ์จะได้ใช้เป็นสาธารณะประโยชน์มากที่สุดค่ะ



ทุกคนมาพร้อมกันตรงเวลาแม้จะต่างคนต่างมา เพราะเป็นการขับรถยนต์ส่วนตัวที่ต่างก็ตาม ๆ กันมา แต่ก็มีความพร้อมกันที่สุดไม่มีข้อบกพร่องและน่าประทับใจมากค่ะ จี๊ดปลื้มประทับใจมากที่วัดนี้ได้ยอดเงินสร้างโบสถ์เป็นจำนวนมากอย่างน้อยเงินของทุกท่านที่ได้ร่วมกันในครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในโบสถ์หลังนี้ที่เป็นถาวรวัตถุที่จะคงอยู่สืบไปในบวรพระพุทธศาสนาค่ะ



ฉัตรเก้าชั้นนี้ ส่งมาจากร้านแต่เมื่อเปิดผ้าที่หุ้มห่อฉัตรออกมา  แหมไม่สวยงามน่าชมเลย อะคะแลดูเงียบ ๆ ความแวววาวไม่มีเอาเสียเลย แต่พออาจารย์ให้นำเพชรพลอยสีสวยงดงามมาตกแต่งประดับประดาที่ฉัตรเก้าชั้นนั้นแล้ว อุ๊แม่เจ้า เป็นฉัตรที่งดงามมาก จี๊ดเชื่อว่า มีฉัตรเดียวในโลกที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนค่ะ ถ้าหากว่าได้นำไปตั้งวางอยู่บนหลังคาโบสถ์ก็คงจะสวยงามวับวาวสะท้อนแสงแดดมากเชียวค่ะ

การแสดง “รำตง” ที่เด็กน้อยชาวกะเหรี่ยง ก็น่ารักตามธรรมชาติของเด็กมารอเตรียมพร้อมนานแล้ว หลังจากที่ได้แสดงเสร็จ อาจารย์ก็ได้มอบทุนการศึกษาและขนมปังปี๊บทำให้เด็ก ๆ และครูผู้สอนทุกคนมีสีหน้าที่มีความสุขที่ได้ขนมปังปี๊บและเงินทุนการศึกษาที่ถือว่าเป็นเงินที่มากสำหรับน้อง ๆ เลยนะค่ะ



การอัญเชิญหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขึ้นไปบนเขาเพื่อนำเข้าถ้ำ โอย ทุกท่านเยี่ยมมากค่ะบันไดหลายขั้นก็ไม่บ่นกันซักคำ พวกเราทั้งหลายก็เดินตาม ๆ กันไปค่ะ เพราะบริเวณโดยรอบเป็นต้นไม้ร่มเย็นและที่ภายในถ้ำก็เย็นสบายอาจารย์ก็นำชมถ้ำและบรรยายความเป็นมาของถ้ำด้วยการใช้ญาณวิถีนะคะไม่ได้รู้ประวัติจากที่ไหนเลย และก็เดินกันต่อไปเรื่อย ๆ อาจารย์บอกว่าพระพุทธรูปองค์ใหญ่นี้สร้างโดยชาวชวาคนยุคโบราณที่มีความเก่ายาวนานร้อยกว่าปี และจากภาพที่เห็นในญาณวิถีนั้นอาจารย์ได้เห็นชาวชวาเค้าใส่ผ้าโจงกระเบนลายเป็นตาราง ๆ เหมือนกับผ้าขาวม้าประมาณนั้นนะคะ เนื้อผ้าแบบผ้าฝ้ายค่ะ อืม คนสมัยก่อนนี้ก็มีเสื้อผ้าในยุคของเขานะคะ



ทุกคนก็พากันเดินต่อไปนำโดยรูปปั้นหลวงปู่มั่น และอาจารย์พร้อมคณะเดินตามกนไปจนถึงจุดที่จะนำหลวงปู่มั่นประดิษฐาน แม้จะไกลพอสมควรแต่ก็ไม่ผิดหวัง เพราะสถานที่นั้นตรงตามที่เทวดาผู้หญิงได้บอกกล่าวกับอาจารย์ไว้ตั้งแต่วันที่มาเซอร์เวย์ช่างเหมาะเจาะงดงามมากค่ะ

ภายในถ้ำนี้ก็มีสิ่งลี้ลับมีมิติทับซ้อนบดบังอยู่ ด้วยญาณวิถีอาจารย์รู้ได้ว่า ที่นี้เคยมีคนเมืองบังบดหรือคนเมืองลับแล แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วคงเหลืออยู่แต่คนธรรพ์อาศัยอยู่ในถ้ำ 1 ตนเท่านั้นค่ะ จี๊ดก็ถามอาจารย์ไปว่า เค้าเป็นมนุษย์ที่ตายไปแล้วหรือค่ะ เป็นคนธรรพ์  อาจารย์ตอบกลับมาว่า ใช่ค่ะ  คนธรรพ์ คือ คนที่ตอนมีชีวิตอยู่ไม่ทำบุญไม่ทำบาป  และคนธรรพ์ตนนี้ได้มาเกิดเป็นคนธรรพ์ เฝ้าอยู่ในถ้ำนี้ค่ะ



วัดที่ 2

สำหรับวัดที่สองนี้ คณะแรลลี่บุญได้ทำบุญถวายสังฆทานร่วมสร้างโบสถ์และบูรณะศาลาการเปรียญ ซึ่งได้เงินเป็นจำนวนมากพอที่จะซ่อมสร้างศาลาใหม่ที่จะใช้ได้ยืดยาวนานออกไปอีกหลายปีค่ะ

จี๊ดจำได้ว่า เมื่อหลายปีก่อนที่มาครั้งนั้นวัดกำลังสร้างโบสถ์คณะเสบียงสวรรค์ไปช่วยได้เงินมากมายจนมาบัดนี้โบสถ์ได้สำเร็จด้วยกำลังแรงของทุกฝ่าย และมาครั้งนี้ คณะแรลลี่บุญ (คณะเสบียงสวรรค์) ได้มาที่วัดอีกครั้งหนึ่งแต่โบสถ์ไม่ต้องห่วงแล้วเหลือเพียงตกแต่งภายในค่ะ และสิ่งที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ก็คือจะต้องบูรณะศาลาการเปรียญที่ขณะนี้กำลังจะผุพังพร้อมถล่มลงมาด้วยเจ้าตัวร้ายตัวปลวกทั้งหลาย ซึ่งหลวงพ่อเองท่านก็ยังพูดว่านี่ได้เงินมาครั้งนี้จะได้รีบดำเนินการ เนื่องจากทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าเพดานหลังคาหรือเสาต้นไหนจะถล่มลงมาค่ะ ซึ่งน่ายินดีปิติใจมากที่เงินของทุกท่านได้มีส่วนให้ได้ทำบุญอย่างฉับพลันค่ะ



ขณะนี้โบสถ์นั้นสร้างเสร็จแล้วยังคงเหลือแต่งานตกแต่งภายในเท่านั้นค่ะ และเป็นโบสถ์ที่คณะเสบียงสวรรค์ได้เคยมาทำบุญสร้างโบสถ์เมื่อหลายปีก่อน ดิฉันได้เคยนำคณะเสบียงสวรรค์มาทำบุญสร้างโบสถ์ที่วัดแห่งนี้ครั้งหนึ่งแล้วและในครั้งนี้ได้พบว่า ศาลาการเปรียญชำรุดเสียหายเพราะพวกปลวกที่มากัดกินเสาและคานไม้ นอกจากนี้หลังคาสังกะสีก็มีรูรั่วหลายแห่งหากฝนตกก็ลำบากค่ะ ดังนั้น ความจำเป็นแรกก็คือการบูรณะศาลาการเปรียญและเงินที่ทุกท่านได้ร่วมบุญกันมานี้ดิฉันเชื่อว่าสามารถบูรณะศาลาหลังนี้ได้อยู่อีกหลายปีค่ะ นับว่าเป็นความประทับใจขงดิฉันและทุกท่านที่ได้ร่วมบุญด้วยกันในครั้งนี้นะคะ

หลวงพ่อท่านก็พูดขึ้นด้วยว่า สมัยก่อนนั้นที่คณะเสบียงสวรรค์อาจารย์เจนมาทำบุญที่วัดด้วยคนประมาณ 400 หรือ 500 คน ทำบุญห้าแสนกว่าบาท ครั้งนั้น ไฟฟ้าก็ไม่มีทางวัดลำบากไม่มีสื่ออะไรจึงไม่รู้จักว่าอาจารย์เป็นใครมาจากไหน หลังจากนั้นเมื่อไฟฟ้ามาชาวบ้านกะเหรี่ยงมาบอกจึงได้รู้จักว่าไม่ใช่คนธรรมดา พอจี๊ดได้รับฟังก็รู้สึกภูมิใจในบุญที่อาจารย์เป็นผู้นำคณะบุญค่ะ



วัดที่ 3

วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีความสงบเงียบมากค่ะ ในตอนที่อาจารย์ไปพบหลวงพ่อวาสนั้นก็เป็นเวลาที่โพล้เพลแล้วมองแทบไม่เห็นยอดหญ้า เพื่อเข้าไปกราบสอบถามท่านว่าวัดนี้กำลังบูรณะอะไรหรือไม่ยังขาดสิ่งใดหรือไม่ ซึ่งหลวงพ่อท่านก็ตอบมาว่า กำลังมีโครงการสร้างกำแพงรอบวัด จี๊ดเขียนเอกสารหนังสือเขียนไปว่า คณะเสบียงสวรรค์อาจารย์เจน  ญาณทิพย์ จะนำคนมาทอดผ้าป่า แล้วก็ลากลับดูเหมือนว่าเย็นวันนั้นหน้าหลวงพ่อก็เห็นเพียงแต่ราง ๆ และหลวงพ่อท่านก็คงเห็นหน้าอาจารย์แต่เพียงราง ๆ ด้วยเช่นกันค่ะ

พอมาวันนี้วันนัดหมายทำบุญก็ได้พบกับหลวงพ่อในความสว่างจี๊ดก็ได้เห็นหน้าท่านวันนี้เอง ที่วัดนี้ทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีได้เงินมากพอสมควรค่ะ จี๊ดก็ดีใจมากเพราะเงินที่ได้นั้นมากพอที่จะสร้างกำแพงรอบวัดในเขตพื้นที่ 33 ไร่ ไม่น้อยเลยนะคะ

หลังจากทอดผ้าป่าสามัคคีเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อท่านก็เล่าว่า ไม่เคยรู้ว่าโยมเป็นใครมาจากไหนไม่รู้จักมาก่อน ที่รู้จักได้เพราะพวกโยมที่วัดบอกกับอาตมาว่า คนที่จะมาทำบุญที่วัดเป็นคนดังแต่อาตมาก็ไม่รู้ว่าโยมเป็นใคร จี๊ดได้รับฟังแล้วก็เออจริงสินะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ  ด้วยค่ะเพราะท่านสมถะอยู่อย่างเรียบง่ายท่านไม่ได้อยู่ในทางโลกแต่ท่านอยู่ในทางธรรมค่ะ จึงเป็นเรื่องที่น่าปิติใจในบุญกุศลที่อาจารย์เป็นผู้นำบุญและทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกันมาค่ะ

ดังนั้น ความภูมิใจความปิติใจในบุญที่ทำแล้วในครั้งนี้ที่วัดนี้ได้ทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างกำแพงรอบวัด ทำนุบำรุงวัตถุทานและเสนาสนะต่าง ๆ  และบำรุงพระสงฆ์ เพียงวัดเดียวได้ทำบุญตั้งหลายอย่างค่ะ จึงขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านนะค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมบุญ “แรลลี่บุญ” ในวันที่ 11 – 12 ธันวาคม 2564  ด้วยเงินของทุกท่านจึงทำให้งานบุญทุกอย่างได้กระทำสำเร็จลุล่วงไปได้ค่ะ

จี๊ดจ๊าด

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

ทศพล

ปิติมากครับอาจารย์

ARHENG

สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยครับ