ร่วมอนุโมทนาบุญ ทริปเสบียงสวรรค์ 81 "ผ้าป่าขัดจิต ทาสีเกิดกุศล"

เจนญาณทิพย์

สวัสดีค่ะ ดิฉันอาจารย์เจน ญาณทิพย์ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีกับคณะเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 81 (โครงการเคลือบสนิม ครั้งที่ 22) วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2563 ตอน “ ผ้าป่าขัดจิต ทาสีเกิดกุศล ” เพื่อร่วมสร้างศาลาการเปรียญ ทาสีกำแพงรอบโบสถ์ และทำบุญสร้างวิหารทานวัตถุทานต่าง ๆ และด้วยบุญที่ทุกท่านได้กระทำสำเร็จแล้วนี้ ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน และมีความประทับใจในบุญกุศลดังกล่าวนี้ด้วยค่ะ

วัดที่ 1
ดิฉันมีความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เดินทางไปเซอร์เวย์ที่วัดนี้แล้วค่ะ เพราะในวันนั้นเป็นวันพระ ได้มีชาวบ้านขึ้นศาลามาทำบุญกันอย่างเนืองแน่นค่ะ ซึ่งดิฉันได้พูดคุยกับชาวบ้านที่มาทำบุญถวายภัตตาหารเพล โดยได้แจ้งแก่ชาวบ้านว่า จะนำคณะเสบียงสวรรค์กว่าหกร้อยคนจากกรุงเทพฯ มาทำบุญร่วมสร้างศาลาการเปรียญหลังนี้ให้สำเร็จ ซึ่งชาวบ้านก็บอกว่า ทางช่างก่อสร้างได้ประเมินราคาไว้ว่าหากมีเงิน 4 แสนบาท ก็สามารถสร้างซ่อมแซมศาลาหลังนี้ได้ค่ะ ก่อนที่จะเดินทางออกจากวัดชาวบ้านต่างก็อนุโมทนาสาธุ และทุกคนก็ขอให้ดิฉันมาให้ได้ ขอให้มาช่วยทางวัดเพื่อสร้างศาลาหลังนี้อย่าลืมมานะ นี่เป็นเสียงสุดท้ายที่ชาวบ้านขอร้องมาค่ะ ซึ่งถือว่าชาวบ้านที่นี่ยังมีดวงตาเห็นธรรมค่อนข้างมากค่ะ

เมื่อดิฉันบอกบุญไปยังทุกท่านผู้ฝักไฝ่ในบุญก็ได้ปัจจัยที่ทุกท่านได้โอนเข้าบัญชีบุญมาจากทั่วสารทิศ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใจบุญจากต่างประเทศ และในประเทศค่ะ ที่วัดแห่งนี้ถึงแม้ว่า จะเป็นวัดเล็ก ๆ มีศาลาการเปรียญที่มีสภาพเก่าทรุดโทรม แต่ชาวบ้านก็พากันมาทำบุญกันเป็นจำนวนมาก และในวันนั้นมีฝนตกหนัก แต่ชาวบ้านก็มาเข้าวัดทำบุญกันแน่นศาลาก็เท่ากับว่าชาวบ้านก็มีความศรัทธาในตัวเจ้าอาวาสวัดที่เป็นหลวงตา อายุ 85 พรรษา ท่านนี้ค่ะ ซึ่งจากการที่ดิฉันเดินทางมาหลายวัดที่เป็นวัดใหญ่มากมีวัตถุทานมาก แต่ไม่ค่อยมีคนทำบุญกันมากนะคะ

ก่อนที่คณะเสบียงสวรรค์จะเดินทางไปวัดในวันที่ 30 สิงหาคม 2563 ทางกรรมการวัดได้แจ้งมายังดิฉันว่า ชาวบ้านตื่นเต้นดีใจกันมากจึงแสดงความจำนงจะตั้งโรงทาน ประมาณ 30 โรงทาน ก็เป็นพวกข้าวหม้อแกงหม้อและน้ำดื่ม ซึ่งดิฉันก็แจ้งไปว่า ทางดิฉันก็มีข้าวกล่องและน้ำดื่มแจกผู้เดินทางมาด้วยกว่า 600 กล่อง ทางกรรมการก็ยืนยันว่าไม่ต้องจัดมา ขอให้รับประทานโรงทานของทางวัด แต่อย่างไรก็ตามดิฉันยังคงมีความตั้งใจเดิมโดยจัดข้าวกล่อง และน้ำดื่มให้กับทุกท่านที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันค่ะ

การที่ทุกท่านได้ทำบุญเพื่อร่วมสร้างศาลาการเปรียญให้คงทนแข็งแรงถาวรถือเป็นบุญสาธารณะทาน หรือเรียกว่า บุญสาธารณะกุศล หมายถึง การทำทานที่เป็นสาธารณะใช้ร่วมกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์หรือประชาชนทั่วไปค่ะ ด้วยบุญนี้อานิสงส์บุญมากค่ะ ไม่ว่าจะเกิดภพชาติใด บุญนี้ก็จะติดตามท่านไปทุกภพทุกชาติจนกว่าศาลานี้จะผุพังไม่เหลือให้เห็นเลยค่ะ นอกจากนี้ญาติพี่น้องที่เสียชีวิตไปแล้วรวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรก็ได้รับบุญจากท่านอย่างมากด้วยค่ะ

ความประทับใจของดิฉันอีกข้อหนึ่งก็คือในช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี แต่ทุกท่านที่ทำงานทุกอาชีพก็ได้สละทรัพย์โอนปัจจัยร่วมบุญกันมา แล้วยังมาต่อยอดบุญกันที่วัดอีก ซึ่งการทำบุญต่อยอดกันที่วัดอีกอย่างนี้ ดิฉันพูดได้เลยค่ะว่าทุกท่านจะร่ำรวยแล้วร่ำรวยอีก เป็นการต่อยอดความร่ำรวยทรัพย์ทุกภพทุกชาติทั้งในชาตินี้และชาติต่อ ๆ ไปค่ะ เพราะท่านได้ทำบุญแล้วก็ทำบุญอีกค่ะ เนื่องจากผู้มาร่วมบุญได้เห็นสภาพศาลาการเปรียญแล้วก็เกิดมีจิตเป็นกุศล ต้องการทำบุญเพิ่มเติมอีก และดิฉันเองก็เป็นเช่นนั้นค่ะ โดยดิฉันได้ทำบุญกองทุนแล้วก็มาต่อยอดที่วัดด้วยเช่นกันค่ะ จึงขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ

เป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าประทับใจมากที่ยอดเงินทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างศาลาการเปรียญ ซึ่งเป็นยอดเงินจากการโอนเข้ามาในบัญชีและเงินที่ต่อยอดบุญกันที่วัด เป็นเงิน 610,955.- บาท รวมทั้งเงินที่ชาวบ้านบริจาคร่วมบุญด้วย 26,655.- บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 637,610.- บาทค่ะ รวมทั้ง ข้าวของสังฆทานอีกเป็นจำนวนมากที่ดิฉันได้นำเงินของทุกท่านไปหาซื้อมาโดยมุ่งเน้นสิ่งของใช้จำเป็นของพระสงฆ์ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีผู้บริจาคสังฆทานรถเข็นเพื่อให้หลวงตาเจ้าอาวาสได้ใช้นั่งได้รับความสะดวกสบาย ดิฉันเห็นแล้วปิติใจมากค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้บริจาคด้วยค่ะ

หลังจากทอดผ้าป่าเสร็จเรียบร้อยแล้วพักรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งดิฉันประทับใจมากที่ชาวบ้านได้นำอาหารคาวหวาน โดยเฉพาะขนมโบราณ อาทิเช่น ขนมเปียกปูนเสียบไม้ ขนมตาล และขนมลอดช่องนำมาให้ดิฉันรับประทานค่ะ ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสและเชื้อเชิญให้รับประทานให้อิ่ม และมีสายตาพวกเด็ก ๆ และชาวบ้านทั้งชายหญิงมาแอบมอง โดยมาขอถ่ายรูปกับดิฉัน ซึ่งทำให้ดิฉันปลื้มปิติใจมากที่ได้เห็นสายตาแห่งมิตรภาพที่ดีค่ะ ดิฉันจึงไม่ได้รับประทานอาหารอะไรมากนักเพราะอิ่มสุขอิ่มบุญ และยังต้องมีกิจกรรมทาสีที่รอคอยอยู่อีก จำเป็นต้องทำเวลาด้วยค่ะ

กิจกรรมทาสีกำแพงรอบโบสถ์ ประทับใจมากค่ะ เมื่อดิฉันมาถึงก็ได้เห็นทุกคนกำลังทาสีกันอย่างตั้งใจ และทาสีกันได้เร็วมากค่ะ พร้อมนี้ได้ประทับใจชาวบ้านด้วยค่ะที่ได้ช่วยกันขัดถูปรับพื้นผิวกำแพง เพราะก่อนหน้านี้ไม่แต่คราบเชื้อราที่ดำคล้ำไม่สวยงามเลย และที่รอบนอกก็ได้ตัดหญ้าที่บริเวณด้านนอกรั้วกำแพงเพื่อให้ทุกท่านได้ทาสีกันได้อย่างสะดวกค่ะ เมื่อทุกคนทาสีเสร็จแล้วดิฉันได้หันไปมองได้มองเห็นในโลกทิพย์ว่า ที่กำแพงมีแสงบุญสีนวลทองอร่ามสวยงามมาก และในโลกมนุษย์มองเห็นในตาเนื้อเป็นสีครีมสวยงามปกติค่ะ ซึ่งทุกท่านก็ทาสีกำแพงได้สวยงามสว่างตาน่าชื่นชมค่ะ

ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ซื้อขันทาสีใช้แล้วที่ทางทีมงานได้ขัดล้างมาเป็นอย่างดีเพื่อนำมาจำหน่ายในราคาใบละ 10 บาท และบางท่านก็ไม่ได้รับเงินทอน บางท่านก็ซื้อ 10 บาท จ่ายเงิน 100 บาท เงินบริจาควัดต่อไปอีก รวมทั้ง เงินที่ได้จากการขายแปรงทาสี ดิฉันขอขอบคุณและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ เพราะเงินรายได้ทุกบาททุกสตางค์รวมทั้งสีที่เหลือได้นำถวายเป็นสังฆทานให้กับเจ้าอาวาสอีกครั้งหนึ่งค่ะ ซึ่งได้ยอดจากการจำหน่ายและมีผู้ร่วมบุญมาในวันนั้นเป็นเงิน 2 หมื่นกว่าบาทค่ะ

การทำความดีด้วยแรงกายแรงใจด้วยมือทั้งสองของทุกท่านนี้ ก่อนถวายสังฆทานดิฉันได้อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสด็จมา โดยเหล่าเทวดานางฟ้าได้ส่องแว่นแก้วมองลงมา และอนุโมทาสาธุการกับทุกท่านด้วยค่ะ รวมทั้ง เทวดารักษาหลวงพ่อโตที่เป็นพระประธานภายในโบสถ์ 5 องค์ ได้มาโมทนาบุญด้วยค่ะ ท่านจะสังเกตได้ว่ามีลมพัดเย็นและแดดร่มอย่างรวดเร็ว ซึ่งในตอนนั้นดิฉันรู้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่า แดดจะร่มจึงบอกลูกศิษย์ว่าไม่ต้องกางร่มแล้วค่ะ กรรมการวัดมาเล่าว่า ก่อนหน้านี้มีแดดเปรี้ยงมาหลายวันแล้วทำไมวันนี้แสงแดดไม่ร้อนเหมือนวันก่อน ๆ ที่พวกเขามาชำระล้างกำแพงนี้แปลกมากจริง ๆ ดิฉันก็ไม่ได้บอกอะไรเขาไปค่ะ

ก่อนเดินทางกลับชาวบ้านมาขอบคุณและบอกให้คณะเสบียงสวรรค์แวะมาเยี่ยมเยียนมาดูศาลาการเปรียญที่สร้างสำเร็จแล้ว ซึ่งหลวงพ่อได้ประกาศไว้ว่าจะสร้างศาลาให้สำเร็จโดยเร็วตามเจตนาบุญของคณะเสบียงสวรรค์ โดยขอให้มาชมกันด้วยค่ะ


วัดที่ 2


ที่วัดแห่งนี้ดิฉันได้นำทุกท่านไปกราบไหว้พระนอนองค์ใหญ่ และที่ภายในวิหารนี้หากท่านมองไปที่เพดานด้านบนจะมองเห็นรอยรั่วซึมที่เกิดจากน้ำฝน และบางจุดก็จะเห็นกะละมังตั้งวางไว้ที่พื้นเพื่อใช้รองน้ำฝนค่ะ สถานที่ภายในค่อนข้างคับแคบเพราะคณะเสบียงสวรรค์กว่า 600 คน ซึ่งในการนี้ได้เรี่ยไร่เงินบริจาคกันที่วัดแต่ไม่ได้นับเงินและประมาณการได้ว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อยนับเป็นเงินหลายหมื่นบาทค่ะ เมื่อทุกท่านพร้อมแล้ว ดิฉันได้นำถวายสังฆทานที่ได้จัดเตรียมมารวมทั้งสังฆทานของท่านที่ได้นำมาร่วมด้วย ซึ่งทุกท่านได้รับอานิสงส์ของบุญโดยพร้อมเพรียงกันค่ะ

ในปริศนาธรรมของดิฉันนั้น การที่ทุกท่านได้ไปทำบุญที่อำเภอท่าใหม่ ทำบุญกับพระองค์ใหญ่ ท่านก็จะได้รับแต่สิ่งดีดีที่ยิ่งใหญ่กลับไปค่ะ การไปทำบุญที่อำเภอปากช่อง ท่านก็จะได้พบกับช่องทางใหม่ ๆ การที่ไปทำบุญที่อำเภอบ้านค่าย ก็คือบ้านของทุกท่า นต่อไปก็จะมีช่องทางที่ดีในช่องทางใหม่ที่บ้านของทุกท่าน และแสดงว่าบุญที่ทุกท่านได้ทำสำเร็จแล้วนี้เป็นบุญที่ดีมีอานิสงส์บุญมากแล้วค่ะ การทำบุญที่ทุกท่านไปทำยังวัดต่าง ๆ ถึงแม้ว่า จะได้เป็นเงินหมื่นหรือเป็นเงินแสน  ยอดเงินไม่เป็นเงินล้าน แต่สิ่งที่ดีงามย่อมมีแก่ทุกท่านค่ะ

ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมบุญทอดผ้าป่าสามัคคีกับคณะเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 81 ในวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2563 ตอน “ ผ้าป่าขัดจิต ทาสีเกิดกุศล ” เพื่อร่วมสร้างศาลาการเปรียญ ทาสีกำแพงรอบโบสถ์ และทำบุญสร้างวิหารทานวัตถุทานต่าง ๆ ซึ่งเป็นบุญที่ทำสำเร็จแล้วนี้ ดิฉันขอให้ทุกท่านผู้ร่วมบุญจงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย อันตรายอื่นใดอย่าได้เกิด ขอให้มีแต่สิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต และคิดหวังสิ่งประการใดขอให้สมหวังตามที่ตั้งใจค่ะ


อาจารย์เจน ญาณทิพย์

จี๊ดจ๊าด

สวัสดีค่ะ จี๊ดจ๊าดขอมาเล่าเรื่องความประทับใจที่ได้เดินทางไปทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีกับคณะเสบียงสวรรค์ ครั้งที่ 81 วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2563 ตอน “ ผ้าป่าขัดจิต ทาสีเกิดกุศล ” โดยอาจารย์เจน ญาณทิพย์เป็นผู้นำบุญในครั้งนี้ ซึ่งครั้งนี้เป็น โครงการเคลือบสนิม ครั้งที่ 22 แล้วนะคะ การที่อาจารย์เจนได้ตั้งชื่อโครงการนี้ขึ้นมา บางท่านก็ไม่ทราบ ขอบอกนะคะ คือเป็นโครงการขัดเกลากิเลส ขจัดมันออกไปจากตัวของเราค่ะ เราทำด้วยสองมือของเราเองครั้งนี้ก็เป็นการทาสีกำแพงรอบโบสถ์ค่ะ ซึ่งบุญที่ทุกท่านทำนี้ได้สำเร็จแล้ว ดีใจมากสุดสุดเลยค่ะ

วัดที่ 1
คณะบุญเสบียงสวรรค์ได้เดินทางออกจากจุดนัดพบกันตั้งแต่เช้าค่ะ เพราะเส้นทางที่จะไปนี้หนทางค่อนข้างไกลมากสักหน่อยจะต้องทำเวลาเพื่อให้ทันกับเวลาที่ได้นัดหมายไว้กับทางวัดค่ะ เมื่อเดินทางไปถึงวัดก็ได้เห็นพวกเด็กจำนวนมาก และโรงทานที่ชาวบ้านพร้อมใจกันตั้งโรงทานนับสิบโรงทานประมาณ 30 โรงทาน โอ้โห..ช่างมากมายจริง ๆ ค่ะ เพราะชาวบ้านเขาตั้งใจ เขาดีใจที่คณะเสบียงสวรรค์จากกรุงเทพฯ จะมาทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสร้างศาลาการเปรียญที่มีสภาพชำรุดผุพังเสียหาย แต่ก็เป็นเพียงศาลาเดียวเท่านั้นที่ชาวบ้านได้ใช้เป็นสถานที่ทำบุญกุศลของพวกเขาค่ะ จี๊ดได้เห็นสีหน้าของชาวบ้านที่มีแต่รอยยิ้มดีใจและพวกเด็ก ๆ ที่ได้มาให้การต้อนรับคณะเสบียงสวรรค์และได้เห็นเป็นประจักษ์พยานยืนยันได้ว่าคณะเสบียงสวรรค์ จำนวนมากกว่า 600 คน ได้เดินทางมาทำบุญที่วัดกันจริงอย่างที่ได้แจ้งไว้กับหลวงตาเจ้าอาวาสค่ะ ซึ่งไม่ว่าอาจารย์เจนจะเดินทางไปทางไหน ก็จะมีชาวบ้านมองดูอย่างชื่นชมจนกระทั่งอาจารย์เจนเดินขึ้นไปบนศาลาค่ะ

เมื่อเข้าไปภายในศาลาการเปรียญที่มีสภาพเล็กและคับแคบมาก แต่ทุกคนก็พยายามที่จะนั่งแทรกตัวกันจนแทบไม่มีที่ทางจะเดินกันนะคะ ซึ่งจี๊ดก็เห็นว่า ทุกคนก็มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันด้วยดีค่ะ โดยทางวัดก็ได้อำนวยความสะดวกด้วยการกางเต้นท์และจัดเก้าอี้นั่งที่ด้านล่างบริเวณหน้าศาลาการเปรียญค่ะ นอกจากคณะเสบียงสวรรค์ที่เดินทางกันมาเป็นจำนวนมากกว่า 600 คน แล้วยังมีชาวบ้านประมาณ 300 คน เพราะจากปากต่อปากที่คณะกรรมการวัดได้แจ้งแก่ชาวบ้านทำให้เป็นที่ร่ำลือระบือไกลในเรื่องบุญทอดผ้าป่าครั้งนี้ ทำให้ทุกคนต่างพร้อมใจกันมาร่วมงานบุญในครั้งนี้กันเป็นจำนวนมากค่ะ จี๊ดไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะว่า ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศอย่างนี้ แต่ทุกคนก็มีใจใฝ่บุญกุศลยอดเยี่ยมจริง ๆ ค่ะ เป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากค่ะ

เจ้าอาวาสและพระอันดับรวม 13 รูป นั่งอยู่บนแท่นอาสนะกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาจารย์เจนได้ดำเนินการทำพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างศาลาการเปรียญค่ะ ซึ่งทุกท่านที่ได้เดินทางไปทำบุญกันที่วัดก็คงได้เห็นสภาพของศาลาการเปรียญกันแล้วนะค่ะ เพราะตอนที่จี๊ดเดินเรี่ยไรปัจจัยเงินต่อยอดผ้าป่าอยู่นั้น จี๊ดได้แหงนหน้าขึ้นไปมองที่หลังคาหน้าจั่วที่บริเวณด้านหน้าศาลาก็ได้เห็นซากไม้เก่า ๆ ที่เป็นคานไม้ส่วนกระเบื้องหลังคาหายไปหลายแผ่นคือไม่มีสักแผ่นที่ชายหลังคาด้านหน้านั้นค่ะ คือเรียกได้ว่า ถ้าจะซ่อมแซมก็เหมือนกับยกหลังคาทั้งหมดออกไป หรือคานหลังคาทั้งหมดยกออกไป ข้างฝาก็ไม่มีเพราะมีดีก็ที่พื้นศาลาอย่างเดียวค่ะ

ทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างศาลาการเปรียญได้ยอดเงิน 6 แสนกว่าบาท อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะทุกท่าน ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ร่วมบุญบริจาคมาด้วยประมาณ 2 หมื่นกว่าบาทค่ะ สำหรับข้าวของสังฆทานไม่ต้องห่วงนะคะ พวกเราได้ร้องคำว่า สาธุ สาธุ สาธุ กันยืดยาวไม่ขาดสายเชียวค่ะ

ญาติพี่น้องที่เสียชีวิตไปแล้ว และเจ้ากรรมนายเวรของทุกท่านได้มารับบุญกุศลกันเป็นจำนวนมากค่ะ โดยอาจารย์เจนเล่าว่า วิญญาณบางตนอยู่ในนรกไม่สามารถมารับบุญที่วัดได้ก็ได้พนมมือรับบุญกับเขาด้วยค่ะ เพราะบุญของเราใหญ่ บุญของเราใหญ่ด้วยพลังผู้คนจำนวนมากคือเหมือนกับน้ำหยดเดียวมารวมกันเป็นน้ำหลายหยดและมารวมกันมาก ๆ ก็เป็นบ่อน้ำบ่อใหญ่ค่ะ ซึ่งบางท่านก็ไม่เข้าใจ และไม่ชอบการเดินทางไปกับคนหมู่มาก แต่เป็นเพราะท่านไม่เข้าใจในเรื่องนี้เพราะไม่มีตาทิพย์ก็ยากที่จะบอกเล่าให้เข้าใจได้ค่ะ แต่จี๊ดก็เข้าใจนะค่ะ มีเคล็ดลับมาฝาก ถ้าหากเราไม่ชอบคนมากก็อย่าไปสนใจเขาค่ะ เราก็สนใจแต่บุญกุศลที่เราจะทำอยู่ตรงหน้านั่นแหละค่ะ บางคนก็มาบอกว่า สมัยก่อนไม่อยากมาทำบุญกับคนเยอะ ๆ กลัวโน่นนี่ แต่พอมาทำบุญด้วยก็ไม่เห็นมีอะไร เห็นแต่ความสุขใจและความปิติใจเพราะได้เห็นโดยสายตาของตนเอง เกิดขนลุกตื้นตันใจค่ะ

น้อง ๆ ทีมงานที่ทำงานอยู่ด้านล่างมาเล่าให้ฟังว่า ตอนที่อาจารย์เจนประกาศยอดเงินทอดผ้าป่านั้น ชาวบ้านที่นั่งอยู่ด้านล่างบางคนก็พนมมือสาธุดีใจ บางคนก็ปรบมือดีใจ เพราะยอดเงินนี้นี่เองที่ทำให้ชาวบ้านดีใจกันมาก พวกเขาตั้งเป้าหมายสร้างซ่อมแซมศาลาการเปรียญที่งบประมาณ 4 แสนบาท แต่ยอดเงินที่ได้ 6 แสนกว่าบาท ไม่น้อยเลยค่ะ เพราะเหนือความคาดหมายที่ชาวบ้านไม่คิดว่าจะถึง 4 แสนบาท แต่ปรากฏว่า ได้ยอดเงินมากเกินกว่านั้นมากค่ะ ซึ่งเงินส่วนที่เหลือนี้จะได้ไปทำนุบำรุงศาลาหลังนี้ให้ดียิ่งขึ้นและอาจสวยงามมากด้วยค่ะ ชาวบ้านดีใจพวกเราก็ดีใจด้วยกันจริงมั้ยค่ะ ดังนั้น ก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วย ประทับใจจริง ๆ ค่ะ

อาจารย์เจนพูดให้ฟังในศาลา จำกันได้มั้ยค่ะ ที่ว่าการที่ทุกท่านได้ร่วมบุญกัน มีมากก็บริจาคมาก มีน้อยก็บริจาคตามกำลังรวมทั้งท่านผู้บริจาคที่ไม่ได้เดินทางมาด้วยได้ และด้วยพลังบุญของทุกท่านที่เดินทางมา 600 คน จนทำให้สามารถสร้างบุญกุศลที่ตั้งใจอย่างเช่นร่วมสร้างศาลาการเปรียญที่ตั้งเป้าหมายบุญนั้นแล้ว และบุญนั้นก็พลันสำเร็จได้อย่างฉับพลันค่ะ ถ้าหากทุกท่านมาทำบุญหรือร่วมบุญกันน้อยนิด บุญจะสำเร็จไม่ได้ค่ะ


หลังจากทอดผ้าป่าเสร็จเรียบร้อยแล้วทุกคนก็พักรับประทานอาหารกลางวันกันค่ะ ซึ่งทางวัดได้แจ้งมายังอาจารย์เจนก่อนหน้านี้แล้วว่า ไม่ต้องจัดเตรียมอาหารกลางวัน ทางวัดมีโรงทาน 30 โรงทาน ไม่ต้องจัดหามาเลย แต่ทางอาจารย์เจนก็ยืนยันว่า ทางอาจารย์เจนได้จัดข้าวกล่องมาสำหรับทุกคนแล้ว 600 กล่อง แต่ก็ไม่เป็นไรนะเพราะคนกรุงเทพฯ ก็ชอบรับประทานอาหารของชาวบ้านเหมือนกันค่ะ  ซึ่งก็จริงนะค่ะ จี๊ดได้เห็นทุกคนให้ความสนใจข้าวหม้อแกงหม้อและขนมหวานของชาวบ้านอยู่ไม่น้อยเชียวค่ะ

กิจกรรมทาสีกำแพงรอบโบสถ์ ประทับใจมากจริง ๆ ค่ะ ก่อนทาสีกับหลังทาสี คนละเรื่องเลยนะคะ มีความแตกต่างกันมาก ทุกท่านช่วยกันแบบยอดเยี่ยมเพราะทุกท่านตั้งใจกันมากค่ะ จี๊ดได้รู้มาว่าชาวบ้านมาช่วยกันขัดล้างกำแพง และตัดหญ้าให้ทุกท่านได้สามารถลงมือทาสีได้เลยค่ะ ซึ่งอาจารย์เจนเล่าให้จี๊ดฟังว่า  ในโลกทิพย์นั้น กำแพงที่ทุกท่านได้ทาสีแล้วนี้มีแสงสีนวลทองอร่ามสวยงามมากกว่ากำแพงสีครีมที่ทุกท่านมองเห็นในโลกมนุษย์เสียอีกค่ะ นอกกจากนี้ก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ซื้อขันทาสีใช้แล้ว โดยทางทีมงานได้นำมาจำหน่ายราคาใบละ 10 บาท จี๊ดเป็นคนจำหน่ายก็ซาบซึ้งใจมาก และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ไม่ขอรับเงิน บางท่านชำระเงินมากกว่าราคาขันที่จำหน่ายถึง 10 เท่า รวมทั้งแปรงทาสีที่ทุกท่านได้ซื้อมาทาสีด้วยค่ะ ซึ่งเงินรายได้ทุกบาททุกสตางค์นำถวายเป็นสังฆทานให้กับวัดค่ะ นับได้เป็นเงิน 2 หมื่นกว่าบาท อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ เพราะทุกท่านนอกกจากบริจาคทรัพย์แล้วยังสละเวลาอันมีค่าของท่านมาทำความดีด้วยสองมือของทุกท่านค่ะ

อาจารย์เจนเล่าให้จี๊ดฟังว่า เทวดาที่รักษาหลวงพ่อโตที่เป็นพระประธานภายในโบสถ์ มีจำนวน 5 องค์ ท่านได้เสด็จมาอนุโมทนาบุญกับพวกเราด้วยค่ะ ถ้าทุกท่านอยู่ในเวลานั้นก็จะเห็นเหตุการณ์อัศจรรย์นี้ เพราะตอนที่อาจารย์เจนกล่าวอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่นั้น จี๊ดเห็นอาจารย์เจนพูดกับลูกศิษย์ว่า ไม่ต้องกางร่มแล้ว สักพักแสงแดดก็หลบสงบลง และมีลมเย็นพัดอ่อน ๆ มีใบไม้ไหวเล็กน้อยที่ต้นไม้โดยรอบนอกกำแพง ทั้ง ๆ ที่ในตอนแรกมีแสงแดดจ้าพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามพวกชาวบ้านก็พูดว่า ตอนที่มาขัดล้างกำแพง มีแสงแดดจ้าร้อนมาก ทำไมมาวันนี้แสงแดดไม่ร้อนมากเท่าวันก่อนแปลกมากจริง ๆ

เมื่อทาสีเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว จี๊ดกับคุณรุ้งก็เดินออกมานอกกำแพงโบสถ์ น้อง ๆ ทีมงานกำลังจัดเก็บข้าวของอยู่นั้น ก็ได้มีชาวบ้านที่เป็นผู้หญิง 4 คน ทุกคนแต่งตัวสุภาพแต่งผ้าไทยที่คิดว่าสวยที่สุดขอเขาแล้วมาขอถ่ายรูปกับทีมงานเพื่อเป็นที่ระลึกค่ะ พวกเขาบอกว่าดีใจมากที่จะได้ศาลาการเปรียญหลังใหม่ และดีใจมากดูสิกำแพงสวยอะไรขนาดนี้สวยงามมาก พร้อมนี้ก็กล่าว ขอบคุณแล้ว ขอบคุณอีก ขอบคุณไม่ขาดปากเลยค่ะ พวกเธอกล่าวว่า ขอบคุณมากมากที่มาช่วยเหลือวัดของเรา พวกเราได้มองเห็นกำแพงเก่า ๆ ทุกครั้งที่มาทำบุญที่โบสถ์หลังนี้ พวกเราเห็นกันทุกครั้งที่มาทำบุญที่โบสถ์เพราะมากันเป็นประจำแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง พวกเราไม่มีเงินกันมากพอที่จะช่วยทางวัดได้เลย จึงมาขอบคุณ และอย่าลืมแวะมาดูศาลาการเปรียญกันนะจะสร้างให้สวยงามทำให้ดีเลยค่ะ แหมพอจี๊ดฟังแล้วก็ชื่นใจค่ะ จี๊ดจึงนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อทุกท่านจะได้ชื่นใจอิ่มบุญไปด้วยกันค่ะ



วัดที่ 2


อาจารย์เจนได้นำพาคณะเสบียงสวรรค์มากราบไหว้พระนอนองค์ใหญ่ ถวายสังฆทานเครื่องยารักษาโรค และตู้ยา ทั้งนี้ ได้เรี่ยไรเงินบริจาคกันที่วัดเลยค่ะ เพราะที่วัดแห่งนี้มาเพื่อกราบสักการะพระนอนองค์ใหญ่เพื่อเป็นสิริมงคล แต่เมื่อมาถึงวัดแล้วก็ได้ร่วมบุญสังฆทานเป็นปัจจัยเงินถวายวัดไปด้วยเลย เพื่อทำนุบำรุงสถานที่ด้วยค่ะ เพราะที่หลังคาเพดานด้านบนศาลานี้มีร่องรอยของน้ำรั่วซึมจากฝนฟ้าที่ตกลงมาค่ะ ที่พื้นด้านล่างก็มีกะละมังเพื่อรองรับน้ำฝนที่อาจรั่วลงมาด้วยค่ะ  

อาจารย์เจนเล่าให้จี๊ดฟังว่า ในยุคสมัยในรัชกาลต่าง ๆ ท่านได้สร้างโบสถ์วิหาร และมีการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาอารามจนถึงทุกวันนี้วัตถุทานเหล่านั้นยังอยู่จนชั่วลูกชั่วหลาน ซึ่งท่านที่ได้สร้างวัตถุทานวิหารทานต่าง ๆ นั้น จะได้รับบุญไป 7 ชั่วโคตร ครั้นเมื่อเราได้ตายไปจะเป็นรูปนามใดก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นเทวดา นางฟ้า หรือมนุษย์ บุญกุศลก็จะติดตามไปด้วยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น สำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณอาจารย์เจน ญาณทิพย์ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยบุญที่ทุกท่านตั้งใจร่วมบุญสร้างกันมานั้นเมื่อมีการเปิดปฏิบัติธรรม สถานที่แห่งนี้ก็จะมีแสงบุญมากเป็นแผ่นดินทองแผ่นดินธรรม ซึ่งอาจารย์เจนได้เห็นภาพอนาคตล่วงหน้าว่า สำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณอาจารย์เจน ญาณทิพย์ ก็จะเป็นสถานทางธรรมที่สำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ค่ะ

ข้อคิด อาจารย์เจนสอนว่า การสร้างวัตถุทานก็ยังไม่พ้นทุกข์เพราะเราไม่มีการเจริญภาวนาเป็นนิจค่ะ คนเราต้องมีการทำทาน ถือศีล และเจริญสติภาวนา เมื่อคนมีศีลก็จะเกรงกลัวต่อบาป เมื่อเกรงกลัวต่อบาปก็อยากจะทำความดีค่ะ

กิจกรรมบุญได้สำเร็จแล้วทั้งสองวัดแล้วนะคะ จี๊ดก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ ด้วยผลบุญที่ทำนั้นได้สำเร็จลงแล้ว ซึ่งประทับใจและภูมิใจในผู้นำบุญอย่างอาจารย์เจน และผู้ร่วมบุญทุกท่านที่ได้มีส่วนให้งานบุญนี้พลันสำเร็จค่ะ


จี๊ดจ๊าด

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

admin

admin

ARHENG

สาธุ อนุโมทนาบุญครับ

memo

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ
ทริปนี้เราก็ได้สะสมบุญโดยการทาสีกำแพงโบสถ์ ซึ่งก็เหมือนเดิมก็คือทุกคนพร้อมใจกันทาสีเสร็จในเวลาอัน
รวดเร็ว พอเห็นสีที่พวกเราร่วมกันทา
เสร็จแล้วก็ปลื้มใจมากมากเลยค่ะ
และอีกบุญที่ปลื้มใจมากก็คือได้ซื้อ
ขันทาสี เหมือนเราได้เก็บสะสมบุญ
ได้สองต่อเลยค่ะ และเราก็ยังมีโอ
กาสได้ไปกราบพระนอนอีก ก็ต้อง
บอกว่าดีใจทุกครั้งที่ได้มาทำบุญเลยค่ะ และก็จะสร้างโอกาสให้ตัวเองใน
การสะสมบุญต่อไปเรื่อยเรื่อยเลยค่ะ

momtobe

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ