ร่วมอนุโมทนาบุญ ทริปลี้ลับ 13 เดินตามรอยเท้าพระพุทธองค์

เจนญาณทิพย์

สวัสดีค่ะ ดิฉันอาจารย์เจน ญาณทิพย์  มีความประทับใจและปิติสุขใจในบุญกุศลที่ทุกท่านได้ร่วมทำบุญกับทริป ลี้ลับ  13 เมื่อวันที่ 12-15 พฤษภาคม 2565  ซึ่งด้วยบุญที่ทำสำเร็จแล้วนี้เป็นบุญแห่งความภาคภูมิใจของทั้งดิฉันที่เป็นผู้นำบุญและเป็นของทุกท่านที่ได้ร่วมทำบุญกันมาในครั้งนี้ด้วยกันนะคะ ดิฉันดีใจมากค่ะที่ได้นำทุกท่านไปทำบุญใหญ่ที่มีอานิสงส์บุญมากและเป็นบุญที่หลากหลายค่ะ ดังนั้น ดิฉันจึงขอสรุปบุญที่ทุกท่านได้ทำแล้วและได้อานิสงส์บุญที่ยิ่งใหญ่นี้แล้ว ดังนี้ค่ะ

สถานที่ที่ 1
วัดแห่งนี้เป็นวัดป่า ตามที่ดิฉันได้เคยบอกกล่าวเอาไว้ว่าเป็นวัดสายวัดป่าที่มีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่มีพระสงฆ์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ วัดนี้มีสถานที่ที่มีความสงบเงียบและที่มีความเป็นธรรมชาติมากค่ะ พระสงฆ์ท่านก็มีความเป็นอยู่กันอย่างเรียบง่ายและมีสิ่งปลูกสร้างของวัดวาอารามไม่มากนักค่ะ ซึ่งจากสิ่งที่ทุกท่านได้เห็นคือที่วัดแห่งนี้ไม่ได้มีสิ่งปลูกสร้างอะไร เพราะท่านอยู่อย่างสมถะและพอเพียงที่จำเป็นของสงฆ์แล้วค่ะ

ดิฉันได้นำคณะเดินทางทั้งหมดร่วมถวายภัตตาหารเช้า โดยแวะซื้อจากร้านอาหารในจังหวัดกระบี่ และได้ซื้อผลไม้จากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นผลไม้ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ คุณภาพดีรสอร่อยเพื่อนำมาถวายในเช้าวันนั้นค่ะ ซึ่งภัตตาหารและผลไม้ก็เป็นปัจจัยเงินของทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกันมาทั้งที่เป็นเงินกองทุนและตามกำลังศรัทธา โดยจัดแบ่งส่วนออกมาส่วนหนึ่ง เพื่อทุกท่านจะได้รับอานิสงส์แห่งบุญนี้ด้วยกันค่ะ  ในเช้าวันนั้นคณะเสบียงสวรรค์ ลี้ลับ 13 ของเราและชาวบ้านทั้งชายหญิงก็ได้นำอาหารที่ดิฉันได้เห็นแล้วว่า จัดมาเป็นอย่างดี มีเป็นจำนวนมากมายสุดลูกหูลูกตาได้ร่วมกันลำเลียงถวายคณะสงฆ์ที่มีประมาณ 20 กว่ารูป จึงเป็นภาพความประทับใจของดิฉันและคณะเดินทางค่ะ

มีสิ่งหนึ่งที่ดิฉันรู้สึกตกใจมากที่ได้พบกับพระสงฆ์รูปหนึ่งท่านเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทางภาคใต้ที่มีความสำคัญมากและเป็นที่รู้จักของผู้คนภาคใต้นี้ ซึ่งท่านก็รู้จักดิฉันเป็นอย่างดี ท่านได้รับนิมนต์มาที่วัดนี้และได้มาพบกับดิฉันที่วัดนี้ด้วยความบังเอิญค่ะ  ซึ่งหลวงพ่อเองท่านก็ดีใจ ท่านยิ้มกับดิฉันและดิฉันก็ได้ยิ้มตอบท่านไปด้วยอาการที่สงบ เพื่อให้ท่านรับรู้ว่าดิฉันได้รับรู้แล้วว่าท่านรับนิมนต์มาวัดนี้ด้วยเช่นกันค่ะ  ซึ่งหลวงพ่อท่านได้ถามดิฉันว่า มากันกี่คน ดิฉันก็กราบเรียนท่านไปว่า 121 คน แต่ไม่นับรวมคนขับรถนะคะท่าน ซึ่งท่านก็ยิ้มยินดีและอนุโมทนาบุญกับดิฉันที่นำพาผู้คนมาทำบุญที่ทางภาคใต้นี้ด้วยค่ะ

ด้วยที่วัดนี้ไม่มีการก่อสร้างหรือบูรณะเสนาสนะอะไร ดิฉันจึงได้ถวายปัจจัยเงินจำนวนเงินหมื่นกว่าบาท และนำถวายเป็นสังฆทานรวมทั้งข้าวของบริวารสังฆทานที่ดิฉันนำมา และรวมกับสังฆทานที่คณะเดินทางได้นำถวายด้วยในครั้งนี้ ซึ่งก็มีเป็นจำนวนมากค่ะ  แต่ทั้งนี้ ดิฉันได้เรี่ยไรบอกบุญกับคณะที่เดินทางมาด้วยกันในวันนั้น โดยดิฉันได้แจ้งให้คณะเดินทางรับทราบว่า ขอรับปัจจัยบริจาคร่วมบูรณะเสนาสนะต่าง ๆ เพื่อถวายให้แก่หลวงพ่อท่านนี้ เพราะท่านมีเมตตามากชอบสร้างบุญกุศลให้กับโรงพยาบาล ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ รวมทั้งช่วยเหลือโรงเรียนในชนบทด้วยค่ะ ซึ่งได้ยอดเงินจากการขอรับบริจาคเพิ่มเติมให้กับหลวงพ่อรูปนี้ได้เงินประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท เมื่อดิฉันนำเงินจำนวนนี้ถวายเป็นสังฆทานปัจจัยเงินนี้ให้แก่หลวงพ่อ โดยหลวงพ่อท่านได้ขอนำเงินทั้งหมดนี้ยกถวายให้กับหลวงพ่อเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้ เพราะหลวงพ่อวัดนี้ท่านก็ชอบช่วยเหลือซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาล และสร้างโรงเรียนด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งทำให้ดิฉันมีความสุขในบุญกุศลที่พวกเราทั้งหลายได้ทำด้วยกันในครั้งนี้ค่ะ ดังนั้น ที่วัดแห่งแรกก็ทำให้ดิฉันประทับใจมากและทุกท่านผู้ร่วมบุญก็ได้รับอานิสงส์บุญนี้ด้วยกันแล้ว ขออนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ



สถานที่ที่ 2
ที่วัดแห่งนี้ คณะเสบียงสวรรค์มาทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อร่วมสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่มีขนาดหน้าตัก 9 เมตร ภาพที่ดิฉันเห็นนี้พระเดชพระคุณเจ้าอาวาสท่านเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน ท่านมีความเมตตามาก ดิฉันก็ตกใจที่พบกับท่านเพราะไม่คิดว่าท่านจะมารับผ้าป่าสามัคคีของคณะเสบียงสวรรค์ เพราะดิฉันทราบว่า หลวงพ่อท่านอาพาธมากท่านเป็นโรคไต และท่านต้องไปฟอกไตที่โรงพยาบาลเป็นประจำค่ะ ซึ่งที่จริงแล้วท่านจะต้องพักผ่อนแต่ท่านก็มารับคณะเสบียงสวรรค์ โดยในวันนั้นท่านมารอคณะเสบียงสวรรค์ตั้งแต่เช้าทำให้ดิฉันรู้สึกปิติสุขใจและประทับใจมากค่ะ

ดิฉันได้นำทุกท่านทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ หน้าตัก 9 เมตร ด้วยปัจจัยเงินที่ดิฉันได้จัดสรรไว้แล้วรวมทั้งที่ได้ต่อยอดกันอีกที่วัด ได้ปัจจัยเงินประมาณ 2 แสนกว่าบาทค่ะ ดิฉันได้นำจบอธิษฐานพอสังเขปเพราะเกรงใจหลวงพ่อท่านที่อาพาธหนักแต่ได้มีเมตตารับคณะทำบุญของพวกเราค่ะ  ซึ่งดิฉันก็ได้ดำเนินการอย่างกระชับเพื่อหลวงพ่อท่านจะได้กลับไปพักผ่อนค่ะ

ด้วยบุญกุศลนี้ทุกท่านได้มีส่วนในบุญกุศลร่วมสร้างพระใหญ่ที่มีอานิสงส์บุญมากและผู้มีส่วนร่วมในบุญกุศลนี้จะได้ระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม และคุณพระสงฆ์ ผู้คนเข้าวัดกราบไหว้พระ ได้ศึกษาพระธรรมก็จะได้มีดวงตาเห็นธรรมด้วยค่ะ
เมื่อกล่าวคำถวายทอดผ้าป่าสามัคคีเรียบร้อยแล้ว คณะสงฆ์ท่านให้พร กรวดน้ำแล้ว หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านได้มีเมตตาแจกพระปิดตาและสายสิญจน์ ท่านไม่ได้กล่าวอะไร เพราะท่านปิติใจที่ได้เห็นคนกรุงเทพฯ มาทำบุญและทำบุญกันด้วยอาการที่สำรวมมีความเงียบสงบไม่วุ่นวายค่ะ เพราะหลวงพ่อท่านไม่ค่อยได้พบเจอกัน เพราะที่ผ่านมาก็มีทางวัดมาชื่นชมกับคณะบุญเสบียงสวรรค์และดิฉันก็มีความภูมิใจมากที่ทุกท่านมีความพร้อมเพรียง มีความสามัคคีในการทำบุญแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกันค่ะ สิ่งเหล่านี้ทำให้ดิฉันมีความสุขและต้องการนำพาทุกท่านไปทำบุญอย่างไม่ย่อท้อเลยค่ะ

ชาวบ้านได้ให้การต้อนรับเลี้ยงโรงทานเป็นอาหารภาคใต้ที่อร่อยมาก และมีพี่คนหนึ่งเดินทางมาจากภูเก็ตนำขนมปังอบมาร้อน ๆ ทำเป็นรูปร่างปลา โดยเล่าให้ดิฉันฟังอย่างภูมิใจว่า นี่เขาเรียกว่า ปลามงคล ข้างในเป็นสับปะรดสอดไส้ และพุทราสอดไส้  ตั้งใจที่จะนำมาแจกให้กับคณะเสบียงสวรรค์ และยังมีเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น ชา กาแฟ และมีน้ำส้มขวดเล็ก ค่ะ ซึ่งดิฉันประทับใจมากที่ได้เห็นชาวบ้านมีความยินดีและสุขใจที่วัดของพวกเขาได้มีชาวกรุงเทพฯ ให้ความสำคัญมาช่วยวัดทางภาคใต้ค่ะ ซึ่งตัวดิฉันก็ประทับใจมากที่ได้เห็นภาพความประทับใจนี้ค่ะ



สถานที่ที่ 3
วัดนี้ตอนที่เดินทางไปก็มีฝนตกตลอดเส้นทางจึงทำให้ดิฉันวิตกกังวลใจมากเพราะจะต้องนำพาคณะไปทำบุญต่อ  แต่การที่ฝนตกไม่หยุดนี้อาจเป็นอุปสรรคในการที่จะนำพาคณะไปเที่ยวชมรูปปั้นเมืองนรก ซึ่งดิฉันอธิษฐานขอให้ฝนหยุดตกและฝนก็หยุดตกเมื่อถึงวัดพอดีค่ะ ซึ่งก่อนที่จะถึงวัดดิฉันได้เห็นแสงสีขาวแต่ไกลในตาทิพย์ไกลมากและดิฉันก็เพิ่งจะรู้ในตอนนี้เองว่าเป็นเขตนิพพานค่ะ โดยท่านเจ้าอาวาสได้ตั้งชื่อนี้เอาไว้ ท่านแบ่งเขตของนรกและสวรรค์เอาไว้ค่ะ
เมื่อทำบุญรับศีล ถวายผ้าป่าสามัคคีร่วมบูรณะรูปปั้นนรก สวรรค์ ซื้อทราย ชำระหนี้สงฆ์ และค่าน้ำค่าไฟแล้วเป็นเงิน 2 แสนกว่าบาทซึ่งเป็นยอดเงินที่ไม่น้อยไปกว่าวัดที่สองเลยค่ะ

หลังจากนั้นหลวงพ่อท่านก็ได้กล่าวโอวาทให้ธรรมมะ เพื่อให้ทุกท่านที่ได้เดินทางมาด้วยและท่านผู้บริจาคได้รับฟังแล้วเกิดมีความเย็นกายและเย็นใจ มีความปลื้มปิติสุขในบุญกุศลที่ทำมาแล้วนี้ค่ะ

ต่อมา ดิฉันได้นำพาทุกท่านไปเที่ยวชมเมืองนรกคือเป็นสถานที่ที่ทางวัดได้ปั้นรูปร่างของมนุษย์ที่ทำผิดศีลเป็นสื่อการเรียนการสอนที่ดีที่ให้ผู้คนได้รู้ว่าคนที่ทำผิดทำบาปนั้นต้องตกนรกขุมใดและจะเป็นเช่นใดค่ะ ซึ่งดิฉันขอแนะนำให้ท่านที่สนใจสามารถติดตามได้ใน Facebook อาจารย์เจน.com และนอกจากนี้ได้ทราบในญาณวิถีว่า ระหว่างที่ดิฉันได้สื่อสารกับท่านพญามัจจุราชได้เห็นขุมนรกที่แท้จริงและบรรยายไปตามขุมนรกต่าง ๆ ที่ทางวัดปั้นรูปเอาไว้ตามความเป็นจริงที่เห็นในอีกมิติหนึ่งนั้นมันช่างน่ากลัวเป็นที่สุดค่ะ แต่ด้วยเวลามีน้อยมีเวลาอันจำกัดจึงต้องสรุปให้รวดเร็วและเดินทางกลับที่พักมิฉะนั้นจะค่ำมืดมาก เพราะว่าตอนนั้นเย็นมากแล้วกว่าจะเดินทางกลับที่พักคงลำบากกันค่ะ



สถานที่ที่ 4
หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว คณะเดินทางออกจากโรงแรมถึงวัด และได้มีการเรี่ยไรต่อยอดเงินกันที่วัดซึ่งได้เงินปัจจัย จำนวน 3 แสนกว่าบาท เพื่อถวายวัดทอดผ้าป่าสามัคคี ร่วมสร้างบันได และซื้อหินแกรนิตประดับบันไดทางขึ้นไปพระบรมธาตุ โดยดิฉันได้นำจบอธิษฐานตามบุญกุศลที่ท่านได้ร่วมทำบุญกันมาค่ะ สำหรับเงินที่โอนเข้ามาในบัญชีที่โอนมาจากทั่วโลกดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมทำบุญกันมาค่ะ

การถวายปัจจัยร่วมสร้างพระบรมธาตุ และซื้อกระเบื้องหินแกรนิตปูพื้นบันได ซึ่งดิฉันได้เห็นพระธาตุมีแสงสว่างนวล แสดงว่า เทวดาท่านมาอนุโมทนาบุญและยินดีในบุญกุศลของคณะเสบียงสวรรค์มากค่ะ โดยดิฉันเห็นภาพภายในพระเจดีย์มีพระอรหันตธาตุหลายองค์ในนั้นก็รู้สึกดีใจและปิติใจมากที่ได้เป็นผู้นำทุกท่านถวายบุญทอดผ้าป่าสามัคคีที่ได้ทำสำเร็จแล้วค่ะ

วิญญาณที่เป็นญาติพี่น้องของท่านที่มีส่วนร่วมในบุญนี้รวมทั้งวิญญาณคนต่างชาติที่ตายด้วยสึนามิต่างก็มาโมทนาบุญและยินดีในบุญนี้ค่ะ

ในความประทับใจนี้ดิฉันดีใจค่ะที่ได้นำเงินทอดผ้าป่าจำนวนมากพอสมควรถวายวัดเพื่อบุญที่เป็นสาธารณะประโยชน์ได้ใช้ร่วมกันย่อมมีอานิสงส์บุญมากค่ะ

ที่โรงทานมีชาวบ้านทำอาหารข้าวหม้อแกงหม้อ ฝีมือแม่ครัวอร่อยมาก และพวกสาว ๆ ชาวบ้านก็ได้มาฟ้อนรำต้อนรับคณะเสบียงสวรรค์ ซึ่งในครั้งแรกทางวัดจะต้อนรับด้วยขบวนฟ้อนรำแต่ดิฉันเห็นว่าทำบุญก่อนจะดีกว่า จึงได้บอกว่าอย่างเพิ่งค่ะ ให้เสร็จงานบุญก่อน แต่ทุกคนก็รอที่จะฟ้อนรำต้อนรับ ซึ่งดิฉันก็ปิติใจค่ะที่ทุกท่านทุกคนได้ตั้งใจในสิ่งที่ทำค่ะ



สถานที่ที่ 5
ดิฉันและคณะเสบียงสวรรค์ได้เดินทางมาถึงวัดก็เป็นเวลาที่โพล้เพล้แล้ว โดยวัดตั้งอยู่ห่างไกลความเจริญมาก ดิฉันต้องเดินขึ้นเขาที่มีบันไดมากกว่า 100 ขั้นค่ะ เมื่อเข้าไปภายในถ้ำนั้น ไม่มีพื้นที่ให้มากนัก มีที่นั่งอยู่จุดเดียวเท่านั้นก็เป็นบริเวณที่ส่วนหน้าพระนอนปางไสยาสน์ที่ปูกระเบื้องสะอาดอยู่ตรงนั้น ทุกคนก็พากันมานั่งเบียดกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยค่ะ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เป็นพื้นที่เป็นดินทรายแต่สะอาดเรียบร้อยดีและเข้าใจดีว่าหลวงพ่อท่านมีอยู่รูปเดียวท่านก็ได้ดูแลรักษาสถานที่เป็นอย่างดีค่ะ

วัดนี้มีพระรูปเดียวท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตอนที่คณะเสบียงสวรรค์เดินทางมาถึงหลวงพ่อท่านกำลังสวดมนต์ทำวัตรเย็น สักพักหนึ่งหลวงพ่อท่านก็เดินเข้ามาภายในถ้ำที่มีความมืดอยู่พอสมควร ดิฉันจึงนิมนต์ท่านให้นั่งที่อาสนะที่จัดเตรียมไว้ และต่อจากนั้นดิฉันขอเปิดมิติภพภูมิเพราะดิฉันรู้ได้ในญาณวิถีว่าสถานที่ภายในถ้ำนี้มีมิติที่ทับซ้อนของพวกคนเมืองลับแลหรือคนธรรพ์ เมื่อเปิดมิติแล้วจึงได้อัญเชิญคนลับแลเหล่านั้นออกมาร่วมอนุโมทนาบุญกับคณะเสบียงสรรค์ และทันใดนั้น กลุ่มคนที่ไม่ใช่คนก็พากันเดินออกมา ซึ่งดิฉันรู้ได้ว่ามิติได้เปิดแล้ว คนกลุ่มนี้จึงออกมาได้ค่ะ พวกเขาพากันร้องไห้ พวกเขาดีใจและพูดว่า เพราะดิฉันเรียกเขาออกมา ได้มาร่วมบุญด้วยเขาดีใจกันมากค่ะ  โดยหนึ่งในกลุ่มนี้มีหัวหน้าที่เป็นชายคนที่เป็นใหญ่นั้นได้นำผ้าสีทองมาถวายพร้อมกับคณะเสบียงสวรรค์ด้วยค่ะ

จากญาณวิถี มิติเปิดดิฉันจึงได้เห็นภาพในอดีตว่าสถานที่แห่งนี้เคยมีน้ำทะเลท่วมถึงทั้งถ้ำ มีน้ำทะเลท่วมท้องทะเลและมีเรือสำเภา เรือการค้าต่าง ๆ ที่มาจากต่างชาติก็มีมากมาย มาลอยลำเรียงกันอยู่ที่ข้างผนังถ้ำแห่งนี้ค่ะ ซึ่งก็ยังมีหลักฐานเป็นซากเปลือกหอยโบราณยังคงมีสภาพดีอยู่ หลงเหลือเป็นพยานหลักฐานอยู่เป็นจำนวนมากในถ้ำนี้ค่ะ และดิฉันได้เห็นภาพอดีตที่ผ่านมา มีเรือมาจอดที่บริเวณนี้มากมาย และมีเรือลำหนึ่งมีพระรูปหนึ่งในวัยหนุ่มยังไม่แก่ชราท่านยืนหันหน้าไปทางหัวเรือและท่านหันหลังกลับมาที่ดิฉัน ซึ่งมีเสียงพูดว่าหลวงปู่ทวด จึงทำให้ดิฉันในขณะนั้นเกิดปิติใจมากเพราะรู้ได้ว่า ใช่ท่านคือหลวงปู่ทวด ดิฉันดีใจจนต้องหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความปิติตื้นตันใจที่บุญของคณะเสบียงสวรรค์ทำให้หลวงปู่ท่านมาโปรดให้เห็นภาพเหตุการณ์นี้ค่ะ และที่ผนังถ้ำได้มีรอยเท้าหลวงปู่ข้างขวาปรากฏอยู่ที่ผนังหินของถ้ำ ซึ่งเมื่อถวายสังฆทานเรียบร้อยแล้วดิฉันจึงได้ชี้ให้ทุกคนในที่นั้นได้เห็นภาพนั้นค่ะ

สำหรับเรื่องนี้ การทำบุญนั้นไม่ว่าจะเป็นในโลกมนุษย์หรือโลกทิพย์เขาก็ทำบุญกันเพราะพวกเขาก็รู้ได้ว่าการสร้างบุญกุศลนั้นได้รับอานิสงส์บุญจริงและสามารถยืนยันพิสูจน์ได้ว่า การทำบุญนั้นมีความสำคัญมากเพราะแม้แต่ในโลกลี้ลับอีกมิติหนึ่งก็ยังต้องการบุญให้เหมือนกันกับมนุษย์นะคะ

ดิฉันได้นำทุกท่านถวายสังฆทานเพื่อร่วมสร้างศาลาโรงธรรมทาน หลวงพ่อท่านต้องการสร้างเพื่อรองรับผู้คนที่มาวัดทำบุญค่ะ เพราะที่วัดแห่งนี้ไม่มีสิ่งปลูกสร้างอะไรเลย ซึ่งท่านที่ได้เดินทางไปด้วยกันก็จะได้เห็นแล้วว่าที่วัดนั้นมีห้องน้ำหลังเล็ก ๆ และมีศาลาหลังเล็ก โดยหลวงพ่อท่านอยู่อย่างสมถะและสงบ ไม่มีวิถีชาวบ้านที่จะมาเกี่ยวข้องให้วุ่นวายมากนักค่ะ

ดิฉันได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่สำนักสงฆ์แห่งนี้จะได้ขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาสืบต่อไป เนื่องจากหลวงพ่อท่านมีเจตนาที่ดีในการสร้างศาลาเพื่อมารองรับผู้คนที่จะมาวัดทำบุญและเป็นบุญที่มีอานิสงส์บุญสูงเป็นบุญที่ใช้สอยประโยชน์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเกิดภพชาติใดพวกเราทั้งหลายก็จะได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี เกิดในบวรพระพุทธศาสนาและเป็นผู้ที่อุดมสมบูรณ์ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นอยู่มีครอบครัวที่อบอุ่น มีทรัพย์สินใช้ไม่ขาดมือ มีปัญญาเฉลียวฉลาดได้เป็นเจ้าคนนายคน เป็นต้น ซึ่งอานิสงส์บุญนี้มีคุณประโยชน์มากและด้วยบุญนี้ก็จะติดตามท่านผู้บริจาคไปทุกภพทุกชาติค่ะ ซึ่งได้ยอดเงินปัจจัยถวายเป็นเงิน 3 แสนกว่าบาท ถือว่าไม่น้อยเลยดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ

โดยดิฉันได้นำผ้าที่ตัดเย็บมาอย่างดีและปราณีตทำการห่มผ้าพระพุทธรูปปางไสยยาสน์ ซึ่งการห่มผ้าพระพุทธรูปที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าเป็นบุญที่มีอานิสงส์บุญมากด้วยค่ะ

สถานที่ที่ 6
เดินทางโดยทางเรือ เพื่อไปกราบรอยเท้าหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ในช่วงเช้านี้ดิฉันได้นำคณะล่องเรือไปถวายผ้าห่มหลวงปู่ทวด 2 ผืน เป็นผ้าที่ดิฉันสั่งตัดเย็บมาเป็นอย่างดีค่ะ ทุกท่านก็คงจะได้ชื่นชมกับธรรมชาติไปตลอดเส้นทางการเดินเรือเพราะดิฉันได้ให้ทุกท่านทำบุญอย่างมีความสุขอิ่มบุญอิ่มสุขค่ะ
เมื่อมาถึงเกาะแห่งนี้ที่เป็นสถานที่ ๆ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เรือทุกลำมาถึงพร้อมกันและทุกคนก็ขึ้นกราบไหว้หลวงปู่ทวดกันค่ะ ที่เกาะแห่งนี้มีลักษณะเหมือนเต่าซึ่งจากญาณวิถีของดิฉันเป็นเต่าจริงค่ะ
ดิฉันได้นำสวดมนต์และสวดคาถาหลวงปู่ทวด 9 จบ พร้อมกันนี้ดิฉันได้ทำการห่มผ้าหลวงปู่ทวด 2 องค์ 2 ผืน หลังจากนั้นดิฉันได้มอบหมายให้พี่รุ้งเป็นตัวแทนดิฉันตักน้ำทะเลในส่วนบริเวณจุดที่หลวงปู่เหยียบน้ำทะเลจืดเพื่อนำมาประกอบพิธีขอพรหลวงปู่ทวดมาเป็นน้ำอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อประพรมให้กับทุกท่านผู้ร่วมบุญที่เดินทางไปด้วยกันในวันนั้นค่ะ
ดิฉันประพรมน้ำมนต์ทั้งที่ตนเองข้อเท้าแพลง แต่ไม่น่าเชื่อว่าดิฉันเดินไปประพรมน้ำมนต์เหมือนคนที่ข้อเท้าไม่เจ็บปวดอะไร เหมือนไม่ใช่ตัวของดิฉันค่ะ และมีความอัศจรรย์ที่แสงแดดหุบหายไปขณะที่ดิฉันประพรมน้ำมนต์เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากค่ะ

สถานที่ที่ 7
วันนั้นเป็นวันพระใหญ่ มีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดเส้นทางค่ะ แต่เมื่อถึงวัดแห่งนี้ฝนหยุดตกอย่างฉับพลัน พวกชาวบ้านมาให้การต้อนรับ พวกผู้หญิงก็แต่งตัวสวยงามสวมเสื้อสีขาวและใส่ผ้าถุงสีชมพู แลดูสวยงามเป็นระเบียบเหมือนกับว่ามีความตั้งใจให้การต้อนรับเป็นอย่างดียิ่งค่ะ ทุกคนมีความพร้อมและจะรำฟ้อนต้อนรับแต่ดิฉันขอให้ทำบุญก่อนค่ะเพราะสภาพอากาศไม่อำนวยก็อยากที่จะทำบุญก่อนค่ะ เมื่อเข้าไปภายในศาลา เจ้าคณะอำเภอขนอมได้มาร่วมพิธีด้วยค่ะ
ดิฉันจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ชาวบ้านจัดเตรียมเก้าอี้ไว้ต้อนรับดิฉันเหมือนกับเป็นเจ้าเมืองเลยค่ะ ทำให้ดิฉันรู้สึกประทับใจมากที่ชาวบ้านให้การต้อนรับดิฉันและคณะเสบียงสวรรค์ของเราค่ะ

ดิฉันกล่าวอาราธนาศีล นำจบอธิษฐาน และทำการทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างโบสถ์ ได้ปัจจัยเงินประมาณ 6 แสนกว่าบาท และมีชาวบ้านและชาวมอญได้นำเงินมาร่วมถวายแต่ทางเราไม่ได้นับอีกประมาณ 2 แสนกว่าบาท เมื่อรวมกันแล้วน่าจะได้ประมาณ 8 แสนกว่าบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากพอที่จะได้ทำให้สามารถขับเคลื่อนการก่อสร้างต่อไปเพื่อจะได้เป็นบุญสำเร็จค่ะ และในการนี้ได้มีสิ่งของสังฆทานมากมายค่ะ โดยท่านเจ้าคณะท่านได้กล่าวโอวาทให้ธรรมมะเล็กน้อยให้กับคณะเสบียงสวรรค์ได้รับฟัง หลังจากนั้นชาวบ้านผู้หญิงได้ฟ้อนรำเพื่อให้เกียรติกับคณะเสบียงสวรรค์ ซึ่งดิฉันมีความประทับใจมากค่ะ

การทำบุญใน 7 สถานที่ นี้เป็นบุญกุศลที่ทุกท่านจะได้รับอานิสงส์ของบุญมาก และด้วยบุญนี้จะติดตามตัวท่านไปทุกภพชาติ ดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านผู้บริจาคโดยมีท่านที่ได้โอนเงินปัจจัยร่วมบุญกันมาแต่ไม่ได้เดินทางมาด้วย และท่านที่เดินทางไปทำบุญด้วยกันและไปต่อยอดที่วัด ซึ่งไม่ว่าจะทำบุญในรูปแบบใดแต่ทุกท่านได้รับอานิสงส์ผลบุญอย่างเต็มเปี่ยมแล้วค่ะ

ด้วยบุญนั้นมีจริงอย่าลังเลสงสัย ด้วยผลบุญนี้จะได้มาส่งผลต่อเราเมื่อยามที่คับขันและลำบากหรือบุญจะทำให้ผลกรรมที่ทำมานั้นจะได้ลดและผ่อนลงมาได้จากหนักให้เป็นเบาค่ะ

อาจารย์เจน  ญาณทิพย์

จี๊ดจ๊าด

สวัสดีเจ้าค่ะ จี๊ดจ๊าดมาแล้วค่ะ จี๊ดก็มีความประทับใจมากเชียว และก็รู้สึกสุขใจมากที่ทริป ลี้ลับ  13 ของคณะเสบียงสวรรค์ช่วงวันที่ 12-15 พฤษภาคม 2565 ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อิ่มใจ สุขใจกันไปถ้วนหน้าทุกท่านนะคะ ด้วยบุญที่ทุกท่านตั้งใจได้สำเร็จตามประสงค์แล้วค่ะ จี๊ดก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ

ในการเดินทางไปทำบุญโดยผู้นำคณะเสบียงสวรรค์อาจารย์เจน ญาณทิพย์ ในครั้งนี้ จี๊ดต้องขอชื่นชมอาจารย์เจน ญาณทิพย์ คือไม่ได้อวยกันเองนะคะ แต่อาจารย์ได้ประสบอุบัติเหตุจากการเดินทางไปเซอร์เวย์ทำให้ข้อเท้าแพลงและเท้าบวมมาก แต่ก็ไม่ย่อท้อยังคงเดินต่อด้วยเท้าที่บวมเป่งและเจ็บปวดมาตลอดการเดินทาง เพราะการนั่งในรถตู้ไม่ได้สะดวกนัก อาจารย์สู้จริง ๆ ค่ะ



ในการนี้จี๊ดก็จะมาเล่าในรายละเอียดของการเดินทางไปทำบุญด้วยกัน ตามสถานที่ที่อาจารย์นำพาไปทำบุญทั้ง 7 แห่ง ดังนี้ค่ะ
จี๊ดมีเรื่องขำขันมาเล่าให้ฟัง คือ คณะของเราเดินทางกันมาตลอดทั้งคืนจวบจนใกล้ฟ้าสาง พวกเราก็แวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมัน และก็มีพี่คนหนึ่งเดินแบบหน้าตาง่วงงัวเงีย เออ จี๊ดพี่ขอถามหน่อยสิว่า ที่นี่ที่ไหน จังหวัดอะไร นี่เรากำลังจะไปจังหวัดไหนกันคะ คือ จี๊ดก็แบบ เออ อยู่พักนึง ก็จริงสินะ คณะเสบียงสวรรค์ก็ไม่เคยบอกคณะเดินทางของเราเลยว่าไปทำบุญที่ไหนกัน เคยมีครั้งหนึ่งไปเชียงใหม่ น้องสาวเชียงใหม่ก็มาตีจี๊ดแบบเบา ๆ แล้วพูดว่า หนูอยู่เชียงใหม่ เมื่อวานจองตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพฯ เพื่อมานั่งรถตู้ที่จุดนัดพบ แต่พอมาถึงวัดทำบุญหนูกลับมาอยู่ที่บ้านเชียงใหม่ รู้งี้ รอที่เชียงใหม่ดีกว่า แต่น้องเขาเข้าใจค่ะ เพราะบุญเสบียงสวรรค์นั้นลี้ลับจริง ๆ ค่ะ



รถออกเดินทางกันมาตั้งแต่เมื่อวานและในเช้าวันใหม่นี้ ประมาณ ตี 5 กว่า ๆ อาจารย์ก็นำพาคณะเดินทางมารับประทานอาหารเช้าที่ร้านติ่มซำ ที่ไม่ใช่จะมีแค่เพียงติ่มซำเพราะมีน้ำยาปู และอื่น ๆ อีกมากมาย ทุกคนรับประทานอาหารเช้ากันอย่างเอร็ดอร่อยค่ะ

ทั้งนี้ อาจารย์ได้ซื้อถาด ถ้วย ชาม ช้อน เพื่อนำมาใส่อาหารที่จะนำมาถวายเป็นภัตตาหารเช้าให้กับวัดแรก ซึ่งก็มีอาหารจำพวก ติ่มซำต่าง ๆ ขนมจีนปูที่มีชื่อของร้านนี้ สำหรับ ผลไม้ อาจารย์นำมาจากกรุงเทพ ฯ อาทิเช่น สาลี่  แคนตาลูป นำเข้าจากต่างประเทศราคาแพงคุณภาพดี มีรสอร่อยด้วยค่ะ ผักสลัดต่าง ๆ น้ำพริกต่าง ๆ ปลาสลิดทอดกรอบ พร้อมเครื่องเคียงหน้าตาน่ากินนี้ อาจารย์ได้สั่งการให้ลูกศิษย์ไปหาซื้อตามคำสั่งเพราะทุกอย่างต้องคัดพิเศษค่ะ



ด้วยภัตตาหารเช้านี้ทุกท่านผู้บริจาคได้มีส่วนร่วมในบุญนี้ด้วยแล้วนะคะ ไม่ต้องกลัวว่าจะตกหล่นหรือไม่ได้มีส่วนร่วมนะคะ เพราะทุกท่านได้มีส่วนร่วมบุญนี้แล้วค่ะ ออกจากร้านอาหารก็เดินทางไปที่วัดแห่งแรกของทริปนี้กันเลยนะคะ

เมื่อเข้าไปภายในศาลาอาจารย์และทีมงานก็ได้ช่วยกันลำเลียงสิ่งของ ถาดอาหาร และผลไม้ต่าง ๆ นำมาวางที่บนศาลาอย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ก็ได้มีถาดอาหารของชาวบ้านนำมาวางรวมกันกับคณะเสบียงสวรรค์ด้วย จึงทำให้ดูละลานตามาก โดยขยายออกไปไกลเป็นวงกว้างมากมายเหลือคณานับเชียวค่ะ และที่ภายในศาลาก็มีคณะสงฆ์ ประมาณ 20 องค์ ท่านนั่งเรียงลำดับกันเป็นระเบียบอยู่บนแท่นที่นั่งค่ะ



อาจารย์ได้ทำการถวายภัตตาหารเช้าและถวายสังฆทาน โดยมีปัจจัยเงิน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกจำนวนประมาณ หมื่นกว่าบาท เป็นปัจจัยเงินที่ทุกท่านได้โอนเงินบริจาคโดยอาจารย์ได้จัดถวายให้วัดนี้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากวัดนี้ท่านไม่ได้มีการสร้างหรือบูรณะสิ่งใด ส่วนที่สอง ประมาณ สี่หมื่นกว่าบาท โดยอาจารย์ให้เรี่ยไรเงินเพื่องานบุญที่เป็นสาธารณะประโยชน์ เช่นการซื้ออุปกรณ์ทางการแทพย์ ช่วยผู้ป่วยติดเตียง และช่วยโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร เนื่องจากอาจารย์ได้พบกับหลวงพ่อที่ท่านเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทางภาคใต้ และเป็นที่รู้จักของผู้คนทางภาคใต้ ซึ่งเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ได้นิมนต์หลวงพ่อท่านมา และอาจารย์ก็รู้จักท่านและรู้ว่าท่านชอบสร้างบุญซื้ออุปกรณ์ทางการแทพย์ ช่วยผู้ป่วยติดเตียง และช่วยโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร เมื่อเป็นเช่นนี้จึงได้คิดที่จะทำบุญถวายเป็นสังฆทานเพื่อร่วมบุญกับท่าน และปรากฏว่า หลวงพ่อที่ได้รับนิมนต์มาที่เป็นหลวงพ่อที่มีชื่อเสียงมากที่ภาคใต้นี้ ท่านได้ยกเงินปัจจัยส่วนที่สองนั้นจำนวน  สี่หมื่นกว่าบาท ให้กับหลวงพ่อวัดแรกนี้ เนื่องจากที่วัดนี้หลวงพ่อท่านก็ทำบุญช่วยเหลือโรงพยาบาลและโรงเรียนด้วยเหมือนกันค่ะ จึงเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากที่ทุกท่านในวันนั้นจะได้อานิสงส์บุญอย่างไม่มีสิ้นสุดเลยค่ะ

อาจารย์เล่าให้จี๊ดฟังว่า ญาติพี่น้องที่ตายไปแล้ว เจ้ากรรมนายเวร ต่างก็ปลื้มใจน้ำตาไหลที่ได้รับบุญกุศลของพวกเรา และรวมทั้งเหล่ารุกขเทวดา ท่านก็มาอนุโมทนาบุญ ด้วยปิติใจมนุษย์ เพราะที่วัดนี้มีพระสงฆ์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและพวกเราก็มาทำบุญด้วยความตั้งใจมั่นค่ะ

จี๊ดเองนะคะเมื่อรู้แล้วก็อดที่จะปลื้มปิติใจกับทุกท่านผู้บริจาคด้วยไม่ได้เลยค่ะ และขอบอกว่า อิ่มแล้วอิ่มอีกเพียงวัดแรกวัดเดียว เพราะเพิ่งได้รับประทานไปเมื่อตะกี้นี้เองทางวัดนี้ได้มีอาหารเลี้ยงเป็นโรงทานเป็นอาหารภาคใต้ที่อร่อยมาก ๆ ค่ะ และมีน้ำยาปูที่ชาวบ้านมาคุยโวให้ฟังว่า ถ้าไม่ได้กินเสียใจแย่ เพราะถ้ามีการทำบุญก็จะมีคนทำคนนี้แหละไปทำน้ำยาปูแสนอร่อย ซึ่งตอนแรกก็ไม่เชื่อ แต่พอจี๊ดไปลองชิมสักหน่อย อืม อร่อยมาก “หร่อยจังฮู้” ที่สำนวนใต้เขาพูดกัน คือ อร่อยมาก ๆ ค่ะ

ที่วัดนี้มีความเป็นธรรมชาติมาก เงียบสงบ และมีนกยูงกำลังรำแพนสวย ๆ ให้ดูด้วยค่ะ มีตัวสีเขียว และตัวสีขาว ซึ่งจี๊ดถามอาจารย์เจน และอาจารย์ได้บอกว่า นกยูงตัวสีขาวนี้ อดีตชาติเคยเป็นชีปะขาวทำผิด เมื่อตายไปแล้ว ผลกรรมจึงส่งให้มาเกิดเป็นกยูงสีขาวค่ะ

ข้อคิดสะกิดใจ  การที่เราได้เกิดมาเป็นคนนั้นดีที่สุดแล้ว เมื่อได้มีโอกาสเป็นคนแล้วก็อย่าประมาทต้องทำให้ดีที่สุดอย่าได้ทำผิดจนต้องกลับไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เพราะจะไม่ได้มีโอกาสทำบุญกันเลยนะคะ



สถานที่ที่ 2
คณะของเราได้เดินทางต่อค่ะ ซึ่งอาจารย์แจ้งว่าที่วัดข้างหน้าก็มีอาหารรับประทานอีกนะคะ อย่าผลีผลาม และแล้วก็มาถึงวัดที่สอง คณะเสบียงสวรรค์มาทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างพระพุทธรูป ขนาดหน้าตัก 9 เมตร วันนั้นจี๊ดซาบซึ้งใจมากที่ได้เห็นหลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านนั่งอยู่ที่เบื้องหน้า ดูสิคะท่านก็มาแม้ท่านจะเจ็บป่วย จี๊ดได้สังเกตเห็นมีรอยผ้าพันแผลสีขาวแปะอยู่ที่หน้าอกด้านขวามองดูก็เห็นค่ะ จี๊ดก็คิดในใจ โอ้โห หลวงพ่อท่านคงเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล เพราะวันที่มาเซอร์เวย์พระลูกวัดแจ้งว่า วันที่คณะจะมานั้นหลวงพ่อท่านคงไม่อยู่เพราะท่านต้องไปฟอกไตเป็นประจำ ซึ่งจำได้ว่า อาจารย์ก็ไม่รู้จักหลวงพ่อเจ้าอาวาสและไม่ได้เลือกพระสงฆ์ที่จะถวายผ้าป่า อาจารย์จึงได้ตอบไปว่า ไม่เป็นไรค่ะท่าน จะพระสงฆ์รูปใดก็ได้ แต่มาวันนี้ดูสิ หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านอาพาธ ท่านยังมารับผ้าป่าและมาอนุโมทนาบุญกับญาติโยม สุดยอดเลยค่ะ ทำให้จี๊ดรู้สึกเป็นสุขใจมากค่ะที่ได้เห็นภาพความประทับใจนี้ค่ะ

ด้วยยอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างพระพุทธรูปดังกล่าวนี้ ได้ปัจจัยเงินประมาณ 2 แสนกว่าบาทค่ะ ดีจังนะคะ ทางวัดจะได้มีปัจจัยสร้างพระให้มีความคืบหน้าต่อไปได้ด้วยบุญของคณะเสบียงสวรรค์ของเราและก็จะมีการทำบุญต่อยอดกันไปอีกสาธุค่ะ

ที่สุดค่ะ แม้พวกเราจะอิ่มมาก แต่การต้อนรับของชาวบ้านที่ได้นำเสนอและเชิญชวนเชิญชิม ก็จำเป็นต้องแวะชิมและชมนะคะ รู้สึกใจอ่อนนิดนึงแวะสักหน่อย อืม อร่อยสุด ๆ มีขวดน้ำส้มจิ๋วน่ารักและมีรสชาดของน้ำส้มจริง ๆ น้ำสมุนไพรต่าง ๆ อร่อยมากค่ะ นอกจากนี้ก็มี ขนมโก๋ ขนมปลาตะเพียน ข้างในเป็นสับปะรดสอดไส้ และพุทราสอดไส้ รวมทั้งอาหารทางภาคใต้ที่พวกเขานำเสนอและยินดีมอบให้มา อ้อ มีบะหมี่ผัดจัดใส่กล่องเป็นอย่างดี และขอบอกอร่อยมากเขาแจกให้มาค่ะ คือจี๊ดไม่รู้ว่าจะบอกว่ามีความรู้สึกประทับใจในบุญกุศลที่ทำที่วัดนี้หรือมีความรู้สึกประทับใจที่มีอาหารอร่อยกันแน่ค่ะ
ข้อคิดสะกิดใจ การที่เขาเปิดโรงทานเลี้ยงพวกเรานั้น ให้ดูอาจารย์ของเราเป็นตัวอย่างนะคะ เมื่ออาจารย์ได้รับของโรงทานที่ชาวบ้านตั้งใจมอบให้มาแล้ว อาจารย์ท่านก็จะบอกกล่าวกับผู้มอบให้ว่า ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ดังนี้ เราก็จะได้บุญจากการอนุโมทนาบุญโรงทานกับเขาด้วยค่ะ



สถานที่ที่ 3
ตลอดเส้นทางมีฝนตกลงมาเมื่อเดินทางมาถึงวัดก็พอดีฝนหยุดตก และที่ฝนหยุดตกนั้นอาจารย์ได้ตั้งจิตอธิษฐานขอให้ฝนไม่ตกเมื่อมาถึงวัด เพราะอาจารย์ได้ลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะนำผู้คนไปที่รูปปั้นนรกเพื่อจะได้สั่งสอนคนว่าการที่ทำผิดทำบาปนั้นในนรกเขาเป็นเช่นไรและเขาได้รับความทุกข์ทรมานอย่างไร โดยผ่านสื่อการเรียนการสอนจากรูปปั้นที่ทางวัดได้ปั้นเอาไว้ค่ะ
แต่จี๊ดขอบอกว่า นอกจากเขตขุมนรกนี้ ก็มีเขตสวรรค์ด้วยแต่ถ้าจะให้อาจารย์นำพาไปก็คงกลับที่พักมืดค่ำพอดีนะคะ

อาจารย์นำถวายผ้าป่าสามัคคีร่วมบูรณะรูปปั้นนรก สวรรค์ ซื้อทราย ชำระหนี้สงฆ์ และค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งได้ยอดเงินไม่น้อยเลยนะคะ ได้ปัจจัยเงินประมาณ 2 แสนกว่าบาท ซึ่งดีมากค่ะ เพื่อทางวัดจะได้นำไปบูรณะในส่วนต่าง ๆ ของวัดต่อไปเพื่อผู้คนจะได้เข้าวัดทำบุญให้เกิดมีดวงตาเห็นธรรมและเกรงกลัวต่อบาปค่ะ
ข้อคิดสะกิดใจ พวกเราทั้งหลายต่างก็เคยทำความผิดพลาดด้วยกันมาแล้วทั้งนั้น แต่เมื่อรู้แล้วว่าสิ่งที่เคยทำมานั้นผิดพลาดไปเราก็อย่าหาทำอีก แต่พวกเราต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด ด้วยการทำทาน ศีล และภาวนา อาจารย์เคยบอกว่า มันจะช่วยให้ผ่อนหนักเป็นเบาได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วพวกเราอย่าท้อกันนะคะ



สถานที่ที่ 4
ที่วัดแห่งนี้อาจารย์ได้นำทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างบันได และซื้อหินแกรนิตประดับบันไดทางขึ้นพระบรมธาตุ ได้ยอดปัจจัย 3 แสนกว่าบาท น่าตื่นเต้นมากที่อาจารย์เล่าว่า ได้รู้ว่าที่ภายในพระเจดีย์ มีพระอรหันตธาตุ หลายพระองค์ และมีเทวดารักษา และยิ่งดีใจมากที่บรรดาญาติพี่น้องของพวกเรา และวิญญาณเร่ร่อนที่เป็นคนต่างชาติ ที่ได้ตายไปด้วยสึนามิ พวกเขาก็มารอรับบุญ แบบว่าดีมากเลยที่พวกเราทั้งหลายได้ทำบุญให้กับพวกเขาเหล่านั้นและพวกเขาก็ได้รับบุญนี้ด้วยค่ะ สาธุ ๆ ค่ะ

จี๊ดมีความประทับใจมากที่อาจารย์ได้นำพวกเรามาทำบุญที่เป็นสาธารณะประโยชน์ที่อาจารย์เคยสอนไว้ว่า บุญที่ผู้คนได้ใช้ร่วมกันนี้เป็นบุญที่มีอานิสงส์บุญมาก และยิ่งคนที่ทำผิดต่อทรัพย์ของแผ่นดินทำผิดเป็นถูกทำถูกเป็นผิด ถ้าได้ทำบุญที่เป็นสาธารณะประโยชน์ให้ทุกคนได้ใช้ร่วมกันนี้จะมีอานิสงส์บุญมากค่ะ และไม่ว่าจะเกิดภพชาติใดบุญกุศลนี้ก็จะตามติดตัวไปทุกภพชาติเลยค่ะ

สวย ๆ ค่ะ พวกหญิงสาวชาวบ้านตั้งใจฟ้อนรำสวยงามและพร้อมเพรียงกันทุกคนยิ้มแย้มยินดีที่คณะเสบียงสวรรค์ได้มาทอดผ้าป่าที่วัดของพวกเขาค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีโรงทานชาวบ้านทำให้คณะเสบียงสวรรค์ได้รับประทาน และที่จี๊ดชอบมาก น้ำพริกกะปิของชาวใต้ “หร่อยจังฮู้” คือคนใต้เขาพูดกัน แปลว่า อร่อยมากค่ะ



สถานที่ที่ 5
ใกล้จะค่ำมืดเข้าไปแล้วแต่พวกเราก็ยังคงสร้างบุญกันต่อไปนะคะ โดยอาจารย์ได้นำพวกเรามาถึงวัดห่างไกลความเจริญที่เขาเรียกว่าไกลปืนเที่ยงนั่นเองค่ะ เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 100 กว่าขั้น ตอนนี้จี๊ดก็สงสารอาจารย์มากค่ะ เพราะตั้งแต่วัดแรกอาจารย์ก็อดทนมาโดยตลอด อาจารย์เข็มแข็งมากไม่บ่นสักคำเพราะเกิดอาจารย์อักเสบรุนแรงที่ข้อเท้าแพลง แต่ต้องมาขึ้นบันไดนี้อีก อาจารย์จะทนไหวไหม ตอนนั้นจี๊ดคิดสงสารมากค่ะ แต่อาจารย์ก็อดทนทำได้ ระหว่างทางก็ต้องฉีดสเปรย์รักษาความเจ็บปวดไปตลอดทางเลยค่ะ

ตอนนี้ทุกคนมาพร้อมเพรียงกันแล้วภายในถ้ำที่ค่อนข้างมืดแต่มีแสงไฟพอให้เห็นกันได้ค่ะ สถานที่นั่งค่อนข้างคับแคบเพราะมีอยู่ที่เดียวที่หน้าพระนอนปางไสยาสน์ นอกนั้นก็ไปนั่งกันตามจุดต่าง ๆ และตามซอกหินค่ะ

เมื่อหลวงพ่อท่านเดินมานั่งที่อาสนะที่ได้จัดเตรียมไว้ และก่อนที่อาจารย์จะกล่าวนำถวายสังฆทาน อาจารย์ก็พูดขึ้นว่า ที่นี่ เป็นมิติทับซ้อนและมีคนที่ไม่ใช่คนมายืนดูกันอยู่ หลังจากนั้นอาจารย์ก็ได้ขออนุญาตเปิดมิติเพราะรู้ดีว่าคนพวกนั้นเห็นพวกเราแล้วและอยากจะมาร่วมบุญด้วย ทันใดนั้น อาจารย์ก็ได้เชิญพวกเขาเข้ามา และได้เห็นผู้ชายใส่เสื้อม่อฮ่อมสีน้ำเงิน 4 คน แบกเสลี่ยงให้กับหัวหน้าถือผ้าสีทองมา คนพวกนี้เรียกว่า คนเมืองลับแลหรือคนธรรพ์ ซึ่งทุกคนต่างก็ร้องไห้ด้วยความดีใจที่ได้ทำบุญ พวกเขาบอกว่า ที่มาได้เพราะอาจารย์เปิดมิติให้เขาเข้ามาได้ ซึ่งคนเมืองลับแลก็ได้นำผ้าสีทองพร้อมกับคณะเสบียงสวรรค์ที่ได้นำผ้าห่มพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ซึ่งเป็นผ้าผืนใหญ่มากมีความยาว 7 เมตร กว้าง 4 เมตร ที่อาจารย์ให้ตัดเย็บอย่างประณีตทีเดียวค่ะ และถวายปัจจัย จำนวนประมาณ 3 แสนกว่าบาท ร่วมสร้างศาลาโรงธรรมทานและวัตถุทานต่าง ๆ

ถ้าท่านจะสังเกตจะได้เห็นเปลือกหอยโบราณตกอยู่ตามซอกหินที่ท่านนั่งกันนั่นเองแหละค่ะ โดยอาจารย์ได้เล่าให้ทุกท่านฟังว่า ที่ถ้ำแห่งนี้เคยมีน้ำทะเลท่วมถึง ไม่ได้เป็นถ้ำที่พวกเราจะเดินเข้ามาได้ ในอดีตจากภาพที่เห็นนั้นมีเรือหลายลำมาจอดเต็มไปหมดมีทั้งเรือสำเภา เรือพ่อค้าต่างชาติมาค้าขายกัน และที่อาจารย์เห็นในตาทิพย์วันนั้น เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้อาจารย์เจนตื้นตันใจจนร้องไห้ออกมาเพราะปิติใจมาก เพราะได้เห็นเรือลำหนึ่งมีพระสงฆ์รูปหนึ่งท่านยังไม่แก่ชราอายุไม่มากนักมีผิว 2 สี ท่านยืนหันหลังให้ และหันหน้ามองไปทางหัวเรือ และได้หันมามองอาจารย์ และอาจารย์ก็กราบไหว้ท่าน โดยมีเสียงผู้ชายพูดว่า หลวงปู่ทวด อาจารย์บอกว่าดีใจที่หลวงปู่ท่านเมตตามาให้เห็นค่ะ หลังจากนั้นก็ได้เห็นรอยเท้าข้างขวาปรากฎอยู่ที่ผนังถ้ำและได้ชี้ให้ทุกคนที่เดินทางกันมาในวันนั้นได้เห็นค่ะ

ความประทับใจที่ขากลับนะคะมีความมืดเข้ามาครอบงำมืดมากมองแทบไม่เห็นทาง ก็มีหลายคนที่ช่วยกันส่องไฟให้ทางเดินสว่างเพื่อทุกคนที่เดินออกมาเพื่อจะไปขึ้นรถตู้ได้อย่างปลอดภัย ยอดเยี่ยมจริง ๆ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านทุกบุญที่ทำกันเลยนะคะ

ข้อคิดสะกิดใจ อาจารย์เคยพูดว่า บุญกิริยาวัตถุ 10 ประการนั้น การสงเคราะห์เกื้อกูลผู้อื่น เช่น การส่องไฟให้ทางผู้อื่น การขวนขวายในบุญ เช่น การมานะบากบั่นที่จะเดินขึ้นบันไดหรือความลำบากที่ต้องอยู่ในซอกหินที่สกปรกแม้จะลำบาก แต่ทุกคนก็ไม่ย่อท้อ นี่ก็เป็นบุญค่ะ



สถานที่ที่ 6
วันนั้นอากาศค่อนข้างร้อน แสงแดดแผดเผามากก่อนที่จะลงเรือ แต่ทุกคนก็ยิ้มแย้มไม่มีใครแม้สักคนที่จะบ่น เพราะทุกคนมีเป้าหมายที่จะเดินทาง ๆ เรือ เพื่อไปกราบรอยเท้าหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดค่ะ เรือทั้งหมด 16 ลำ ลอยลำกันไปเป็นขบวนต่างก็โบกไม้โบกมือให้กันและกันเป็นภาพความประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งในการล่องเรือไปกันครั้งนี้เพื่อจะได้ไปให้ถึงจุดที่ผู้คนเขาก็พูด ๆ กันไปว่า หลวงปู่ทวดเหยียบบนน้ำทะเลจืดอยู่ที่ไหนและเป็นยังไงต่างก็อยากรู้ค่ะ

อาจารย์ได้นำผ้าห่มหลวงปู่ทวด 2 ผืน เป็นผ้าที่สวยงดงามมากแวววับไปทั่วค่ะ การล่องเรือไปนี้ก็ได้ชื่นชมกับความสวยงามของเกาะเล็ก ๆ และภูเขาสวย ๆ ที่อยู่กลางทะเล มีหินพับผ้าที่ทับซ้อนกันสวยดีค่ะ และเมื่อไปถึงสถานที่ ๆ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เรือทุกลำก็ปล่อยให้ทุกคนลงเรือ โดยอาจารย์ได้นำทุกคนเดินขึ้นไปเป็นบันไดไม่กี่ขั้นแต่ก็สงสารอาจารย์ที่พยายามมากเพราะเจ็บมาก ปวดข้อเท้าแต่ก็ทนสุด ๆ ต่อจากนั้นอาจารย์นำสวดมนต์และสวดคาถาหลวงปู่ทวด 9 จบ ก่อนที่จะทำการห่มผ้าหลวงปู่ทวด ก็ได้เรียกพี่รุ้งให้เป็นตัวแทนไปตักน้ำทะเล ณ จุดที่หลวงปู่เหยียบน้ำทะเลจืด เพื่อนำมาประกอบพิธีประพรมน้ำมนต์ ตอนนั้นอาจารย์ก็นำน้ำขึ้นมาจบอธิษฐานสวดมนต์ และเดินไปโดยที่จี๊ดก็งง ๆ มาก เพราะอาจารย์เดินไปทั้งที่ข้อเท้าแพลงแต่เหมือนกับว่าอาจารย์ไม่ได้เจ็บปวดกับข้อเท้าข้างซ้ายนี้เลย และยังมีเหตุอัศจรรย์อีกอย่างที่ทุกคนไม่ได้สังเกต แต่ที่จริงไม่ต้องสังเกตก็รู้ได้ เพราะในตอนที่อาจารย์ประพรมน้ำมนต์ แสงแดดที่ร้อนเปรี้ยงกลับหุบลงวูบลมเย็นพัดมา จี๊ดรีบมองไปโดยรอบนี่มันเกิดเหตุมหัศจรรย์ขึ้นจริง ๆ ด้วย แต่หลังจากนั้นก็มาดูในเฟสบุ๊คกันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ จี๊ดก็อยากรู้จึงถามอาจารย์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ส่วนอาจารย์ก็พูดว่า หนูไม่รู้ รู้แต่ว่าแดดหุบเหมือนกับสวิตดับในทันที และตัวเองเหมือนไม่ใช่ตัวเอง น่าจะเป็นเทพองค์ใดองค์หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้สื่อ เพียงแต่รู้ว่าตนเองนั้นเดินไปโดยไม่ได้เจ็บข้อเท้าที่แพลงแต่อย่างใดเลยค่ะ เป็นไงล่ะ มหัศจรรย์จริงค่ะ
ข้อคิดสะกิดใจ  การทำความดีแม้แต่องค์เทพเทวาท่านก็มาแซ่ซ้องสรรเสริญ และที่อาจารย์ไม่เจ็บปวดข้อเท้าที่แพลงนั้นเลย เพราะเทวาอารักษ์ค่ะ จี๊ดว่าจี๊ดก็ตื่นเต้นมากนะเรื่องนี้ ตอนนั้นจี๊ดก็มองไปที่ท้องฟ้าก็ไม่ได้มีเมฆหมอกอะไรมันแปลกมากค่ะ



สถานที่ที่ 7
วัดสุดท้ายแล้วนะคะสำหรับทริปบุญนี้ อาจารย์ได้นำพาทุกท่านทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมสร้างโบสถ์ ได้ปัจจัยเงินประมาณ 6 แสนกว่าบาท จี๊ดอนุโมทนาสาธุจริง ๆ ค่ะ เป็นยอดเงินที่มากที่จี๊ดก็คิดไม่ถึงว่าจะได้ยอดเงินมากพอที่จะได้ช่วยให้วัดได้สร้างโบสถ์ได้อย่างสำเร็จโดยเร็วค่ะ รวมเงินที่ชาวบ้านมาร่วมด้วยอีก 2 แสนกว่าบาท ไม่น่าเชื่อเกือบล้านบาท หลวงพ่อท่านบอกว่าท่านดีใจมากและขอบคุณมาก ซึ่งช่วงเวลานั้นเริ่มมีฝนตกลงมาโปรยปราย พวกเราก็ต้องรีบขึ้นรถกันแล้ว จี๊ดก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านจริง ๆ ค่ะ
ข้อคิดสะกิดใจ อย่างที่อาจารย์พูดไว้เสมอว่า ความดีไม่มีขายอยากได้ต้องทำเอง และนี่ทุกท่านก็ได้ทำบุญของท่านเองด้วยแล้ว

จบแล้วค่ะ จี๊ดขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบุญครั้งต่อไป สู้ ๆ นะคะ พวกเราต้องสู้บุญกันต่อไปค่ะ แล้วสักวันทุกท่านก็จะรู้ว่า บุญนั้นทำไปค่ะ ไม่ว่าจะทำบุญอะไรทำไปค่ะ อยู่บ้านก็ทำบุญได้นะคะ สวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ ฝึกจิตให้เข็มแข็งนะคะ สาธุค่ะ

จี๊ดจ๊าด

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์

เจนญาณทิพย์