|
เรื่องที่จี๊ดจะเล่านี้ขอรับรองว่าเป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องจริงที่ไม่อยากจะเชื่อ แต่มันก็ได้เกิดขึ้นกับสังคมไทยเมืองพุทธศาสนา ที่มีขนบธรรมเนียมประเพณี ที่ดีงาม สังคมเด็กเคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่และบิดดามารดา ปัจจุบันชีวิตคนไทย มันง่ายขึ้นหรือยังไงถึงเป็นเช่นนี้ค่ะเรื่องที่จะเล่านี้ขอนำมาเล่าเป็นวิทยาทาน อย่าเถอะค่ะอย่าทำอย่างนี้กับพ่อแม่และผู้มีพระคุณของเราเด็ดขาดมันบาปนะค่ะ
พี่สาวคนหนึ่งรู้จักกันค่ะ ชื่อใช้ชื่อสมมุติ พี่นา พี่เค้าเดิมมีอาชีพเก็บของเก่าใช้แล้วตามกองขยะทุกเช้าออกเดินทางไปพร้อมกับสามีไปหาเก็บของเก่าขายฐานะทาง บ้านค่อนข้างดี แต่ด้วยพี่เค้าไปคบหากับคนที่พ่อแม่ไม่ต้องการให้มาเป็นลูกเขย จึงให้ออกไปหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง โดยไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับทางบ้านอย่างเด็ดขาด พี่นามีลูกสาว 1 ลูกชาย 1 คน สามีของพี่นามีอายุรุ่นราวคราวพ่อตัวอ้วนท้วมแต่ใจดี ส่วนพี่นาก็มีรูปร่างอ้วน ผิวคล้ำ แต่เป็นคนอารมณ์ดี ทั้ง ๆที่เป็นคนหาเช้ากินค่ำ เช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ กับที่บ้าน ต่อมาสามีก็ตายลงต้องหาเลี้ยงตัวเอง จี๊ดเห็นแล้ว สงสารต่อไปพี่นาจะทำอย่างไรกับชีวิตแต่เหมือนสวรรค์มาโปรด หลังจากนั้นไม่นาน พ่อแม่ของพี่นาก็ให้พี่นากลับไปอยู่บ้านพาลูก2 คนไปด้วย สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น นั่นก็คือ แม่ของพี่นาก็เสียชีวิตลงพี่นามีพี่ชาย น้องชาย รวม 3 คน หลังจากแม่เสียชีวิต พี่ชายและน้องชายก็ทยอยเสียชีวิตไปทีละคนสมบัติที่พี่น้องสร้างไว้ก็ยกให้ผู้เป็นพ่อทั้งหมด และหลังจากนั้นไม่นานพ่อของพี่นาก็เสียชีวิตลงไปอีกคนทำให้สมบัติทั้งหมดตกมาเป็น ของพี่นาทั้งหมด ถ้าจะพูดเรื่องบุญแล้ว จี๊ดเคยถามอ.เจน ว่า เรื่องอย่างนี้จากยาจกกลายเป็นเศรษฐีที่ดิน และเงินทองในธนาคารชั่วเวลาไม่นานมันเป็นไปได้อย่างไรค่ะ อ.เจน อธิบายให้หายสงสัยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของคนเรานั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเรื่องของการสั่งสมบุญบารมีและมาส่งผลให้เขาในชาตินี้ค่ะ จึงไม่ต้องสงสัย อย่างเช่น การสร้างวัตถุทานต่าง ๆครั้งในอดีตชาติ บางครั้งคนสงสัยว่า คนนี้ไม่เห็นว่า เป็นคนดีอะไรแต่ทำไมถูกหวยรวยโพ นั้นเค้าสร้างของเขามาค่ะ แต่การที่คนที่ไม่เคยทำหาหากินด้วยตนเอง หรือใช้ความคิดในเชิงการค้าทำให้เก็บ รักษาสมบัติของพ่อแม่ไม่เป็นค่ะ โดยเริ่มจากการนำเงินในธนาคารมาใช้จ่ายโดย ไม่ได้คิดอะไรมากลูกสาว ลูกชาย ขอเงินไปใช้จ่ายเที่ยวเตร่เท่าไหร่พี่นารักลูกก็ให้หมด เมื่อลูก ๆ เริ่มเติบโตก็เที่ยวเตร่ ไม่สนใจการเล่าเรียนทำให้เรียนหนังสือไม่จบ การใช้จ่ายใช้เงินเพื่อลูก ๆ เป็นเวลาประมาณ 10 กว่าปี เงินสดที่มีอยู่ก็หมดสิ้นลง ลูก ๆ ก็ต้องไปประกอบอาชีพของตนเอง ลูกสาวไปค้าขายทำงานโรงงาน เปลี่ยน อาชีพไปเรื่อย ลูกชายก็ไปขับรถแท็กซี่ การใช้ชีวิตที่เหลวแหลกของลูกทำให้ ลูกสาวมีสามีตั้งแต่วัยเรียนจนถึงเป็นสาวหลายคน มีลูกติดสามี สามีละคน มีลูกสาวลูกชายก็ให้ยกให้ฝ่ายสามีที่เลิกรากันไปนำไปเลี้ยงดูแต่ก็ไปมาหาสู่กันค่ะ เพราะพี่นาที่เป็นยายยังคงห่วงหลานจึงคอยส่งเสียเลี้ยงดูอยู่ห่างๆ ส่วนลูกสาวของ พี่นาก็ยังหาสามีไปเรื่อย ๆ ลูกชายขับแท็กซี่ก็มีภรรยาไปเรื่อย สมบัติยังมีอยู่เป็นที่ดินจำนวนหลายแปลง ลูก ๆ ก็บังคับให้ขายที่ดินและขอแบ่งเงิน ไปใช้จ่ายด้วยความรักลูกก็ทำตามที่ลูกสั่ง เมื่อลูกได้เงินไปก็หายหน้าไปไม่หวนกลับมา เงินหมดก็กลับมาอีกเป็นแบบนี้ พี่นาอยากไปทำบุญก็ต้องจ้างลูกชายพาไปทำบุญ พี่นาเห็นว่า เงินทองก็ไม่มีต้องขายที่ดินไปหลายแปลงไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรจึงคิดว่า ลูกโตแล้วต้องพึ่งตนเองได้แล้ว ไม่ยอมขายที่ดินอีก และไม่ยอมให้เงินลูกอีกแล้วคราวนี้ ลูก ๆ ก็เริ่มไปหยิบเงินญาติ ๆ ที่ละหมื่น และเป็นแสนทำให้พี่นาต้องขายที่ดินไปใช้หนี้ จนต้องบอกกับญาติ ๆ ห้ามให้เงินกับลูกของตนอีก ครั้งล่าสุดไปหลอกว่า แม่กำลังจะตาย นอนอยู่ที่โรงพยาบาลอาการโคม่าไปขอเงินญาติๆ ไปรักษาแม่ ดีว่า พี่นาสั่งกำชับไว้แล้ว จึงไม่ได้เงินไปเมื่อไม่ได้เงินไปลูกทั้งสองคนก็โกรธแม่มาก จึงมาด่าทอแม่ที่บ้าน คำด่าทอ ของลูกแต่ละคำช่างเจ็บปวดใจสำหรับผู้เป็นแม่เสียเหลือเกินอย่างนี้ค่ะ
ลูกสาว : มึงเอาเงินมาให้กู กูขอแค่สองหมื่นแค่นี้มึงให้กูไม่ได้มึงจะเก็บเงินไว้ทำไม ขายที่ดินมาอีกมึงจะเก็บไว้ทำไม เดี๋ยวมึงตายสมบัติก็เป็นของกูอยู่ดีมึงจะหวงอยู่ทำไม ถ้ามึงไม่ให้เงินกูนะ ถ้าวันใดมึงตายกูก็จะไม่ไปเผาผีมึง มึงจงจำใส่สมองของมึงไว้ให้ดี ลูกชาย : มีความร้ายไม่แพ้พี่สาว บางครั้งไม่พึงพอใจก็เตะแม่ซ้อมแม่ของตน ไปเลี้ยง ดูภรรยาของตนไม่มาเลี้ยงดูแม่เลย
ทั้งลูกสาวและลูกชาย มีรูปร่างอ้วนท้วมตัวใหญ่ทั้งคู่ต่างก็มักจะทำร้ายพี่นา ทั้งร่างกาย และจิตใจ ตัวพี่นาเองก็เดินเหินไม่คล่องเพราะมีรูปร่างอ้วนน้ำหนักร้อยกว่ากิโลกรัม จะเดินเหินแต่ละย่างก้าวช่างยากลำบาก แต่ต้องอยู่คนเดียวไม่มีใครเหลียวแลน่าสงสาร มากค่ะ มีเงินแต่ไม่มีความสุขเลย สุขภาพก็ไม่ดี
อ.เจน เคยบอกว่า บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป พี่นาเป็นอย่างนั้นค่ะ มีบุญวาสนากินบุญเก่า แต่ก็มีกรรมที่มีลูกเป็นอย่างนี้ น่าสงสารพี่นามาก พี่เค้าเสียใจมาก
ผลกรรมคืนสนอง กรรมของพี่นา ที่ทำกับพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่เสียใจก็ไม่ต่างจากลูกสาวด้วยการหนีออก จากบ้านไปอยู่กับผู้ชาย (พ่อของลูก) พ่อแม่ห้ามไม่ฟัง ทำให้ชีวิตตกต่ำจนถึงที่สุดค่ะ เมื่อมีลูกก็ต้องโดนลูกทำกับตนเองบ้าง ซึ่งมากเสียยิ่งกว่า เป็นหลายสิบเท่าค่ะ
กรรมของลูกสาวพี่นา ลูกสาวของพี่นา สมมุติชื่อ ดาว มีอยู่ครั้งหนึ่งพี่นานัดรวมตัว ลูกหลานมาเลี้ยงครอบครัว ลูกสาว อายุ 15 ปี มากับพ่อ (สามีเก่า) ลูกชาย9 ปี ก็มากับพ่อ (สามีเก่าอีกคน) น้องดาวก็มากับสามีใหม่ น้องดาวก็เตือนลูกสาวให้ทำตัวให้ดีลูกสาวบอกว่า ทำไมมาสั่งสอนไม่เคยเลี้ยงดูไม่ต้องมาสอน ถ้าแม่มีสามีหลายคนได้ หนูก็จะมีให้เหมือนแม่ หรือมากกว่าแม่ ถ้าแม่ไม่ดีกับยายเท่าไหร่หนูก็จะทำไม่ดีกับแม่เหมือนแม่ทำกับยายหรือทำให้ มากกว่าหนุจะทำอะไรก็ได้ให้มากกว่าที่แม่ทำให้เหนือกว่า น่าตกใจมั้ยค่ะ น้องดาวจึงด่าทอ ลูกสาวไม่ยอมกันเลยค่ะ จนยายต้องห้ามปรามส่วนลูกชาย บอกว่า ทำไมแม่ชอบด่าว่ายายนัก ผมไม่รักแม่แล้วจะรักแต่พ่อคนเดียว น้องดาวก็ขึ้นเลยค่ะมึงไม่ใช่ลูกกู ลูกชายก็ว่า เออ ได้ ผมก็ไม่ใช่ลูกแม่ สงสารมั้ยค่ะวันครอบครัวแตกหรืออย่างไรกันค่ะ กรรมแท้ ๆ ค่ะ กรรมของลูกชาย หาเช้ากินค่ำเงินไม่ได้มากลำบาก บางครั้งต้องไปเป็นชายขายบริการ ให้ผู้ชายเลี้ยงดูเพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่าย ชีวิตไม่ได้ดีลำบากค่ะ
ประสบการณ์กรรม จากที่ได้เคยนั่งดูอ.เจน ตรวจกรรมผู้ที่มาตรวจกรรม ส่วนมากทำไม่ดี กับพ่อแม่ ทำให้ชีวิตทั้งชีวิตทำสิ่งใดไม่เจริญรุ่งเรืองเลยครอบครัวก็ไม่เป็นสุข ชีวิตรักภายใน ครอบครัวร้อนเป็นไฟ นี่เป็นผลกรรมที่ทำกับพ่อแม่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่เรื่องที่เล่าให้ฟังนี้ มันยิ่งใหญ่มาก จี๊ดไม่อยากจะรอดูผลกรรมของครอบครัวนี้เลยเพราะรู้ล่วงหน้าแล้วว่า อาการ หนักมาก นรก แน่ ๆ ค่ะ
วิญญาณหลายรายเป็นเปรตอยากกราบพ่อแม่ด้วยจิตที่สำนึก ที่ได้ทำผิดกับพ่อแม่ด้วย กาย วาจา และใจ บัดนี้ ได้รับผลกรรมนั้นแล้วพวกเขาได้ไปลงนรก เป็นเปรตอสูรกาย กว่าจะได้ เกิดเป็นมนุษย์ไม่รู้อีกกี่กัปกี่กรรณ วิญญาณเหล่านั้น บางครั้งมาขอสื่อสารกับ อ.เจน ขอให้ ช่วยบอกพ่อแม่ว่าลูกทำผิดไปแล้ว ลูกไม่น่าทำกับพ่อแม่อย่างนั้นอย่างนี้เลย สายไปแล้ว อ.เจน สอนวิญญาณเหล่านั้นไปว่าเหมือนเข็มนาฬิกาที่เดินหน้าไม่มีวันถอยหลังค่ะ ดังนั้น เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้วก็ให้หวนคิดว่า ถ้าไม่มีพ่อแม่เราก็ไม่ได้เกิดมาในโลกใบนี้ ท่านเป็น พระอรหันต์ของลูกไม่ว่าท่านจะทำผิดในสายตาของลุกเพียงใด ท่านก็มีเหตุผลของท่านที่ บอกใครไม่ได้ เพราะท่านก็มีกรรมของท่าน เราก็มีกรรมของเรา หรือเรากับท่านเคยเป็น เจ้ากรรมนายเวรกันมาในอดีตชาติมาในชาตินี้ขอให้คิดว่า เป็นชาติสุดท้ายอย่าได้โกรธเคือง ท่านเลยค่ะการอภัยเป็นทานที่สูงสุด ที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้ค่ะ ถ้าคุณทำได้คุณจะเป็น คนที่มีความเจริญเป็นผู้ประเสริฐ เป็นผู้ที่เลิศในทุกด้าน จะไม่ถูกผู้ใดมาเบียดเบียน เคยมี คำถามว่า คุณเที่ยวไปทำบุญกับพระสงฆ์พระอริยะเจ้า มามากมาย แต่คุณได้เคยทำบุญกับ พระอรหันต์ที่บ้านของคุณแล้วหรือยัง
การลดทอนวิบากกรรมที่ทำกับพ่อแม่ อ.เจน มักสอนเสมอว่า การกราบขอขมากรรม นำดอกไม้พวงมาลัยไปกราบขอขมากรรม นั้นไม่ได้ช่วยให้คุณสามารถปลดปล่อยกรรมจาก ท่านได้นอกจากว่า คุณนำพาท่านไปทำบุญ ให้ท่านได้มีดวงตาเห็นธรรมให้เงินท่านใช้ ด้วยอธิษฐาน ว่า ด้วยเงินที่บริสุทธิ์นี้ขอนำมอบให้พ่อแม่เพื่อตอบแทนพระคุณของท่านที่ เลี้ยงดูคุณมาและหรือ บุญที่ข้าพเจ้าได้นำพาพ่อแม่ทำบุญนี้ ขอให้กรกรมที่ทำไม่ดีกับ พ่อแม่ด้วยกาย วาจา ใจ ขออย่าได้ติดกรรมกับพ่อแม่ ขอให้กรรมนั้น จงขาดจากกัน “ทำอย่างนี้บ่อยๆ ไม่ใช่ทำแค่ครั้งเดียวค่ะ” ฝากไว้ในอ้อมใจว่า พ่อแม่ท่านจะเป็นอย่างไรอย่าไปคิดแทนท่านอย่าเอาความคิดของคุณ ไปสั่งการท่าน แม้แต่ตัวของคุณเองก็ยังทำผิดเลยถ้าท่านจะทำสิ่งใดผิดพลาดไปก็ควรมอง ข้ามไปบ้างค่ะ / ฝากไว้นะค่ะ
จี๊ดจ๊าด
| 
โพสต์เมื่อ 2016-5-7 21:18:13
เพิ่มในรายการโปรด
Facebook
Twitter
Google+
แบ่งปัน
โพสต์เมื่อ 2016-5-8 11:41:52
