สวัสดีค่ะจี๊ดจ๊าดมาเล่าเรื่องงานบุญทอดกฐินและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมบุญทอดกฐิน“ซุ้มประตูมหากฐินนครบุญ” ในวันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม2560 คณะบุญของเราได้ร่วมสร้างซุ้มประตูทางเข้าวัดและร่วมสร้างโบสถ์เขียนภาพวาดพระพุทธประวัติจิตรกรรมฝาผนังโบสถ์ซึ่ง ได้ปัจจัยเงินบริจาคจำนวนทั้งสิ้น 2,390,640.- บาท(รวมค่าก่อสร้างซุ้มประตู 500,000.- บาท ค่าบริวารกฐินต่าง ๆ500,000.- บาทคงเหลือเงินสุทธิเข้าวัดสร้างโบสถ์และภาพจิตกรรมฝาผนัง 1,390,640.- บาท จี๊ดตื่นเต้นดีใจมากค่ะ เพราะงานกฐินของ อ.เจนทุกปีจัดใหญ่จัดจริงและจัดเต็มโดยมีการเตรียมความพร้อมมีแผนการทำงานเพื่อให้งานบุญสำเร็จค่ะ ซึ่งมีเรื่องเล่าที่จี๊ดอยากจะเล่าโดยเริ่มตั้งแต่ก่อนวันงานกฐินดังกล่าวเค้าทำอะไรกันบ้างกว่าจะได้เป็นงานกฐินซึ่งเป็นบุญกุศลที่ทุกท่านได้ร่วมกันทำจนสำเร็จแล้วค่ะ
ชุดทีมทำงานที่บ้านอ.เจน และคุณรุ้ง เป็นแกนนำและช่วยกันทาสีสัตว์ในตำนานทั้งหลายจำพวก หงส์ กินรีช้าง พญานาค เพื่อให้มีสีสันสวยสดงดงาม เพราะว่าร้านค้าที่ อ.เจนสั่งทำและให้มาส่งที่บ้านพบว่าสัตว์แต่ละตัวมีสีซีดไม่สวยงามและบางตัวมีสีขาวจ๋องไม่ได้มีความสวยงามเอาเสียเลยค่ะคุณรุ้งรับไม่ได้สั่งการให้ลูกศิษย์ช่วยกันลงมือระบายสีให้สวยงามเขามาส่งวันเสาร์ก็ลงมือทาสีในคืนนั้นแหละค่ะสัตว์เหล่านี้ทำมาจากโฟมแต่ละตัวนับหมี่นบาทไม่ใช่ถูกนะค่ะ จี๊ดและคณะฯเป็นชุดทำงานที่วัดโดยต้องออกเดินทางไปล่วงหน้าที่จะออกเดินทางเช้าวันศุกร์ประมาณตี5 ไดเพบกับคุณรุ้งรับรู้ว่าเพิ่งทาสีสัตว์เสร็จคือยังไม่ได้นอนกันเลยค่ะ และรอส่งมอบให้คณะเดินทางของจี๊ดรับไปต่อคือทุกคนยังไม่ได้นอน สำหรับรถเข็น 9 คันส่งไปที่วัดตั้งแต่วันพฤหัสบดีแล้ว ดังนั้น วันศุกร์นี้จี๊ดต้องขนสัตว์ในตำนาน ผ้าสีต่างๆ พร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ นำไปจัดงานที่วัดค่ะส่วนชุดทำงานที่บ้านก็ยังต้องทำงานต่อด้วยการติดเพชรเจ้าแม่กวนอิมตลอดทั้งวันทั้งคืนวันเสาร์ค่ะ
ชุดทีมทำงานที่วัดจี๊ด และน้อง ๆ (คุณเป็ก น้องดา น้องแจ๊ค) ได้รับมอบหมายจาก อ.เจนให้เดินทางล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่เช้าวันศุกร์คณะเดินทางที่ไปทั้งหมดต้องช่วยกันตั้งแต่เรื่องการจัดเก้าอี้นั่ง โต๊ะจีนการจัดโต๊ะวางสิ่งของงานกฐิน การจัดผลไม้ต่าง ๆ จัดทำซุ้ม การจัดทำดอกไม้ตั้งเครื่องทองน้อยที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงการตกแต่งรถเข็นให้สวยงามด้วยการจับจีบผ้าสีต่าง ๆ 9 สี สำหรับรถเข็น 9 คันและแบบลวดลายต้องไม่เหมือนกันด้วยค่ะเพราะในศาลามืดแสงไฟไม่พอและมืดมากบางครั้งมีฝนตกฝนกระเซ็นเข้ามาภายในศาลาทำงานไม่ได้จึงขอหลวงพ่อใช้โบสถ์เป็นที่พึ่งค่ะสรุปพวกผู้หญิงช่วยกันจัดผ้าอยู่แต่ในโบสถ์พวกผู้ชายไปจัดโต๊ะเก้าอี้ ประสานกับโต๊ะจีนในการจัดวางโต๊ะเก้าอี้และเรื่องอื่น ๆ อีกมามายค่ะ ชาวบ้านก็มาทำกับข้าวให้กินข้าวกันค่ะแต่คณะทำงานก็ไม่อยากจะกินเพราะมุ่งอยู่กับงานจนเกิดความรู้สึกว่าอะไรมาเรียกให้ไปกินข้าวอีกแล้วจะไม่ไปก็ไม่ได้พวกเขานั่งรอกันทุกมื้อเลยค่ะ
ระวังจะได้เจอดี นี่เป็นคำขู่ของคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่พึงพอใจและไม่เชื่อว่าคณะเสบียงสวรรค์ของอ.เจน จะมาทำบุญกันจริง ช่างจี๋ที่ช่วยเหลืองานหลวงพ่อที่วัดได้พูดกับจี๊ดว่าคนเขาพูดกันและเขาจะมาดูกัน และพูดกันว่าไม่มีคนมากันหรอกใครจะมาตั้งพันคนและถ้าคนกรุงเทพฯ ไม่มานะ คอยดูจะโดนหัวเราะเยาะแต่เมื่อวันนี้ได้เห็นทีมงานของ อ.เจน มาจริงก็เริ่มจะใจชื้นอยู่บ้างและชาวบ้านที่นับถือหลวงพ่อก็มาช่วยกันแต่ก็มีคนมาบอกว่าที่วัดนี้ถ้ามีงานบุญจะต้องทำการตั้งศาลเพื่อทำพิธีบวงสรวงบอกกล่าวเทวดาพวกเขากล่าวว่าที่วัดทำพิธีอย่างนี้ทุกครั้งถ้าไม่ทำจะเกิดอาเพศแก่วัดและชาวบ้านจี๊ดกับคุณเป็กได้อธิบายด้วยความเกรงใจว่างานบุญกฐินเป็นงานของคณะบุญเสบียงสวรรค์โดยอ.เจน ญาณทิพย์ ต้องขอสิทธิ์นี้ให้ อ.เจนแต่เพียงผู้เดียวผู้นำว่าอย่างไรก็อย่างนั้นไม่มีเจ้าพิธีผู้ในในงานนี้ได้ค่ะ กลุ่มคนพวกนี้ไม่ค่อยพอใจ และหันมาบอกว่า ระวังจะเจอดีถ้าไม่ทำพิธีไหว้ศาลนี้จะเกิดอาเพศหลังจากนั้นก็พากันรื้อศาลที่ตั้งไว้จนเรียบร้อย และในขณะนั้นเจ้าหน้าที่วัดก็เล่าให้ฟังอย่างตื่นเต้นเรื่องช้างป่าคนที่นี่นับถือช้างป่ามากตัวสูงใหญ่มากสูงกว่าเต้นทุกคนที่พบเห็นก็จะกลัวมากพวกเราก็ยืนฟังด้วยความสนใจและก็พูดขึ้นว่าเออไม่เคยเห็นก็อยากเห็นเท่านั้นแหละค่ะคนกลุ่มที่รื้อเต้นได้ยินก็พูดขึ้นว่าอย่าพูดอยากเห็นช้างจะเกิดอาเพศและระวังคอยดูคืนนี้ให้ดีละกันจะเจอดีอันนี้เรียกว่างานเข้า
ซึ่งค่ำคืนแรกก็ผ่านพ้นไปได้ค่ะไม่มีอะไรค่ะเพราะเราสวดมนต์ก่อนนอนค่ะ ค่ำคืนที่สองมีผีมากวนผีถูกส่งมาจากผู้หญิงคนหนึ่งค่ะหญิงคนนี้จุดธูปขอให้ผีมารบกวนพวกเราแต่พวกเราอยู่ในโบสถ์คืนที่สองนี้พวกคณะโต๊ะจีนมานอนกันเพียบไม่มีที่นอนค่ะจึงไปนอนกันในโบสถ์แต่ต้องบอกว่าที่โบสถ์นี้ยังไม่ได้ทำพิธีกรรมวางศิลาฤกษ์และยังไม่ได้ฝั่งลูกนิมิตจึงเป็นโบสถ์ที่ใม่สมบูรณ์ค่ะ.คืนวันนั้น ประมาณห้าทุ่ม พวกเราอยู่ในโบสถ์ก็เกิดอยากให้มีลมระบายเข้ามาบ้างจึงให้แจ๊คเปิดหน้าต่าง แต่สักพักเขาก็ปิดหน้าต่างลงแบบเงียบ ๆ และพูดเบา ๆมีสีหน้าหวาดกลัวว่า พี่ผมว่าปิดบานนี้ไปเปิดบานโน้นจะดีกว่ามุมนี้ไม่ดีเลย เมื่อพูดจบคุณเป็กก็เกิดขนลุกขนชันขึ้นมาและมายืนเบียดกันหมดจี๊ดเลยแนะนะว่าถ้าไม่ชัวร์อะไรก็มาเซลฟี่กันเถอะตรงที่ขนลุกนี่แหละส่งไปให้ อ.เจน บัดเดี๋ยวนี้สักพัก อ.เจน ก็บอกว่า เป็นผีถูกส่งมา เป็นป้าแก่ ๆ ส่งมาโดยผู้หญิงแต่ต้องพูดกับป้าคนนี้ให้รู้เรื่องเพราะแกเป็นคนจังหวัดระยองนั่นไง งานเข้าอีกแล้วอ.เจน แนะนำให้เบิกบุญและอุทิศบุญให้ป้าแล้วบอกท่านด้วยให้มารับบุญ ดังนั้นก็กล่าวตาม ๆ กันหลังจากเบิกบุญและเริ่มทำการอุทิศบุญ คุณป้าหิ. พวกเราทั้งหลายหิขอเบิกบุญและอุทิศบุญให้ป้าหิ เมื่อได้รับบุญแล้วหิ ขอให้ป้าไปสู่สุคติหิ...
ตลอดระยะเวลาที่อยู่วัด3 วันพวกเราสวดมนต์ไหว้พระกันมากค่ะมากเสียยิ่งกว่าอยู่ที่บ้านสะอีกพวกเราก็พูดติดตลกขำขำกันค่ะว่าเหมือนพวกเรามาบำเพ็ญเพียรเพราะมีการสวดมนต์เช้า-เย็น-นั่งสมาธิด้วยค่ะ
ระวังจะโดนคนหลอก ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางไปถึงได้พบกับชาวบ้านกำลังขนผลไม้ต่าง ๆจัดแต่งที่ต้นเสาภายในศาลา ซึ่งการจัดประดับตกแต่งไม่ผ่านค่ะพวกเราก็ไปช่วยกันจัดตกแต่งให้สวยงามตามแบบอย่างของงานกฐินค่ะแต่ดูเหมือนมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นจึงได้สอบถามว่า ทำไมไม่เห็นคนมาทำงานมากนักจึงรู้ว่าชาวบ้านไม่เชื่อในการที่คณะบุญของ อ.เจน นับ 1,000 คนจะเดินทางมาเจ้าอาวาสโดนหลอกอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าทีมงาน อ.เจนจะมาลงพื้นที่แล้วก็ตามแต่ชาวบ้านก็ยังพูดว่าพวกเรามาหลอกให้ตายใจแล้วก็จะมาเอาตรายางของวัดไปพิมพ์ซองเรี่ยไรเงินเหมือนกับพวกที่มาหลอกลวงเมื่อปีที่แล้วค่ะเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ต้องสอบถามเรื่องราวที่เจ้าอาวาสโดนหลอกสิค่ะ ปรากฏว่าเจ้าอาวาสโดนหลอกเอาตรายางไปโดยบอกว่าจะมาทอดกฐินที่วัดแต่ไม่มาทำให้วัดเป็นกฐินตกค้างจนชาวบ้านต้องช่วยกันหาเงินมาทำบุญทอดกฐินที่วัดค่ะโถไม่น่ามาหลอกเจ้าอาวาสเลยนะค่ะตัวท่านก็ชราภาพมากแล้วค่ะ
ช้างโค่นต้นกล้วยอ.เจน ขอให้ทางวัดจัดหาต้นกล้วยต้นอ้อยและผลไม้ต่าง ๆมาจัดซุ้มที่ต้นเสาทุกต้นให้สวยงามโดยชาวบานเล่าว่าหลวงพ่อได้ออกบิณฑบาตทุกเช้าก็ได้บอกบุญให้ชาวบ้านที่มีผลไม้ต่างๆ ต้นกล้วยต้นอ้อยถ้ามีแต่ชาวบ้านไม่มีสิ่งของเหล่านี้เลยพวกเขามีรายได้น้อยส่วนใหญ่ทำไร่และรับจ้างค่ะเพราะในพื้นที่นั้นชาวบานมีฐานะยากจนมีอาชีพทำไร่ทำสวนทำนาหาเช้ากินค่ำไม่มีรายได้อะไรเป็นกอบเป็นกำค่ะและที่สำคัญทุกบ้านแทบจะไม่มีต้นกล้วยและผลไม้ค่ะนื่องจากท้องที่นั้นมีจากช้างป่าจำนวน 70 เชือกเข้ามาทำลายต้นไม้และต้นกล้วยเพื่อกัดกินเป็นอาหารด้วยการโค่นต้นกล้วยเหยียบกระทืบให้ต้นแหลกและกินใส้กลางของต้นกล้วยค่ะแต่พอใกล้จะถึงวันงานก็เกิดเหตุมหัศจรรย์มีช้างป่า จำนวน 3 เชือกเข้ามาในหมู่บ้านโค่นต้นกล้วยทั้งหมู่บ้านโดยที่ไม่ได้เหยียบทำลายต้นกล้วยแม้สักต้นและคงอยู่ในสภาพดีมีเครือกล้วยแทบทุกต้นไม่น่าเชื่อเลยค่ะมีชาวบ้านหลายคนต่างก็มาเล่าเรืองนี้ให้รับฟังซึ่งจี๊ดก็ตื่นเต้นตามไปด้วยค่ะเป็นไปได้ยังไงถ้าเวทดาไม่ดลจิตดลใจชาวบ้านบอกว่าช้างป่าเหล่านี้ตัวใหญ่มากสูงกว่าเต้นสะอีกค่ะหรือเป็นเพราะเทวดาจัดสรรให้ก็ไม่รู้นะค่ะ
ผลไม้ต่างๆ ผลไม้ อาทิเช่น ขนุน มะพร้าวทะลาย มะละกอ. มะม่วง. มันแกว หมากทะลายสัปปะรด ฯลฯ แต่เชื่อมั้ยค่ะผลไม้เหล่านี้นำมาจากกัมพูชา (เขมร) นั่นเองอ้าวทำไมละค่ะ เป็นคำถามที่สงสัยมากค่ะ ชาวบ้านตอบว่าผลไม้เหล่านี้นำมาจากชายแดนเขมรเนื่องจากไม่มีผลไม้อะไรในหมู่บ้านก็อย่างที่บอกนั่นแหละค่ะ
โต๊ะจีนนับร้อยโต๊ะพวกชาวบ้านได้เห็นโต๊ะจีนที่มาตั้งวางในวันเสาร์ต่างก็วิพากวิจารว่าหลวงพ่อเป็นคนจัดเลี้ยงแล้วพวกคนกรุงเทพฯเขาจะมากันจริงหรือ ทางหลวงพ่อก็มาเล่าให้ฟังว่าฉันก็บอกเขาว่าหลวงพ่อไม่ได้เลี้ยงโยมเจนเจ้าภาพเขาเป็นคนเลี้ยงและก็ไม่รู้จักกันมาก่อนด้วยแต่ไม่มีใครรับฟังและไม่เชื่อว่า หลวงพ่อไม่รู้จัก พวกเขาย้ำกับหลวงพ่อว่าไปรู้จักกันได้อย่างไรหลวงพ่อต้องรู้จัก ทำไมถึงเจาะจงมาที่วัดนี้กันมากมายถึงตอนนี้เริ่มเชื่อแล้วไงค่ะเพราะโต๊ะจีนมาลง หลวงพ่อก็ยืนยันไปว่าฉันก็ไม่รู้จักกันมาก่อนและฉันเองก็ไม่นึกไม่ฝันจะมีใครมาขอเป็นเจ้าภาพงานกฐินจำนวนนับพันคนอย่างนี้ฉันไม่เคยทำงานใหญ่ไอ้งานอย่างนี้ฉันก็ทำไม่ถูกแต่ก็โชคดีที่ว่ามีช่างจี๋(ช่างรับเหมาก่อสร้าง) เขามาวัดและได้พบกับโยมเจนจึงได้ขันอาสาติดต่อประสานงานกับโยมเจนไอ้ฉันก็ไม่รู้เรื่องอะไรกะเขา ตอนนี้ช่างจี๋เขาก็ไม่รับงานของเขาในช่วงนี้มาเพื่อทำงานบุญแท้ๆ ซึ่งจี๊ดก็ได้เห็นว่าวันที่เดินทางมาช่างจี๋คนนี้ได้นำรถตะขาบและรถแม็คโครนำมาไถเกลี่ยปรับพื้นถนนให้เรียบไม่เป็นหลุมเป็นบ่อเพื่อรถบัสจะได้เข้ามาได้อย่างสะดวกสบายค่ะ
ฝนตกทุกวันยกเว้นวันงานกฐินเมื่อวันเสาร์ฝนยังตกอยู่เลย อ.เจน ก็เป็นห่วงเรื่องที่จอดรถพื้นดินเหลวและแฉะมากคุณเป็กยืนและถ่ายรูปให้ อ.เจน ดูเท้าจมลงไปในดินค่ะ จึงเปลี่ยนแผนที่จอดรถใหม่วันงานก่อนหน้าที่รถบัส 19 คันจะมาถึง ปรากฏว่า เกิดมีฝนตกลงมาอีก คุณเป็กรายงานทันที อ.เจน ครับฝนตก อ.เจนแจ้งกลับมาว่า เดี๋ยวฝนก็หยุดตกไม่ต้องห่วงและก็จริงเมื่อขบวนรถมาถึงฝนหยุดตกสะงั้นค่ะ
ถวายภัตตาหารเพลให้แก่ พระภิกษุสงฆ์ 9 รูปอ.เจน มอบหมายให้จี๊ดและคณะฯ เป็นตัวแทน อ.เจนและผู้ร่วมบุญทุกท่านในการภัตตาหารเพล ซึ่งเป็นอาหารโต๊ะจีนแต่หลวงพ่อขอฉันแบบนั่งพื้นไม่ขอนั่งโต๊ะจีนค่ะซึ่งจะรอให้คณะเดินทางทั้งพันคนมาถวายภัตตาหารฯก็คงไม่ทันค่ะเพราะจะล่วงเลยเวลาฉันของพระสงฆ์ค่ะสำหรับค่าภัตตาหารเป็นเงินบริจาคของทุกท่านนะค่ะ
ทักษิณารอบโบสถ์ เมื่อรถบัสมาจอดตั้งขบวนโดย อ.เจน เดินนำบริวารกฐินเข้ามาในบริเวณรอบโบสถ์ก็ต้องพบกับขบวนรถเข็น 9 คัน
ด้านหน้าเป็นแตรวง
ด้านซ้ายมือ ด้านขวามือ
1 เทวดาและเทพเจ้าชิงไฉ่เอี้ย 2 เทวดาและเจ้าแม่กวนอิม
3 พญานาค 4 ภาชนะ
5 ช้าง 6ภาชนะ
7 หงส์ 8ภาชนะ
9 กินรี
พระอาทิตย์ทรงกลด อ.เจน. ได้อัญเชิญเทวดาและรุกขเทวดาทั้งหลาย โดยขอให้มาผนึกกำลังมาอนุโมทนาบุญด้วยกันถ้าใครจะสังเกตตอนนั้นจะเห็นว่า มีลมอ่อน ๆ มาให้เย็นกันพักหนึ่งและหลังจากนั้นอ.เจน ได้นำทักษิณาองค์บริวารกฐิน ซึ่งในขณะนั้น อ.เจนได้เห็นเหล่าเทวดาทุกขุนเขาท่านมากันหลายขุนเขาและบางขุนเขาก็มากันหลายองค์ต่างก็มากันเต็มไปหมดและมีองค์เทพ 2-3 องค์เหล่าเทวดาต่างก็แซ่ซ้องกันว่า พวกมนุษย์เขาทำอะไรกันหรือ ๆ อ.เจน เล่าต่อไปว่าด้วยพลังแห่งแสงบุญของพวกเราสว่างไสวมากจนกลายเป็นกลุ่มก้อนของแสงมหึมาจนทำให้เหล่าเทวดาทั้งหลายต่างอื้ออึงกันตื่นเต้นในบุญกุศลของคณะบุญเสบียงสวรรค์ค่ะรวมทั้งเจ้าพ่อเขาเขียวก็มาร่วมงานบุญพิธีด้วยค่ะ
ความพร้อมใจความสงบที่ทุกท่านได้พร้อมใจกันมาร่วมงานทอดกฐินนี้จี๊ดประทับใจแทน อ.เจน นะค่ะ สำหรับท่านที่มาร่วมบุญกักนในครั้งนี้ค่ะ
สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงด้วยจิตสำนึกที่มีต่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พ่อหลวงของเราทำคุณประโยชน์ให้กับคนไทยและประเทศชาติทำให้ทุกท่านได้อุทิศบุญให้ในหลวงด้วยจิตที่สำนึกและระลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่านและในตอนนั้นจี๊ดได้แอบเห็น อ.เจน หลั่งน้ำตาออกมาแบบกลั่นไม่อยู่ค่ะ
ความสำเร็จของบุญซุ้มประตูทางเข้าวัดนับจากวันทอดกฐินวันอาทิตย์ที่ 15ตุลาคม 2560 จนถึงปัจจุบันวันที่ 23 ตุลาคม 2560 โดยช่างก่อสร้างได้ส่งรูปภาพการสร้างมาให้อ.เจน ดูเพื่อรับทราบถึงการดำเนินการค่ะ.ซึ่งเมื่อได้เห็นก็อดที่จะภูมิใจแทนทุกท่านที่ได้ไปทำบุญร่วมกันค่ะซึ่งไมน่าเชื่อว่า บุญซุ้มประตูนี้ได้อานิสงส์บุญในทันทีและได้สำเร็จในเร็ววันอย่างที่เห็นค่ะ.ซึ่งลำดับต่อไปก็เป็นโบสถ์วิหารแล้วค่ะ
เรื่องสุดท้ายที่อยากจะบอก
กลับบ้านดึก.โดยมีลูกทัวร์เขียนข้อความอนุโมทนาบุญ และขอไม่ไปทัวร์บุญของ อ.เจนอีกเพราะเป็นผู้หญิงไม่มีครอบครัวตัวคนเดียว แต่กลัวอันตรายจากการกลับบ้านจี๊ดเข้าใจดีค่ะ แต่บุญเท่านั้นที่เราเอาไปได้และเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากเพราะบุญของ อ.เจนยิ่งใหญ่ทุกครั้งและได้รับอานิสงส์บุญใหญ่ทุกครั้งค่ะ เคยมีพระท่านเทศนาธรรมว่าการที่คนเรานั้นบอกบุญชักชวนคนไปทำบุญไม่ทำบุญคนเดียวบุญนั้นเมื่อมีคนจำนวนมากไปร่วมบุญกันจะเป็นมหาบุญที่มีพลังมากเสียยิ่งกว่าการไปทำบุญเพียงผู้เดียวค่ะดังนั้นเราต้องเตรียมความพร้อมหลายด้านแต่ต้องหาวิธีการทำอย่างไรจะไม่เกิดอันตรายแก่ตัวเราที่จะไปทำบุญค่ะเพราะที่ผ่านมา อ.เจนก็ต้องการที่จะให้ผู้ร่วมบุญทำบุญอย่างอิ่มบุญบางครั้งพิธีการอาจมากเพราะต้องทำบุญแบบสงบมีสติไม่เร่งรีบเหมือนการชะโงกบุญแบบมาปุ๊บกลับปั้ปแทบจะไม่ได้อธิษฐานจิตอะไรสักอย่างไม่รู้จะเดินทางไปทำไมเหมือนเปล่าประโยชน์ในบุญนั้นเพราะการทำบุญต้องมีสติพร้อมมีจิตที่ว่างสว่างพร้อมทุกประการด้วยอำนาจบุญและอนิสงส์บุญจะเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณค่ะซึ่งบางครั้งก็ต้องมุ่งมั่นหากเราเข้าใจแล้วเราก็อาจต้องคิดวิธีการความปลอดภัยหลังจากกลับจากงานบุญค่ะแต่อย่างไรก็ตามจี๊ดเชื่อว่าบุญเท่านั้นที่ช่วยเหลือเราได้และเรื่องนี้เป็นสิทธิ์ของทุกท่านที่จะคิดถึงความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้เข้าใจดีค่ะ
จี๊ดขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมกันบริจาคปัจจัยร่วมบุญสร้างกุศลตามเจตนาบุญที่สำเร็จค่ะ
จี๊ดจ๊าด